ชะลอความเร็ว
slowdownnotaraceดังนั้น เรามั่นใจได้ว่าต้องมีบางสิ่งบางอย่างแน่นอน บางสิ่งที่เรียกว่า “อะไรอื่น” นี้ เราอาจสังเกตเห็นเมล็ดพันธุ์ของสัญชาตญาณหนึ่ง หรือแรงกระตุ้นบางอย่างในตัวเรา เป็นความรู้สึกอยากเอื้อมไปหาใครบางคน เป็นสัญชาตญาณที่จะพูดว่า “ขอบคุณ” ความจำเป็นต้องกล่าวว่า “ขอโทษ” หรือความปรารถนาจะช่วยเหลือใครบางคน แต่เราอาจสูญเสียห้วงเวลานั้นไปได้ เว้นแต่ว่าเราจะหาพื้นที่ว่างให้มันมีโอกาสหายใจ

พื้นที่ว่างเพื่อให้สิ่งที่เงียบสงบได้มีโอกาสหายใจนี้ เป็นสิ่งที่หาได้ยากเย็นเหลือเกินในวัฒนธรรมของเรา จังหวะชีวิตในแต่ละวันของเรามีแต่ความเร่งรีบ ชีวิตของเราเหมือนกับรถไฟที่เริ่มออกวิ่งช้า ๆ ตั้งแต่เช้า แวะจอดที่หมู่บ้านเล็ก ๆ ทุกแห่ง แต่แทนที่จะวิ่งไปเรื่อย ๆ ผ่านพื้นที่ชานเมือง มันกลับวิ่งเร็วขึ้น เร็วขึ้น เพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ผ่าน
ทุกสถานี จนกระทั่งขบวนรถโยกไปมา จนเราต้องเกาะที่นั่งและสัมภาระของเราไว้แน่น – แต่รถไฟก็ยังเร่งความเร็วต่อไปอีก เรารอเพียงว่าเมื่อไรมันจะตกราง
ในวัฒนธรรมที่คนต้องการเพิ่มความเร็ว และรวบรวมสิ่งของใส่กระเป๋าให้มากขึ้น จนกลายเป็นการทำร้ายตนเองนี้ คนจำนวนมากกำลังร้องขอพื้นที่ว่างให้ตนเอง เขาต้องการชะลอความเร็ว มีเรื่องเล่าว่า ครั้งหนึ่ง ชาวยุโรปได้ว่าจ้างลูกหาบกลุ่มหนึ่งให้แบกสัมภาระเดินป่า เขาเร่งลูกหาบให้เดินอย่างรวดเร็วจนเมื่อเขาเดินออกมาอยู่ในที่โล่ง ลูกหาบพากันนั่งลงพัก นายจ้างชาวยุโรปพยายามเร่งให้พวกเขาออกเดินทางต่อไป แต่หัวหน้าลูกหาบตอบเขาว่า “ไม่ครับ เราไม่ไปไหนทั้งนั้น เราเดินทางมาไกลมาก และเร็วมาก จนเวลานี้เราต้องรอให้วิญญาณของเราตามมาให้ทันก่อน” วัฒนธรรมของเราก็เป็นอย่างนี้
ดังนั้น เราแต่ละคนจึงต้องสอดแทรกช่วงเวลาชะลอความเร็วเข้าไปในชีวิตของเรา เมื่อนั้น เราจะสามารถได้ยินเสียงกระซิบเบา ๆ จากดินแดนอื่นซึ่งเราเพิ่งจะรู้ว่ามีอยู่จริง เราจำเป็นต้องหาช่วงเวลาที่สงบเงียบในแต่ละวันของเรา และพยายามยืดเวลานี้ออกไป เราจำเป็นต้องหาเวลาเพื่อหยุดพัก รื้อของออกจากกระเป๋า และหาวิธีจัดกระเป๋าใหม่ การชะลอความเร็วเป็นส่วนสำคัญของการเดินทางฝ่ายจิต ถ้าเราชะลอความเร็วในชีวิตได้ เราจะไม่ต้องกังวลอีกต่อไปว่าเราจะตกราง และเราจะเริ่มสังเกตเห็นทิวทัศน์ชานเมืองที่สวยงาม ซึ่งเราเดินทางผ่านไป

คำถาม
เวลาใดเป็นเวลาที่คุณสามารถ “ชะลอความเร็ว” ในชีวิตของคุณได้ อย่าบอกว่าคุณไม่มีเวลาทำเช่นนี้เลย อาจเป็นเวลาที่คุณอยู่ในห้องน้ำ หรือนอนบนเตียงเวลากลางคืน หรืออาจเป็นเวลาที่คุณจูงสุนัขออกไปเดินเล่น หรือขับรถ หรือเข้าคิวรอจ่ายเงินที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือระหว่างทำกิจกรรมอื่น ๆ มากมาย – เวลาใดที่เหมาะสมสำหรับคุณ

