แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

ความสัมพันธ์ในวงศ์ตระกูล
21. ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาเป็นรากฐานของความสัมพันธ์ที่ใหญ่กว่า  ซึ่งก็คือ  ความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกทั้งหมดในวงศ์ตระกูล  อาทิเช่น  ระหว่างพ่อแม่กับลูกๆ  พี่ๆ  กับน้องๆ  ญาติพี่น้องกับคนอื่นๆ ในตระกูลเดียวกัน
    ความสัมพันธ์แบบนี้ฝังรากฐานในสายโลหิตตามธรรมชาติและสามารถงอกงามขึ้นจนบรรลุถึงขั้นสมบูรณ์ที่ควรแก่ศักดิ์ศรีของมนุษย์  โดยสร้างและทะนุถนอมความผูกพันธ์ทางจิตใจซึ่งลึกซึ้งและเกิดผลอุดมกว่าความสัมพันธ์ทางสายโลหิตเสียอีก  ความรักที่หล่อเลี้ยงสายสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่เป็นสมาชิกตระกูลเดียวกันนั้น  ก็ยังเป็นแรงที่สร้างและบำรุงความสัมพันธ์รวมทั้งความเป็นกลุ่มเป็นก้อนกันในครอบครัวด้วย
    อนึ่ง  ครอบครัวคริสตชนยังได้รับการเรียกเชิญให้ดำเนินชีวิตตามความสัมพันธ์แบบใหม่ที่เป็นแบบเฉพาะของตัวเอง  ซึ่งจะทำให้ความสัมพันธ์ปกติระหว่างมนุษย์นั้นมั่นคงและมีค่ามากขึ้น  ที่จริงแล้วพระหรรษทานของพระเยซูคริสต์  ผู้ทรงเป็น  “บุตรคนแรกในบรรดาพี่น้องจำนวนมาก”   ก็เป็นดังที่นักบุญโทมัส  อไควนัส  เรียกว่า   “พระหรรษทานแห่งภราดรภาพ”  ตามภาวะและพลังงานของพระหรรษทานนี้เอง  พระจิตเจ้าผู้ทรงถูกหลั่งรินในระหว่างพิธีศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ  ทรงเป็นบ่อเกิดทรงชีวิตและทรงเป็นอาหารอันไม่รู้สิ้นสุด  ที่บำรุงความสัมพันธ์เหนือธรรมชาติซึ่งหล่อหลอมเอาผู้ที่มีความเชื่อทั้งหมดเข้าด้วยกันให้สนิทเป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสต์และกับผู้มีความเชื่อคนอื่นๆ ในเอกภาพของพระศาสนจักรของพระเจ้า  ความสัมพันธ์ภายในพระศาสนจักรปรากฏตัวและเป็นรูปเป็นร่างในครอบครัวคริสตชนอย่างสมลักษณะ เพราะฉะนั้นเป็นการสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องเรียกครอบครัวคริสตชนว่าเป็น “พระศาสนจักรระดับครอบครัว”
    สมาชิกทุกคนในครอบครัวซึ่งแต่ละคนตามพรสวรรค์ที่มีอยู่  ได้รับพระหรรษทานและมีส่วนรับผิดชอบในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลให้มากยิ่งขึ้นทุกวัน  เพื่อให้ครอบครัวกลายเป็น  “โรงเรียนสอนความเป็นคนที่สมบูรณ์ขึ้น”   สิ่งนี้จะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อดูแลรักษาและให้ความรักแก่เด็กๆ  คนป่วย  คนสูงอายุ  รวมทั้งเมื่อรับใช้กันและกันเป็นประจำทุกวัน  เมื่อแบ่งปันทรัพย์สินต่างๆ ให้กัน  และเมื่อร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน
    การอบรมเลี้ยงดูลูกเป็นโอกาสให้พ่อแม่กับลูกคลุกคลีกันในแบบที่มีทั้งการให้และการรับ  การคลุกคลีกันนี้ย่อมเกิดผลเป็นพิเศษในการสร้างความสัมพันธ์ดังกล่าว   การที่ลูกๆ  รัก  เคารพนับถือ  และเชื่อฟังพ่อแม่นั้น  นับเป็นการมีส่วนร่วมที่มีลักษณะโดยเฉพาะของตนและจะหาใครทดแทนมิได้  ในการสร้างครอบครัวที่สมกับเป็นครอบครัวของมนุษย์และของคริสตชนโดยแท้จริง   ลูกๆ จะปฏิบัติตามบทบาทของตนได้สะดวกขึ้นถ้าหากว่าพ่อแม่รู้จักใช้อำนาจอันยกเลิกมิได้  ในทำนองที่เป็น “ศาสนบริการ”  ที่แท้จริงและที่มีลักษณะเฉพาะ หรือเป็นการรับใช้ที่มุ่งความดีของลูกในฐานะที่เขาเป็นคนและเป็นคริสตชน      โดยเฉพาะอย่างยิ่งมุ่งให้เขาบรรลุถึงความเป็นอิสระเสรีควบคู่ไปกับจิตสำนึกรับผิดชอบในตัวเอง  นอกจากนั้น  พ่อแม่ยังจะช่วยลูกได้มาก  ถ้าหากว่ามีจิตสำนึกถึง  “บุญพิเศษ”  ที่ได้รับจากลูกอยู่เสมอ
    มีแต่จิตตารมณ์แห่งความเสียสละและความทุ่มเทตัวเองเท่านั้นที่จะพิทักษ์รักษาและบำรุงความสัมพันธ์ในครอบครัวให้ดีขึ้นได้  ความสัมพันธ์ดังกล่าวเรียกร้องสมาชิกแต่ละคนและทุกคน  ให้ยินดีและพร้อมเสมอที่จะเข้าใจกัน  อะลุ้มอล่วย  ให้อภัย  ปรองดองกัน  และคืนดีต่อกัน  ครอบครัวทุกครอบครัวรู้ดีว่า  ความเห็นแก่ตัว  การไม่ลงรอยกัน  การชิงดีชิงเด่นกัน  การขัดสู้กันเหล่านี้  ได้กระทบกระเทือนต่อความสัมพันธ์ในครอบครัวมากจนกระทั่งความสัมพันธ์นี้อาจจะแตกสลายและสูญสิ้นไปเลย  สิ่งเหล่านี้เป็นต้นเหตุให้เกิดความแตกแยกนานาประการในการครองรักครองเรือน  แต่ในเวลาเดียวกัน  พระเจ้าผู้สร้างสันติ  ทรงเรียกทุกครอบครัวให้มีประสลการณ์ที่น่าชื่นชมยินดีในการปรับความเข้าใจคืนดีต่อกัน  นี่คือ  ความสัมพันธ์ที่สถาปนาขึ้นใหม่และเป็นเอกภาพดั้งเดิม  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อครอบครัวรับศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งการกลับคืนดีและร่วมงานเลี้ยงรับพระกายอันเดียวกันของพระคริสต์นั้น  ครอบครัวก็ยังรับพระหรรษทานที่เหมาะสมและหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบเพื่อที่จะเอาชนะการแตกแยกต่างๆ  พร้อมกับก้าวหน้าไปสู่ความสัมพันธ์อันแท้จริงและสมบูรณ์ตามพระประสงค์ของพระเจ้า ดังนั้น ครอบครวจึงจะตอบสนองความปรารถนาอันแรงกล้าของพระคริสตเจ้าผู้ทรงวิงวอนขอ  “ให้ทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน”