แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

ข้อคิดข้อรำพึง

อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ ปี C

“ยอห์นยังให้ถ้อยคำอื่นอีกมากตักเตือนและประกาศข่าวดีแก่ประชาชน”

3rd Advent 1

 มีชายคนหนึ่งได้รับเชิญให้ไปพูดเรื่องการเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้ากับนักเรียนในโรงเรียนแห่งหนึ่ง

 ถ้าเราย้อนไปดูภูมิหลังของผู้พูดจะพบสิ่งที่น่าสนใจและน่าประหลาดใจ  เพราะเขาเคยเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทยาแห่งหนึ่ง  แต่แทนที่จะบริหารงานกันอย่างสุจริต  กลับกลายเป็นองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก  เงินที่เขาได้รับในแต่ละเดือนประมาณสามสิบกว่าล้านบาท

 แต่ต่อมา เขาก็ถูกจับ ถูกขังคุก และศาลตัดสินให้ต้องโทษจำคุกถึง 11 ปี  ในคุกนี้เองที่เขามีเวลาพิจารณาอย่างจริงจังถึงชีวิตของเขา  ความรู้สึกผิดได้ครอบงำเขาไว้  เขาสำนึกถึงความผิดที่เคยก่อไว้  และคิดจะฆ่าตัวตาย

 ก่อนจะไปถึงจุดนั้น  เขาได้เป็นทุกข์เสียใจในอดีตของเขา  และหันกลับไปหาพระเจ้า  ตั้งแต่นั้นมา ชีวิตใหม่ก็เปิดขึ้นสำหรับเขา  เป็นชีวิตที่ไม่เคยคิดฝันมาก่อนเลย

 มันทำให้เขาเมื่อพ้นคุกมาแล้ว กลับเข้าไปเรียนในวิทยาลัยอีก และในขณะที่รับเชิญให้ไปพูดที่โรงเรียนดังที่กล่าวไว้ข้างบน  เขากำลังทำปริญญาเอกในเรื่องเกี่ยวกับพันธสัญญาใหม่ในมหาวิทยาลัยคาทอลิกที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง (Mark Link, SJ; Illustrated Sunday Homilies –Year C –Series III : pp.54-55)

 คงทราบใช่ไหมครับว่าเขาจะพูดเรื่องอะไรให้นักเรียนฟัง เรื่องการกลับใจนั่นเอง  ซึ่งเป็นเรื่องที่นักบุญลูกาเล่าไว้ว่ายอห์น บัปติสต์ มาเทศน์สอนข่าวดีให้กับประชาชนในเรื่องนี้  ผู้คนมากมายหลายสาขาอาชีพพากันมาหายอห์นเพื่ออยากรู้ว่าต้องทำอะไร

3rd Advent 2

 ทั้งสามอาชีพเป็นตัวแทนของกลุ่มคนในแบบต่างๆ   พวกแรกเป็นประชาชนชาวยิว เป็นคนดี  เมื่อถามว่าพวกเขาต้องทำอะไร  ยอห์นก็บอกให้แบ่งปันสิ่งที่มีครึ่งหนึ่งให้คนอื่นไป   พวกที่สองเป็นพวกคนเก็บภาษี  พวกนี้เป็นชาวยิวแต่ชื่อ  การปฏิบัติกลับถือตามมาตรฐานของโลก  เหมือนพวกคนต่างศาสนา  ยอห์นจึงแนะนำว่าอย่าเรียกเก็บภาษีเกินพิกัด   พวกที่สามเป็นพวกต่างชาติ (ไม่ใช่ชาวยิว-เป็นทหารโรมัน) ซึ่งยอห์นก็ให้คำแนะนำว่า  อย่าขู่กรรโชก อย่ากล่าวเท็จ  แต่จงพอใจในค่าจ้างของตน

 น่าสนใจว่ายอห์นไม่ได้เรียกร้องจากประชาชนในสิ่งที่ยากเกินไป  ที่เป็นไปไม่ได้  ไม่ได้บอกให้เลิกอาชีพนั้น และไปเข้าเงียบฟื้นฟูจิตใจในทะเลทราย  แต่ขอให้ปฏิบัติหน้าที่นั้นต่อไป  แต่ให้ทำด้วยความซื่อสัตย์มั่นคง เคารพความยุติธรรม  การที่คนเหล่านั้นจะทำตามคำแนะนำของยอห์นได้  พวกเขาก็ต้องก้าวไปข้างหน้า  ไปตามหนทางที่จะนำไปสู่พระอาณาจักรของพระเจ้าให้มากขึ้น

 ถ้าเราจะถามยอห์นบ้างว่าเราต้องทำอะไร  ขึ้นอยู่ว่าเราเป็นอะไร  ขึ้นอยู่กับว่าคุณถูกจัดอยู่ในพวกไหน  ถ้าคุณถูกจัดอยู่ในกลุ่มทหารโรมัน  หมายความว่าคุณไม่ได้ปฏิบัติต่อคนอื่นๆ  ในหนทางแบบคริสตชน  คุณก็ต้องก้าวไปสู่ขั้นสำคัญคือ ปฏิบัติคนอื่นๆ ในแบบคริสตชน

 ถ้าคนถูกจัดอยู่ในหมู่พวกคนเก็บภาษี  คุณเป็นคริสตชนแต่เพียงในนามเท่านั้นหรือเปล่า  ดังนั้นคุณก็ต้องก้าวไปสู่การเป็นคริสตชนที่ปฏิบัติจริงด้วย

 ถ้าคุณถูกจัดอยู่ในหมู่คนที่ดีอยู่แล้ว  เป็นคริสตชนที่ดีแล้ว  ลองไปดูว่าสามารถทำอะไรได้มากกว่านี้หรือไม่  เพื่อจะได้ก้าวไปใกล้พระเยซูเจ้าได้มากยิ่งขึ้น

 ถ้าเราพยายามก้าวหน้าไปอีกขั้นในชีวิตของเรา  ซึ่งถือว่าเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้เราได้ติดตามพระคริสต์ได้ใกล้ชิดขึ้น  เราจะพบกับความยินดีอย่างหาที่สุดไม่ได้  ดังเช่นพระวาจาของพระเจ้าในสัปดาห์นี้ทั้งสามบทอ่าน  รวมบทสดุดีด้วยจะพูดถึงคำว่า  “เปล่งเสียงยินดี”  “โห่ร้อง”  “เปรมปรีดิ์”  “ชื่นชมยินดี” ฯลฯ รวมถ้อยคำที่มีความหมายถึงความยินดีไม่ต่ำกว่า 20 คำ ก็ขอให้นำคำเหล่านี้มาร้อยเรียงในหัวใจของเรา  จากการที่เราก้าวข้ามจากชีวิตแบบเดิมไปสู่การเดินทางฝ่ายจิตที่นำไปสู่พระอาณาจักรพระเจ้า

(คุณพ่อ วิชา  หิรัญญการ เขียนลงสารวัดนักบุญยอแซฟ อยุธยา เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2012)

3rd Advent 33rd Advent 4