แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

พระเจ้าข้าทำไมเราต้องออกแรงพยายามเสมอ … ข้าฯรู้สึกไม่ชอบเลย

เด็กๆมากมาย และบางทีก็ไม่ใช่เด็กด้วย ที่ยอมให้กิจกรรมทุกสิ่งที่ตนเองกระทำ  ขึ้นอยู่กับความรู้สึกชอบ  ที่จะกระทำหรือไม่กระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง  บางครั้งมีเหตุผลเพียงแค่ ไม่อยากออกแรงพยายาม 
บางคนได้รับการสนับสนุนว่า ถ้าไม่รู้สึกว่าอยากทำก็ไม่ต้องทำเป็นดีที่สุด  พวกเขาจะคิดว่าเป็นความไม่ซื่อสัตย์ต่อตนเองถ้าเขาทำสิ่งง่ายๆเพราะเขาถูกบังคับให้กระทำ  เขาคิดว่านั่นเป็นการเสแสร้ง เป็นต้นในเรื่องที่เกี่ยวกับพระเป็นเจ้า “ฉันไม่เห็นจำเป็นที่จะต้องยิ้มให้ใคร  สวด  หรือไปร่วมมิสซา ถ้าฉันไม่รู้สึกอยากทำ”
ทัศนคติแบบนี้ เกิดขึ้นจากความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความหมายของคำว่า เสรีภาพ
การเคารพในเสรีภาพของเด็กๆ ไม่ได้หมายความว่าอนุญาตให้พวกเขาทำได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาอยากจะทำ

เสรีภาพที่พระเจ้าทรงประทานให้แก่เรา ไม่ใช่เสรีภาพที่จะทำอะไรก็ได้ที่เข้ามาในความคิด สิ่งที่พระองค์ประทานให้เราคือ เสรีภาพที่จะรักอย่างแท้จริง รักตนเอง รักผู้อื่น และรักพระเจ้า ซึ่งไม่เกี่ยวกับว่าเรารู้สึกอย่างไร
พระเยซูเจ้า ไม่ได้  รู้สึกชอบ  ที่จะตายเพื่อเรา

พระเจ้าข้า
ทำไมต้องออกแรงพยายามด้วย
ข้าฯไม่อยากทำเลย
ข้าฯไม่อยากลุกขึ้น
และข้าฯไม่อยากไปนอน เมื่อถึงเวลา
ข้าฯไม่ชอบที่จะต้องไปทำงาน
ข้าฯไม่ชอบที่จะต้องไปวิทยาลัย
ข้าฯไม่เห็นชอบเลยที่จะต้องทำงานบ้าน
ข้าฯไม่ชอบที่จะต้องรีดผ้า
ข้าฯไม่ชอบเลย ที่จะต้องปิดทีวี
และต้องทำการบ้าน
ข้าฯไม่ชอบ ที่จะต้องรักษาความเงียบ
หรือต้องพูดคุยต่อไป
ข้าฯไม่ชอบที่จะต้องไปหาคนนั้น
ไม่ชอบที่จะต้องจับมือกับเขา
หรือแม้แต่ยิ้มให้
ข้าฯไม่อยากโอบไหล่เขาเลย
ข้าฯไม่อยากช่วยเหลือ เวลาที่เขาอ้อนวอน
ข้าฯไม่อยากอุทิศตัวเอง
ข้าฯไม่อยากไปประชุมเลย
ข้าฯไม่ชอบเลยที่จะต้องปฏิเสธทางเบี่ยง
ที่อาจนำข้าฯออกไปนอกทาง
หรือที่ต้องตื่นจากจินตนาการอันบรรเจิดในความฝันซึ่งไม่มีวันสิ้นสุด
ข้าฯไม่รู้สึกอยากต่อสู้ดิ้นรน
ต้องหยุด
ต้องไตร่ตรอง
ต้องพิศเพ่งรำพึงพระวาจาของพระองค์
และข้าฯไม่รู้สึกชอบสวดภาวนา

พระเจ้าข้า
ทำไมเราต้องออกแรงพยายามด้วย
เพื่อที่จะมีชีวิตในแต่ละวัน
ตามแนวทางที่พระองค์ทรงปรารถนา
มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย  และก็ไม่สนุกด้วย พระเจ้าข้า
บ่อยเหลือเกิน ที่ข้าฯชอบทำสิ่งที่ข้าฯไม่ควรกระทำ
และสิ่งที่ข้าฯควรทำ ข้ากลับไม่รู้สึกอยากที่จะทำ
พระเจ้าข้า
จริงหรือที่เราต้องออกแรงพยายามเสมอ
แม้ในขณะที่เราไม่รู้สึกอยากที่จะทำสักนิดหนึ่ง

