แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

จากธรรมนูญ “Dei Verbum” ถึงสมัชชาเรื่องพระวาจาของพระเจ้า


3.    ข้าพเจ้ารู้สึกว่าสมัชชาพระสังฆราชครั้งที่ 12 เกี่ยวกับพระวาจาของพระเจ้านี้กล่าวถึงเนื้อหาที่เป็นหัวใจของชีวิตคริสตชนทีเดียว เรื่องนี้เป็นผลต่อเนื่องกับสมัชชาครั้งก่อนหน้านี้เรื่องศีลมหาสนิท ซึ่งเป็นบ่อเกิดและจุดยอดของชีวิตและพันธกิจของพระศาสนจักร พระศาสนจักรตั้งอยู่บนพระวาจา เกิดขึ้นจากพระวาจา และมีชีวิตด้วยพระวาจา  ตลอดช่วงเวลาของประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ประชากรของพระเจ้าได้รับพลังจากพระวาจาจนถึงบัดนี้ และในปัจจุบันชุมชนทุกเขตวัดก็ยังเติบโตขึ้นโดยฟัง เฉลิมฉลอง และศึกษาพระวาจาของพระเจ้า ต้องยอมรับว่าในช่วงเวลา 10 - 20 ปีที่เพิ่งผ่านมานี้ ชีวิตของชุมชนตามวัดได้ตระหนักมากยิ่งขึ้นถึงความหมายของการเปิดเผยความจริงของคริสตศาสนาโดยคำนึงถึงธรรมประเพณีและพระคัมภีร์ อาจกล่าวได้ว่า เริ่มตั้งแต่สมณสมัยของสมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 13 ได้มีความตระหนักมากขึ้นถึงความสำคัญของพระวาจาของพระเจ้าและการศึกษาค้นคว้าพระคัมภีร์  ในชีวิตของพระศาสนจักร และมาถึงจุดยอดในสภาสังคายนาสากลวาติกันที่ 2 โดยเฉพาะที่ได้ประกาศธรรมนูญ Dei Verbum เรื่องการเผยความจริงของพระเจ้า เอกสารฉบับนี้นับว่าสำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์ของพระศาสนจักร “บรรดาพระสังฆราชแห่งสมัชชา........ ยอมรับด้วยความกตัญญูว่าเอกสารฉบับนี้ได้นำผลดีอย่างมากมายแก่ชีวิตพระศาสนจักร ในด้านการตีความพระคัมภีร์ ด้านเทววิทยา ด้านชีวิตจิต รวมทั้งงานอภิบาลและคริสตศาสนสัมพันธ์”  ในช่วงเวลาที่เพิ่งผ่านมานี้ได้มีความตระหนักมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในการเปิดเผย “เรื่องพระตรีเอกภาพและประวัติศาสตร์แห่งความรอดพ้น”  ซึ่งในมุมมองนี้เป็นที่ยอมรับว่าพระเยซูคริสตเจ้าคือ “คนกลาง(ระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์)และทรงเป็นผู้เผยความจริงที่สมบูรณ์ที่สุด”  ตลอดมาทุกชั่วอายุคน พระศาสนจักรประกาศโดยไม่หยุดหย่อนว่าพระคริสตเจ้า “ทรงใช้การประทับอยู่และแสดงพระองค์ให้ปรากฏในทุกแบบ ได้แก่พระวาจาและกิจการ เครื่องหมายและการอัศจรรย์ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดยการสิ้นพระชนม์และการกลับคืนพระชนมชีพอย่างรุ่งโรจน์ และในที่สุด โดยการส่งพระจิตเจ้าลงมา ทรงทำให้การเผยความจริงของพระเจ้าสำเร็จสมบูรณ์”
    ทุกคนทราบดีว่าธรรมนูญ Dei Verbum นี้ได้ช่วยผลักดันให้ปลุกความสนใจขึ้นอย่างมากในชีวิตของพระศาสนจักรเกี่ยวกับพระวาจาของพระเจ้า เพื่อพิจารณาเรื่องการเผยความจริงในด้านเทววิทยาและศึกษาค้นคว้าพระคัมภีร์ ในช่วงเวลาสี่สิบปีที่ผ่านมา พระศาสนจักรผู้มีอำนาจสั่งสอนได้ออกเอกสารหลายฉบับเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว  ในการประชุมสมัชชาครั้งนี้ พระศาสนจักรซึ่งกำลังเดินทางโดยมีพระจิตเจ้าทรงนำ ก็ตระหนักดีว่าตนได้รับเรียกให้มาศึกษาค้นคว้าเรื่องพระวาจาของพระเจ้าให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เพื่อสำรวจดูว่าตนได้ปฏิบัติอย่างไรตามคำแนะนำของสภาสังคายนา และเพื่อรับมือกับการท้าทายใหม่ๆที่โลกปัจจุบันนำมาให้ผู้มีความเชื่อในพระคริสตเจ้า