แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

II. การล้อมเมืองเบธูเลีย


โฮโลเฟอร์เนสทำสงครามกับชาวอิสราเอล
7    1วันต่อมา โฮโลเฟอร์เนสออกคำสั่งให้กองทัพทั้งหมด และทุกคนที่มาเป็นพันธมิตรกับเขา เดินทัพออกไปโจมตีเมืองเบธูเลีย ยึดทางขึ้นไปยังแถบภูเขา และเข้าโจมตีชาวอิสราเอล 2วันนั้น นักรบทุกคนออกเดินทาง กองทัพมีทหารราบหนึ่งแสนเจ็ดหมื่นคนa และทหารม้าหนึ่งหมื่นสองพันคน ไม่นับกองเสบียงและผู้เดินตามไปด้วยอีกจำนวนมาก 3เขาตั้งค่ายที่บ่อน้ำในหุบเขาใกล้เมืองเบธูเลีย กระจายกำลังออกเป็นแนวกว้างจากเมืองโดธานจนถึงเมืองบัลบาอิม และแนวยาวจากเมืองเบธูเลียจนถึงเมืองคียาโมนซึ่งอยู่ตรงหน้าที่ราบเอสเดรโลน 4เมื่อชาวอิสราเอลเห็นข้าศึกจำนวนมากก็ตกใจ พูดกันว่า “ในไม่ช้าเขาจะกลืนแผ่นดินทั้งหมด แม้ภูเขาสูงที่สุด หุบเขาลึกและเนินเขาก็ไม่อาจต้านทานน้ำหนักของเขาได้” 5แต่ละคนต่างหยิบอาวุธ จุดไฟไว้บนป้อมปราการ ยืนยามเฝ้าอยู่ตลอดทั้งคืน
    6วันที่สอง โฮโลเฟอร์เนสนำทหารม้าทั้งหมดออกมาให้ชาวอิสราเอลที่อยู่ในเมืองเบธูเลียได้เห็น 7เขาสำรวจทางเข้าเมือง เสาะหาแหล่งน้ำและยึดไว้ ตั้งหมวดทหารเฝ้าอยู่ แล้วกลับไปยังฐานทัพ 8บรรดาหัวหน้าชาวเอโดม หัวหน้าชาวโมอับb และแม่ทัพจากดินแดนชายฝั่งทะเลมาพบโฮโลเฟอร์เนส พูดว่า 9”ขอเจ้านายฟังถ้อยคำของพวกเราเถิด แล้วกองทำลังของท่านจะไม่ต้องสูญเสียอะไร 10ชาวอิสราเอลเหล่านี้ไม่ได้พึ่งหอก แต่พึ่งยอดภูเขาที่เขาอยู่ เราจะขึ้นไปถึงยอดภูเขาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
11”เพราะฉะนั้น ขอเจ้านายอย่าเข้าโจมตีเขาเป็นแนวรบอย่างที่เคย แล้วทหารของท่านจะไม่ล้มตายแม้แต่คนเดียว 12จงอยู่ในค่ายเถิด และให้ทหารของท่านอยู่ในค่ายด้วย ให้ผู้รับใช้ของท่านคุมแหล่งน้ำที่ไหลมาจากเชิงเขา 13เพราะชาวเมืองเบธูเลียทุกคนมาตักน้ำที่นั่น เมื่อเขาจะอดน้ำตาย เขาก็จะยอมจำนนและมอบเมืองให้แก่พวกเรา ส่วนเราและคนของเราจะขึ้นไปยึดยอดเขาที่อยู่ใกล้ๆ ตั้งค่ายอยู่ที่นั่นเพื่อคอยเฝ้าไม่ให้ผู้ใดออกจากเมืองไปได้ 14ความหิวจะทำให้เขา ภรรยาและลูกๆหมดกำลัง   ก่อนที่คมดาบจะมาถึงเขา เขาก็จะนอนตายอยู่ในลานบ้านแล้ว 15ดังนี้ ท่านก็จะลงโทษเขาอย่างสาสมกับการกบฏ ไม่ยอมออกมาพบท่านอย่างสันติ”