ลูกที่รัก พระเจ้าตรัส
มันเป็นความจริง
ที่เราต้องรดน้ำเมล็ดพืชทุกวัน 
ถ้าต้องการให้มันเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่
ที่แม่ทุกคนต้องเจ็บปวดเมื่อคลอดบุตร
และพ่อแม่ทุกคนต้องเหน็ดเหนื่อยในการอบรมเลี้ยงดูเด็กๆ
จนกว่าพวกเขาจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่
ที่คนทำขนมปังต้องทำงานตอนกลางคืน ถ้าต้องการให้แป้งฟู
ที่คนงานต้องยืนเรียงแถวในโรงงาน ถ้าต้องการให้รถยนต์วิ่งได้
มันเป็นความจริง
ที่นักวิทยาศาสตร์ต้องค้นคว้าเป็นเวลายาวนาน
เพื่อที่จะค้นหายาเพื่อรักษาโรค
ที่ชายหรือหญิงต้องเสียสละชีวิต เพื่อที่ความยุติธรรมจะมาถึง
ที่คู่รักต้องตายจากความเห็นแก่ตัวเองทุกวัน
เพื่อความรักจะสามารถคงอยู่ต่อไป
แม้ว่า…พวกเขาไม่รู้สึกชอบที่จะทำสิ่งนั้นเลย

ลูกรัก
ศักดิ์ศรีของเจ้า
เสรีภาพอันสวยสดงดงาม 
และพลังแห่งความรักของเจ้า จะอยู่ที่ไหน
ถ้าหากพระเจ้าจะทรงประทาน
ต้นไม้ที่โตเต็มที่
เด็กที่สมบูรณ์แบบ
อาหารที่พร้อมเสมอบนโต๊ะอาหารทุกเวลา
ยาที่รักษาโรคได้ทุกชนิด
โลกที่เหมือนกับสวรรค์สำหรับมนุษยชาติที่มีสันติสุข
และความรักที่เต็มเปี่ยมสมบูรณ์ ซึ่งไม่มีวันจืดจาง

ใช่….มันเป็นเรื่องยากที่จะเป็นมนุษย์
และยากยิ่งขึ้นที่จะเป็นบุคคลที่น่ารัก  เรา รู้ดี
เราไม่ได้ต้องการที่จะต้องใช้เวลาถึง 30 ปี เพื่อที่จะค่อยๆเดินขึ้นเขากัลวารีโอ
แต่เพราะเป็นพระประสงค์ของพระบิดาของเรา
ที่ต้องการให้ชีวิตทั้งสิ้นของเราเป็นของถวายสำหรับเจ้า
และเรารักเจ้า รักพี่น้องชายหญิงของเรา
และเราจึงออกแรงพยายาม
ที่จะเดินไปสู่กางเขน
ดังนั้น  ความพยายามทั้งหมดของเจ้า จะได้รับรางวัล
จะได้รับมงกุฎพร้อมกับชีวิตนิรันดร์

ไปเถอะ ลูกรัก
อย่าถามตนเองว่ารู้สึกอย่างไรในการทำสิ่งนั้นสิ่งนี้
แต่ให้ถามว่ามันเป็นสิ่งที่พระบิดาต้องการหรือไม่
สำหรับตนเอง สำหรับพี่น้องชายหญิง
ไม่ต้องวอนขอกำลังที่จะต้องออกแรงพยายาม
แต่จงขอให้มีความรักด้วยสิ้นสุดจิตใจ สิ้นสุดกำลัง
รักพระเป็นเจ้า และรักเพื่อนพี่น้อง
เพราะว่ายิ่งเจ้ารักมากขึ้นสักนิดหนึ่ง เจ้าก็จะทุกข์ยากน้อยลงเช่นกัน
และยิ่งเจ้ารักมากขึ้นเท่าใด
ความทุกข์ยากของเจ้า
ก็จะทำให้เจ้าพบความชื่นชมยินดี และชีวิตนิรันดร์

“แต่ท่านทั้งหลายคิดเห็นอย่างไร คนหนึ่งมีบุตรชายสองคน บิดาไปหาคนแรกว่า ลูกเอ๋ย วันนี้จงไปทำงานในสวนองุ่นเถิด บุตรคนนั้นตอบว่า ไม่ไป แต่ภายหลังกลับใจแล้วไปทำ บิดาจึงไปหาบุตรคนที่สอง พูดเช่นเดียวกัน บุตรคนนั้นกล่าวว่า ไปขอรับแต่ไม่ไป ก็บุตรสองคนนี้คนไหนเป็นผู้ทำตามใจของบิดาเล่า” เขาทูลตอบว่า คือบุตรคนแรก
 พระเยซูเจ้าตรัสตอบพวกเขาว่า เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า พวกเก็บภาษีและหญิงแพศยา ก็เข้าในแผ่นดินของพระเจ้าก่อนท่านทั้งหลาย..”  (มัทธิว.21.28-31)

พระเยซูเจ้าทรงเรียกประชาชนและสานุศิษย์ให้เข้ามา แล้วตรัสแก่พวกเขาว่า
    ถ้าผู้ใดจะใคร่ตามเรามา ให้ผู้นั้นเอาชนะตนเอง และรับกางเขนของตนแบกและตามเรามา เพราะว่าผู้ใดใคร่จะเอาชีวิตรอด ผู้นั้นจะเสียชีวิต แต่ผู้ใดจะเสียชีวิตเพราะเห็นแก่เราและข่าวประเสริฐผุ้นั้นจะได้ชีวิตรอด เพราะถ้าผู้ใดจะได้สิ่งของสิ้นทั้งโลก แต่ต้องเสียชีวิตของตน ผู้นั้นจะได้ประโยชน์อะไร เพราะผู้นั้นจะนำอะไรไปแลกเอาชีวิตของตนกลับคืนมา (มาระโก 8.34-37)