แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

ครูคำสอนฆราวาส
230    งานด้านการสอนคำสอนของฆราวาสมีลักษณะเฉพาะตัวแบบหนึ่งด้วยเหมือนกัน  ทั้งนี้เนื่องด้วยฐานะของพวกเขาในพระศาสนจักร อันเนื่องมาจาก “ลักษณะฝ่ายโลกของพวกเขาเป็นแบบที่เหมาะสมและเฉพาะสำหรับฆราวาส” (LG 31; ChL 15)

ฆราวาสเข้าร่วมในการสอนคำสอนตามพื้นฐานของชีวิตแต่ละคนที่ถูกวางไว้ในโลก  โดยการมีส่วนร่วมกับความต้องการทั้งหมดของมนุษยชาติและการนำเอาความแววไวพิเศษพร้อมกับความกลมกลืนทางภาษามาให้กับ “การถ่ายทอดพระวรสาร” หมายความว่า การประกาศพระวรสารโดยครูคำสอนฆราวาสนี้ ซึ่งคือการประกาศเกี่ยวกับพระคริสตเจ้าด้วยคำพูดและการเป็นพยานด้วยชีวิตได้รับผลสำเร็จประการหนึ่งที่มีคุณสมบัติเฉพาะและพิเศษ  เพราะการประกาศพระวรสารนี้ได้สำเร็จไปในสภาพการณ์ปกติของโลก” (LG 35)  อันที่จริง  ครูคำสอนฆราวาสมีความแววไวพิเศษ (special sensitivity) ในเรื่องการทำให้พระวรสารเกิดเป็นจริงในชีวิตที่เป็นอยู่จริงของบรรดาชายหญิงทั้งหลาย โดยการมีส่วนร่วมในรูปแบบชีวิตที่เหมือนกับบุคคลที่เขาสอน  ผู้ที่เตรียมตัวเป็นคริสตชนกับผู้ที่กำลังเรียนคำสอนอยู่นั้น สามารถค้นพบรูปแบบคริสตชนสำหรับอนาคตของตนในฐานะผู้ที่มีความเชื่อได้จากบรรดาครูคำสอนฆราวาส
231      กระแสเรียกของฆราวาสไปทางด้านการสอนคำสอนเกิดขึ้น จากศีลล้างบาป  และมีพลังมากขึ้นโดยศีลกำลัง  อาศัยศีลล้างบาปและศีลกำลังที่พวกเขาได้รับ พวกเขาจึงมีส่วนร่วมใน “งานศาสนบริการของพระคริสตเจ้าในฐานะสงฆ์  ประกาศกและกษัตริย์” (AA 2b)   นอกเหนือจากกระแสเรียกทั่วไปในเรื่องการเผยแผ่ธรรมแล้ว ฆราวาส บางคนยังรู้สึกว่าพระเป็นเจ้าทรงเรียกให้มาทำงานบริการในฐานะครูคำสอน  พระศาสนจักรกระตุ้นและมองเห็นกระแสเรียกศักดิ์สิทธิ์นี้และมอบหมายพันธกิจในอันที่จะสอนคำสอนให้เป็นเกียรติแก่เขา พระเยซูเจ้าทรงเชื้อเชิญมนุษย์ชายหญิงทั้งหลายให้มาติดตามพระองค์แบบพิเศษในฐานะครูคำสอน และผู้อบรมสานุศิษย์ทั้งหลาย การเรียกเฉพาะบุคคลจากพระเยซูคริสตเจ้าและความสัมพันธ์กับพระองค์ในการเรียกนี้คือพลังอันแท้จริงที่จะทำให้งานคำสอนก้าวหน้าไป   “จากการที่ได้รู้จักพระคริสตเจ้าด้วยความรักนี้เอง  จึงเกิดความปรารถนาที่จะประกาศสรรเสริญพระองค์  ประกาศพระวรสาร  และชักนำผู้อื่นมา “ตอบรับ” ความเชื่อในพระเยซูคริสตเจ้า” (CCC 429)   การรู้สึกว่าได้ถูกเรียกให้มาเป็นครูคำสอนและยอมรับพันธกิจนี้จากพระศาสนจักรทำให้เกิดการอุทิศตนในระดับต่างๆ ที่สอดคล้องกับลักษณะพิเศษเฉพาะบุคคล  บางครั้งครูคำสอนอาจร่วมมือทำงานบริการด้านการสอนคำสอนในช่วงเวลาจำกัดสักระยะหนึ่ง หรือเพียงแต่ในโอกาสอันควรเท่านั้น   ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นงานบริการอันทรงคุณค่าและการร่วมงานที่น่ายกย่องอยู่เสมอๆ   อย่างไรก็ตามความสำคัญของศาสนบริการด้านการสอนคำสอนน่าจะหมายความว่า ในสังฆมณฑลหนึ่งน่าจะมีนักบวชจำนวนหนึ่งและฆราวาสซึ่งเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปและได้อุทิศตัวอย่างถาวรให้กับการสอนคำสอน โดยการแบ่งปันความคิดในการสอนคำสอนกับบรรดาพระสงฆ์และพระสังฆราชก็เป็นผู้ที่ให้รูปแบบ(การสอนคำสอน)ของพระศาสนจักรที่เหมาะสมกับการบริการด้านการสอนคำสอนของสังฆมณฑล (อ้างถึง CIC 228 ข้อ 1;อ้างถึง EN 73; ChL 23)