แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

การที่พระเจ้าทรงปกครองมนุษยชาติซึ่งเชื่อฟังพระองค์ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต  “อาณาจักรของพระเจ้า เริ่มขึ้นเมื่อพระคริสตเจ้าเสด็จมาในโลก และจะสมบูรณ์เมื่อพระคริสตเจ้าจะเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่งเมื่อสิ้นพิภพ”
พระเยซูเจ้าทรงใช้ศัพท์นี้หลายครั้ง เช่น มก. 1.15 “เวลาที่กำหนดไว้มาถึงแล้ว พระอาณาจักรของพระเจ้าอยู่ใกล้แล้ว จงกลับใจ และเชื่อข่าวดีเถิด” นักบุญเปาโลกล่าวว่า “พระอาณาจักรของพระเจ้าไม่ใช่เรื่องการกินและการดื่ม แต่เป็นความชอบธรรม สันติ และความชื่นชมยินในพระจิตเจ้า” (รม.14.17)

พระเยซูเจ้าเน้นว่า ผู้ที่พบพระอาณาจักรสวรรค์จะต้องละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง (ขาย สละ) เพื่อเข้าในพระอาณาจักร อุปมาเรื่องไข่มุก “อาณาจักรสวรรค์เปรียบได้กับพ่อค้าที่แสวงหาไข่มุกเม็ดงาม เมื่อได้พบไข่มุกที่มีค่าสูง เขาจะไปขายทุกสิ่งที่มี นำเงินมาซื้อไข่มุกเม็ดนั้น” (มธ. 13.45-46)
พระเยซูเจ้าตรัสถึงผู้ที่เป็นใหญ่ในอาณาจักรสวรรค์  “ถ้าท่านไม่กลับเป็นเหมือนเด็กเล็กๆ ท่านจะเข้าอาณาจักรสวรรค์ไม่ได้เลย เพราะฉะนั้น ผู้ใดถ่อมตนลงเป็นเหมือนเด็กเล็กๆคนนี้  ผู้นั้นจะยิ่งใหญ่ที่สุดในอาณาจักรสวรรค์” (มธ. 18.3-4)
ตามความเห็นของนักบุญเทเรซาแห่งลีซีเออซ์ นักพรตแบบพิศเพ่งรำพึงคณะคาร์เมไลท์และปราชญ์แห่งพระศาสนจักรคาทอลิก กล่าวถึงวิถีทางแห่งความเป็นเด็กฝ่ายจิต (ทางสายน้อย) ว่าเป็น “ทางแห่งความวางใจและการยอมมอบตนอย่างสมบูรณ์ ที่ดิฉันประสบความสำเร็จดียิ่ง สิ่งเดียวที่ควรทำในโลกนี้คือการถวายดอกไม้แห่งพลีกรรมเล็กน้อยแด่พระเยซูเจ้า และชนะใจพระองค์ด้วยการพิสูจน์ความรักของเรา… เราหวังในพระองค์มากเท่าใด เราก็จะได้รับมากเท่านั้น” ท่านมาประจักษ์แก่อธิการิณีที่เธอเคยสัญญาว่า เมื่อท่านนักบุญไปสวรรค์แล้ว จะกลับมายังโลกเพื่อยืนว่า “ทางสายน้อย” เป็นทางที่ดีที่สุดที่จะไปสวรรค์
พระเยซูเจ้าทรงใช้คำ “พระศาสนจักร” ควบคู่ไปกับคำ “อาณาจักรสวรรค์” (มธ. 4.17) เพื่อแสดงว่า ชุมชนแห่งยุคสุดท้าย เริ่มตั้งแต่ในโลกนี้ในรูปแบบสังคมที่มีระเบียบและพระองค์ทรงแต่งตั้งเปโตรให้เป็น ผู้นำชุมชนนี้ (ดู กจ. 5.11 /   1 คร. 1.2)  
ความชอบธรรม ในความหมายของพระคัมภีร์ คือ ความสัมพันธ์ที่ถูกต้อง หรือความสัมพันธ์ที่ให้ชีวิต ในฐานะที่เป็นมนุษย์ รวมถึงความสัมพันธ์กับพระเจ้า ตัวเอง เพื่อนมนุษย์และธรรมชาติ ความยุติธรรมหมายถึงให้สิ่งที่แต่ละคนควรจะได้รับ
สันติ (เป็นคำทักทายก็ได้) ในพันธสัญญาใหม่ หมายถึง  การไม่มีสงครามหรือความยุ่งเหยิง  ความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระเจ้า ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเพื่อนมนุษย์ ในฐานะที่เป็นประเทศคือ ความสงบ
ความชื่นชมยินดี ในความหมายของพระคัมภีร์ คือ ความเป็นอยู่ที่ดี (well – being) อันได้แก่การมีชีวิตที่สมบูรณ์ หรือ  การให้โอกาสแก่แต่ละคน ที่จะใช้ความสามารถหรือพรสวรรค์ที่เขาได้รับอย่างสร้างสรรค์
ในพระจิตเจ้า เนื่องจากคำศัพท์ทั้ง 3 คำ เป็นคุณลักษณะของพระอาณาจักรของพระเจ้า ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมนุษย์กระทำในพระจิตเจ้า เพราะพระจิตเจ้าทรงเป็นผู้ก่อให้เกิดฟ้าใหม่ แผ่นดินใหม่ พระอาณาจักรของพระเจ้ามาถึงเราในโลกนี้แล้ว (เทียบ ลก.17.21)  คือทุกครั้งที่เรามีความยุติธรรม สันติ และความชื่นชมยินดีในพระจิตเจ้า เราก็ได้สัมผัสหรือมีประสบการณ์กับพระอาณาจักรพระเจ้า แต่ยังไม่สมบูรณ์ เพราะบางครั้ง เรายังตกอยู่ในบาป ความสมบูรณ์นี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเราตายและไปอยู่กับพระเจ้าอย่างสมบูรณ์เท่านั้น
อาณาจักรพระเจ้าจุดเริ่มต้นของอาณาจักรของพระเจ้าในจิตใจของเราก่อนและอาณาจักรของพระเจ้าก็มาตั้งมั่นอยู่ในแผ่นดินโลกด้วยวิธีนื้คือ “การมีความรักต่อผู้อื่น” และผู้ที่ปฏิบัติตามบทปฐมเทศนา- ความสุขแท้ 8 ประการของพระเยซูเจ้าจะได้พบความสุข
"อาณาจักรของพระเจ้า" อยู่ ณ ที่ซึ่งพระเจ้าได้รับความรัก และ ณ ที่ความรักของพระองค์มาถึงเรามนุษย์ทุกคน เพราะความรักของพระเจ้าเป็นหลักประกันให้สิ่งที่เป็นอยู่ที่เราสัมผัสและเรารอคอยอยู่ …..เป็นชีวิตที่แท้จริง" ("รอดพ้นด้วยความหวัง"- พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16)
"อาณาจักรสวรรค์เป็นของประทาน จึงเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่และงดงามยิ่ง เราเองไม่สมควร "รับรางวัล" สวรรค์โดยอาศัยผลงานต่างๆของเราไว้ แต่เป็น "ของขวัญ" (ที่ให้เปล่าโดยพระเจ้าไม่หวังสิ่งตอบแทนจากเรา)