เทียน (Candles)
เทียน ที่มีเปลวไฟที่ให้ความอบอุ่น ต่ำต้อย มีชีวิตชีวา
เป็นสัญลักษณ์ถึงการอยู่ เป็นเพื่อนและยึดเวลาการภาวนาของเรา


Christmas-Candle-Photoshop-Tutorialแรกเริ่มเดิมทีนั้น เราใช้เทียนเพื่อส่องสว่าง ในสุสานใต้ดิน คริสตชนใช้ตะเกียงน้ำมันเล็กๆ ซึ่งองค์พระเยซูตรัสพาดพิงถึงในนิทานเปรียบเทียบเรื่องสาวพรหมจรรย์ 10 คน (มธ.25.1-13) สัญลักษณ์เป็นถึงการตื่นเฝ้าล่วงหน้าของสัตบุรุษ เป็นความหมายที่เหนือกว่าความต้องการใช้เทียนเพื่อส่องสว่าง คริสตชนใช้เทียนเพื่อจุดประสงค์ด้านสัญลักษณ์ เมื่อมีการเสกพระแท่นโดยการเจิมน้ำมัน จะคลุมด้วยผ้าคลุมแท่นแล้วจุดเทียน รอบๆ แท่น พิธีกรรมส่วนใหญ่มีการจุดเทียนจนเป็นที่คุ้นเคยสำหรับการฉลองแบบคาทอลิก (พี่น้อง ออธอร์ดอกซ์ โปรเตสแตนท์และยิวก็เช่นกัน)

          ความสว่างเกี่ยวข้องกับพระคริสต์เจ้าอย่างหนีไม่พ้น..พระองค์ทรงประกาศว่า “เราเป็นแสงสว่างส่องโลก” (ยน.8.12) ในบทข้าพเจ้าเชื่อ (Credo) กล่าวถึงพระเยซูว่าทรงเป็น “องค์ความสว่างจากองค์ความสว่าง” คริสตชนเป็น “บุตรของความสว่าง (อฟ.5.8) ที่ไม่ดำเนินชีวิตในความมืดอีกต่อไป มีการมอบเทียนที่จุดสว่าง ที่ในตอนท้ายของพิธีศีลล้างบาป ประธานในพิธีเป็นผู้จุดเทียนโดยกล่าวว่า “จงรับแสงสว่างของพระคริสตเจ้าเถิด”

           ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ มีพิธีเสกเทียน ผู้ร่วมพิธีจะถือเทียนเข้าร่วมขบวนแห่ เพื่อฉลองการถวายพระกุมารในพระวิหาร ซึ่งเรียกกันว่า “วันเสกเทียน” ในพระวรสารที่อ่านในวันนั้นผู้เฒ่าสิเมโอน ในบทภาวนา Nunc Dimittis ของท่าน เมื่อเห็นกุมารน้อยที่ท่านอุ้มไว้ในวงแขนว่า “แสงสว่างส่องแสงแก่ชนต่างชาติ” (ลก.2.32) ตัวอย่างที่เป็นที่รู้จักกันที่เกี่ยวกับเทียนศักดิ์สิทธิ์ คือ เทียนปัสกา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพระคริสต์ผู้ทรงกลับคืนชีพ คืนตื่นเฝ้า (วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์) ซึ่งเป็นจุดสุดยอดของปีพิธีกรรม เริ่มด้วยการเสกไฟอย่างสง่า นี่เป็นการปรับปรุงจารีตแบบยิวที่จัดให้การจุดตะเกียงตรงกับวันศุกร์เย็นเพื่อเริ่มต้นวันสับบาโต กลายเป็นการตื่นเฝ้า (Lucernarium มาจากคำละติน Lucerna แปลว่า “ตะเกียง”) ของพระศาสนจักรแรกเริ่ม

           ประธานในพิธีเอาเหล็กแหลมขีดเป็นรูปเครื่องหมายต่างๆ ของพระคริสต์เจ้า บนเทียนปัสกา เช่น กางเขน อัลฟา โอเมกา ที่เป็นตัวอักษรแรกและตัวอักษรสุดท้ายของพยัญชนะกรีก (วว.1.8) ในที่สุด เขียนตัวเลขสี่ตัวที่บอกปีคริสตศักราช เอากำยาน 5 เม็ดติดบนเทียน เทียนซึ่งหลอมละลายเข้ากันที่ศูนย์กลางและปลายกางเขน 4 ด้าน เหมือนเป็นการเตือนถึงรอยแผลทั้งห้าของพระคริสต์ที่ถูกตรึงกางเขนที่พระหัตถ์ทั้งสองข้าง ที่พระบาททั้งสองข้างและสีข้าง เทียนถูกจุดจากไฟใหม่และถือเทียนปัสกาแห่เข้าวัด ขณะที่สังฆานุกรประกาศ 3 ครั้งว่า “พระคริสตเจ้า องค์ความสว่างของชาวเรา” เทียนที่จุดระหว่าง 50 วัน ในเทศกาลปัสกาจะลุกไหม้ ในหัวใจของผู้รับศีลล้างบาป ไม่มีวันออกจากใจนั้น ระหว่างพิธีปลงศพ จะมีการจุดเทียนปัสกาใกล้หีบศพในฐานะเป็นเครื่องหมายแสดงความหวัง