16โฮโลเฟอร์เนสและนายทหารทุกคนพอใจถ้อยคำเหล่านี้ เขาจึงสั่งให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของคนเหล่านั้น 17ทหารชาวโมอับcพร้อมกับทหารชาวอัสซีเรียห้าพันคนจึงย้ายค่ายไปตั้งอยู่ในหุบเขา ยึดแหล่งน้ำและบ่อน้ำของชาวอิสราเอลไว้ 18ส่วนชาวเอโดมและชาวอัมโมนพร้อมกับทหารชาวอัสซีเรียหนึ่งหมื่นสองพันคนขึ้นไปตั้งค่ายอยู่บนภูเขาตรงข้ามกับเมืองโดธาน เขาส่งคนจำนวนหนึ่งไปทางใต้และทางตะวันออกตรงข้ามกับเมืองเอเกรเบลใกล้เมืองคูช ซึ่งอยู่ริมห้วยมคมูร์ กองทัพทหารอัสซีเรียที่เหลือตั้งค่ายอยู่ในที่ราบ ปกคลุมพื้นที่ทั้งหมด เพราะกระโจมและสัมภาระมีจำนวนมากมายเพื่อสนองความต้องการของกองทัพยิ่งใหญ่เช่นนี้
19ชาวอิสราเอลร้องหาองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของตน เขาท้อใจเพราะถูกศัตรูล้อมไว้ทุกด้าน ไม่มีทางหนีไปจากวงล้อมได้ 20กองทัพอัสซีเรียทั้งหมด ทหารราบ รถศึกและทหารม้าล้อมเขาไว้เป็นเวลาสามสิบสี่วัน น้ำที่ชาวเบธูเลียทุกคนตักเก็บไว้ก็หมด 21บ่อเก็บน้ำแห้งขอด เขาไม่มีน้ำดื่มจนอิ่มแม้สักวันเดียว เพราะต้องมีการปันส่วนน้ำ 22เด็กๆหมดแรงจนยืนไม่ไหว บรรดาสตรีและชายหนุ่มต่างอดน้ำจนเป็นลมล้มลงตามลานเมืองและประตูเมือง เพราะไม่มีกำลังเหลืออีก
23ประชาชนทั้งหมด รวมทั้งชายหนุ่ม สตรีและเด็กๆพากันไปพบอุสซียาห์และบรรดาผู้ปกครองเมือง ร้องตะโกนต่อหน้าผู้อาวุโสทุกคนว่า 24”ขอให้พระเจ้าทรงตัดสินระหว่างพวกท่านกับพวกเราเถิด เพราะท่านทั้งหลายได้นำความเสียหายใหญ่หลวงมาให้เราโดยไม่ยอมเจรจาสงบศึกกับชาวอัสซีเรีย 25บัดนี้ ไม่มีใครมาช่วยเหลือเราได้ พระเจ้าทรงขายพวกเราให้อยู่ในเงื้อมมือของศัตรู ให้เราต้องหมอบราบต่อหน้าเขาเพราะความกระหายและความพินาศใหญ่หลวง 26จงเรียกพวกเขามาเถิด แล้วจงมอบเมืองทั้งเมืองให้เป็นของเชลยแก่บรรดาทหารของโฮโลเฟอร์เนสและกองทัพทั้งหมดของเขา 27พวกเราเป็นเหยื่อของเขายังดีกว่า ถึงแม้จะต้องตกเป็นทาส แต่อย่างน้อยเราก็ยังรอดชีวิต ไม่ต้องเห็นลูกๆต้องตายไปต่อหน้าต่อตาเรา หรือเห็นบุตรภรรยาของเราต้องสิ้นใจ 28พวกเราขอร้องท่านในนามของสวรรค์และแผ่นดิน ในพระนามของพระเจ้าของเรา องค์พระผู้เป็นเจ้าของบรรพบุรุษ ผู้ทรงลงโทษพวกเราเพราะบาปของเราและเพราะความผิดของบรรพบุรุษ ขอให้ท่านทำตามข้อเสนอของเราในวันนี้เถิด”d
30อุสซียาห์ตอบเขาว่า “พี่น้องทั้งหลาย จงทำใจให้ดีไว้เถิด ให้เราอดทนต่อไปอีกสักห้าวัน ภายในเวลาห้าวันนี้ องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราจะทรงแสดงพระเมตตาต่อเราอีก พระองค์จะไม่ทรงทอดทิ้งเราตลอดไป 31ถ้าช่วงเวลานี้ผ่านไปโดยที่พวกเราไม่ได้รับความช่วยเหลือ ข้าพเจ้าจะทำตามข้อเสนอของท่าน” 32แล้วอุสซียาห์ก็ให้ประชาชนกลับไปประจำที่มั่นของตน เขาก็กลับไปยังกำแพงและป้อมปราการของเมือง และส่งพวกผู้หญิงและเด็กๆกลับไปบ้าน แต่ทุกคนในเมืองต่างท้อแท้หมดกำลังใจ