ลองทำดู

  • ก่อนจะเริ่มจับงานชิ้นใหม่ (ไม่ว่าจะเป็นงานบ้าน หรืองานที่สำนักงาน) ให้หยุดสักครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มต้นทำงาน ลองคิดทบทวนว่าคุณรู้สึกอย่างไรกับงานที่คุณเพิ่งทำเสร็จไป และงานที่คุณกำลังจะเริ่มต้นทำ คุณรู้สึกสบายใจหรือเปล่า มีอะไรที่คุณอยากขอบคุณ หรืออยากขอความช่วยเหลือหรือเปล่า คุณจำเป็นต้องหยุด และยินดีกับห้วงเวลาหนึ่งที่คุณเป็นของตัวเองหรือเปล่า
  • เมื่อคุณเดินจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง พยายามเดินให้ช้าลง การก้าวให้ช้ากว่าปกติอาจทำได้ยาก ดังนั้น ให้ตั้งใจเดินให้ช้าลง และระหว่างที่เดิน ให้หายใจเบา ๆ ช้า ๆ รับรู้ความเคลื่อนไหวของร่างกายคุณ สังเกตสิ่งที่อยู่รอบตัวคุณ และชื่นชมสิ่งเหล่านี้
  • นัดหมายกับตัวคุณเอง – เคยมีคนไข้คนหนึ่งขอนัดเวลาพบนักจิตวิทยาชื่อคาร์ล จุง  เขามองสมุดบันทึก และบอกว่าเขามีนัดในเวลานั้นแล้ว แต่ในเวลาดังกล่าว เมื่อคนไข้ของเขานั่งอยู่บนเรือ เขาเห็นจุงนั่งอยู่บนฝั่งทะเลสาบคนเดียว เขานั่งห้อยเท้าในน้ำโดยไม่ทำอะไรเลย เมื่อถึงเวลานัดหมาย คนไข้แสดงความไม่พอใจ และต่อว่าจุง ที่เขาบอกว่ามีนัดแล้ว ทั้งที่เขาไม่ได้ทำอะไรเลย จุงตอบว่า “ไม่จริงเลย ผมไม่เคยพลาดเวลาที่ผมนัดหมายกับตนเอง” คุณก็ควรทำเช่นเดียวกัน ลองสัญญากับตนเองว่าคุณจะหาเวลาสักครู่เพื่อจะไม่ทำอะไรเลย จงชะลอความเร็ว จงหยุดพัก คุณอาจพบบุคคลพิเศษที่กำลังคอยพบกับคุณอยู่


คำคม
ความรักก็มีความเร็วของตนเอง เป็นความเร็วภายใน เป็นความเร็วทางจิตวิญญาณ ซึ่งต่างจากความเร็วของเทคโนโลยีที่เราคุ้นเคย ไม่ว่าเราสังเกตหรือไม่ก็ตาม แต่ความรักเคลื่อนที่อยู่ในส่วนลึกของชีวิตของเราด้วยความเร็วสามไมล์ต่อชั่วโมง นี่คือความเร็วเมื่อเราเดิน ดังนั้น ความรักของพระเจ้าจึงเดินด้วยความเร็วเท่านี้
                                Kosuke Koyama

เรื่องเล่า
ชายคนหนึ่งไปหานักพรตที่มีชื่อเสียงว่าปราดเปรื่องในเรื่องชีวิตจิต เขาขอให้นักพรตสอนเขาเกี่ยวกับการเดินทางฝ่ายจิต แล้วเขาก็พูดไม่หยุดเกี่ยวกับตนเองและความคิดเห็นของเขา ในที่สุด นักพรตลุกขึ้นไปชงชาในขณะที่ชายคนนั้นพูดต่อไปไม่หยุด นักพรตเริ่มรินน้ำชาใส่ถ้วยของแขก แต่เมื่อชาเต็มถ้วยแล้วเขาก็ยังรินต่อไป น้ำชาไหลล้นลงมา
บนจานรองถ้วย แต่นักพรตก็ยังรินต่อไป น้ำชาไหลล้นจานรองลงมาบนโต๊ะ แต่เขาก็ยังรินต่อไป ในที่สุด ชายคนนั้นไม่อาจยั้งใจได้อีกต่อไป เขาบอกว่า “ท่านไม่เห็นหรือว่าถ้วยนั้นเต็มแล้ว” นักพรตบอกว่า “ถูกแล้ว คุณก็เหมือนกัน คุณเต็มไปด้วยตัวเอง และความคิดของคุณเอง จนไม่มีที่เหลือให้ผมสอนอะไรคุณได้อีก”


บทสดุดี 23     สำหรับคนธุระมาก
พระเจ้าทรงเป็นผู้กำหนดอัตราความเร็วของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าจะไม่เร่งรีบ
พระองค์ทรงทำให้ข้าพเจ้าหยุด และพักผ่อนเงียบ ๆ เป็นครั้งคราว
พระองค์ประทานภาพลักษณ์ความสงบ
ซึ่งคืนความสงบเยือกเย็นให้ข้าพเจ้า
พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าไปตามหนทางแห่งประสิทธิภาพ
ผ่านจิตใจที่นิ่งสงบ และการนำทางของพระองค์คือสันติสุข
แม้ข้าพเจ้ามีหลายสิ่งหลายอย่างต้องทำให้สำเร็จ
ข้าพเจ้าจะไม่กระวนกระวาย เพราะพระองค์ประทับอยู่ที่นี่
การอยู่เหนือกาลเวลาของพระองค์  ความสำคัญเหนืออื่นใด
ของพระองค์ ทำให้ข้าพเจ้ารักษาสมดุลในชีวิต
พระองค์ทรงเลี้ยงอาหาร และฟื้นฟูจิตใจข้าพเจ้า
ท่ามกลางกิจกรรมของข้าพเจ้า
โดยทรงเจิมจิตใจข้าพเจ้าด้วยน้ำมันแห่งความสงบของพระองค์        
ถ้วยแห่งพลังงานอันน่ายินดีของข้าพเจ้าล้นปรี่
เวลาของข้าพเจ้าย่อมจะผลิตผลเป็นความกลมเกลียว และประสิทธิผล
เพราะข้าพเจ้าจะเดินตามความเร็วของพระเจ้าของข้าพเจ้า
และพำนักในบ้านของพระองค์ตลอดไป
                                                        Toki Miyashima

 

ที่มา: หนังสือเรียนรู้การภาวนา... ด้วยภาวนา