แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

ตอน 4 การส่งเสริมให้พิธีกรรมมีบทบาทยิ่งขึ้นในสังฆมณฑลและในเขตวัด

41. ต้องถือว่าพระสังฆราชเป็นมหาสมณะปกครองประชากรของตน จึงกล่าวได้ว่าชีวิตของผู้มีความเชื่อในพระคริสตเจ้าสืบเนื่องมาจากพระสังฆราชและขึ้นอยู่กับท่าน
    ดังนั้น ทุกคนต้องให้ความเคารพอย่างสูงต่อกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับพิธีกรรมของสังฆมณฑล ซึ่งมีพระสังฆราชเป็นศูนย์กลาง เฉพาะอย่างยิ่งในอาสนวิหาร ทุกคนต้องตระหนักว่าพระศาสนจักรแสดงตนเด่นชัด เมื่อประชากรศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดของพระเจ้ามาร่วมพิธีกรรมอย่างเต็มที่และแข็งขันในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ โดยเฉพาะในพิธีบูชาขอบพระคุณหนึ่งเดียว ในการภาวนาอธิษฐานหนึ่งเดียว ณ พระแท่นบูชาหนึ่งเดียว ที่พระสังฆราชเป็นประธานโดยมีคณะสงฆ์และผู้ช่วยอื่นๆร่วมพิธีด้วย

บทบาทของพิธีกรรมในเขตวัด
42. เนื่องด้วยพระสังฆราชไม่อาจเป็นประธานในพิธีกรรมด้วยตนเองสำหรับประชากรทั้งหมด ทุกเวลาและทุกแห่งในสังฆมณฑลได้ พระสังฆราชจึงต้องจัดตั้งชุมชนของผู้มีความเชื่อขึ้นหลายกลุ่ม กลุ่มที่สำคัญที่สุดก็คือชุมชนวัด ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามท้องที่ต่างๆ และอยู่ใต้ปกครองของผู้อภิบาลซึ่งทำหน้าที่แทนพระสังฆราช กล่าวได้ว่าเขตวัดเหล่านี้เป็นผู้แทนและแสดงถึงพระศาสนจักรที่แลเห็นได้ซึ่งตั้งอยู่ทั่วโลก
    ดังนั้น จำเป็นต้องส่งเสริมให้พิธีกรรมมีบทบาทมากยิ่งขึ้นในเขตวัดรวมทั้งส่งเสริมให้ความสัมพันธ์กับพระสังฆราชเพิ่มขึ้นทั้งในความคิดและการปฏิบัติของสัตบุรุษและคณะสงฆ์ และยังต้องพยายามส่งเสริมให้สัตบุรุษในเขตวัดนั้นมีความรู้สึกลึกซึ้งยิ่งขึ้นว่าเป็นชุมชนเดียวกัน เฉพาะอย่างยิ่งในการร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณวันอาทิตย์

ตอน 5 การส่งเสริมการอภิบาลสัตบุรุษในด้านพิธีกรรม
43. เป็นการถูกต้องที่จะถือว่า ความกระตือรือร้นในการส่งเสริมและฟื้นฟูพิธีกรรมเป็นเสมือนเครื่องหมายแสดงว่า พระเจ้าทรงพอพระทัยเอื้ออาทรต่อสมัยของเรา และเป็นเสมือนว่าพระจิตเจ้าทรงทำงานในพระศาสนจักร ความกระตือรือร้นนี้ประทับตราคุณลักษณะเฉพาะแก่ชีวิตพระศาสนจักร แก่วิธีคิดและปฏิบัติกิจกรรมทั้งหมดทางศาสนาในสมัยปัจจุบันด้วย
    ดังนั้น เพื่อส่งเสริมการอภิบาลสัตบุรุษในด้านพิธีกรรมให้มีชีวิตชีวายิ่งขึ้นในพระศาสนจักร สภาสังคายนาจึงบัญญัติไว้ดังต่อไปนี้

คณะกรรมาธิการพิธีกรรมระดับชาติ
44. ควรอย่างยิ่งที่ผู้มีอำนาจปกครองพระศาสนจักรท้องถิ่นตามที่กล่าวในข้อ 22 # 2 จะแต่งตั้งคณะกรรมาธิการพิธีกรรมขึ้นโดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาพิธีกรรม ดนตรี ศิลปะศักดิ์สิทธิ์ และการอภิบาลสัตบุรุษคอยช่วยเหลือ ให้คณะกรรมาธิการนี้รับความช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้จากสถาบันพิธีกรรมด้านอภิบาล ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้ รวมทั้งฆราวาสด้วยถ้าเห็นสมควร บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมาธิการนี้ โดยมีผู้มีอำนาจปกครองพระศาสนจักรท้องถิ่นที่กล่าวข้างต้นคอยแนะนำ คือ ควบคุมแนะนำการอภิบาลในด้านพิธีกรรมในเขตปกครองรวมทั้งส่งเสริมการศึกษาและการทดลองที่จำเป็น ทุกครั้งที่มีการปรับปรุงซึ่งจะเสนอให้สันตะสำนักพิจารณา

คณะกรรมการพิธีกรรมระดับสังฆมณฑล
45. ด้วยเหตุผลเดียวกัน  ทุกสังฆมณฑลจะต้องมีคณะกรรมการพิธีกรรม โดยมีพระสังฆราชคอยควบคุมแนะนำ เพื่อส่งเสริมการอภิบาลด้านพิธีกรรม
    บางครั้ง อาจเป็นการสมควรที่หลายสังฆมณฑล จะตั้งคณะกรรมการคณะเดียวเพื่อส่งเสริมการอภิบาลด้านพิธีกรรมโดยทำงานร่วมกัน

คณะกรรมการอื่นๆ
46. นอกจากคณะกรรมการพิธีกรรมแล้ว เท่าที่ทำได้ ทุกสังฆมณฑลควรมีคณะกรรมการดนตรีศักดิ์สิทธิ์ และศิลปะศักดิ์สิทธิ์
    จำเป็นที่คณะกรรมการทั้งสามจะต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ยิ่งกว่านั้นบ่อยครั้ง อาจรวมคณะกรรมการทั้งสามเป็นคณะเดียวเท่านั้น