แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

8. พระเจ้าทรงเผยแสดงพระองค์ในพระคัมภีร์พระธรรมเดิมอย่างไร

ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม พระเจ้าทรงแสดงพระองค์  ในฐานะพระผู้ทรงสร้างโลกด้วยความรัก และยังคงซื่อสัตย์ต่อมนุษย์ แม้เมื่อมนุษย์ตกอยู่ในบาป ถอยห่างจากพระองค์ (54-64, 70-72)

 

พระเจ้าทรงทำให้การพบพระองค์เป็นสิ่งที่เป็นได้ในประวัติศาสตร์ พระองค์ทรงกระทำพันธสัญญากับโนอาห์เพื่อรักษาสิ่งมีชีวิตทั้งหลายไว้ พระองค์ทรงเรียกอับราฮัม ได้รับพระพรเพราะท่าน (ปฐก 12 :3ข) ประชาชนชาวอิสราเอลเกิดจากอับราฮัม และกลายเป็นประชากรเพื่อให้ท่านเป็น “บิดาของชนชาติจำนวนมาก” (ปฐก 17:5ข) และทรงอวยพร “บรรดาเผ่าพันธุ์ทั้งสิ้นทั่วแผ่นดิน จะของพระองค์ พระองค์ทรงเผยพระนามของพระองค์แก่โมเสส ซึ่งเป็นพระนามเร้นลับว่า YHWH (ยาห์เวห์) โดยปกติคำว่า ยาห์เวห์ หมายถึง “เราคือเราเป็น” (อพย 3:14) พระองค์ทรงปลดปล่อยชาวอิสราเอลจากการเป็นทาสในประเทศอียิปต์ ทรงกระทำพันธสัญญากับพวกเขาบนภูเขาซีนาย และทรงประทานพระบัญญัติแก่พวกเขาโดยผ่านทางโมเสส พระเจ้าทรงส่งบรรดาประกาศกมาหาประชากรของพระองค์ครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อเรียกพวกเขาให้กลับใจ และฟื้นฟูพันธสัญญาขึ้นใหม่ บรรดาประกาศกประกาศว่าพระเจ้าจะทรงตั้งพันธสัญญาขึ้นใหม่ เป็นพันธสัญญานิรันดร อันนำมาซึ่งการฟื้นฟูอย่างถอนรากถอนโคน และการช่วยให้รอดพ้นจากบาปในที่สุด พันธสัญญานี้เปิดกว้างสำหรับมนุษย์ทุกคน

 

ทุกอย่างที่พูดเกี่ยวกับพระเจ้า 

แสดงถึงบางอย่างที่พระเจ้าตรัส 

นักบุญ เอดิธ สไตน์ (1891-1942 คริสตชนชาวยิว 

นักปรัชญา นักบวชคณะคาร์เมไลท์ เหยื่อค่ายกักกัน)

 

ในองค์พระเยซูคริสตเจ้า พระเจ้าทรงรับโฉมหน้าของมนุษย์ และทรงกลายเป็นเพื่อนและพี่น้องกับเรา 

 สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 

6 กันยายน 2006

 

การบังเกิดเป็นมนุษย์ (INCARNATION)

(ภาษาลาติน CARO, CARNIS เนื้อ “กลายเป็นเนื้อหนัง”) พระเจ้าทรงบังเกิดเป็นมนุษยในพระเยซูคริสตเจ้า นี่เป็นรากฐานความเชื่อคริสตชน และความหวังของการไถ่กู้มนุษยชาติ

 

“ในอดีต พระเจ้าตรัสแก่บรรพบุรุษของเรา โดยทางประกาศกหลายวาระและหลายวิธี ครั้นมาสมัยนี้ เป็นวาระสุดท้าย พระองค์ตรัสแก่เราโดยทางพระบุตร” (ฮบ 1:1-2)