พระคาร์ดินัล ปาโรลีน (Cardinal Parolin ) กล่าวสุนทรพจน์ต่อองค์กรสหประชาชาติ หัวข้อ “ปฏิบัติการอย่างมีเอกภาพเพื่อความดีของส่วนร่วม
นครรัฐวาติกัน 30 กันยายน 2014 (VIS)

       พระคาร์ดินัล ปาโรลีน เลขาธิการแห่งนครรัฐ กล่าวเมื่อวานนี้ในการประชุมใหญ่ครั้งที่ 69 ขององค์กรสหประชาชาติ, ซึ่งรวมถึงการถกปัญหาเกี่ยวกับวาระการพัฒนาในรูปแบบอื่น ๆ รวมทั้งหัวข้อเรื่องอื่นๆ
          พระคาร์ดินัลปาโรลีน กล่าวเป็นภาษาอังกฤษ ย้ำว่าสันตะสำนักเห็นความสำคัญของความพยายามขององค์กรสหประชาชาติ ที่ให้ความมั่นใจในสันติภาพของโลก, เคารพศักดิ์ศรีของมนุษย์,ผู้ที่อ่อนแอ รวมทั้งการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมที่ประสานกลมกลืนกัน.

         อย่างไรกาม  พระคาร์ดินัลได้ยกพระดำรัสของพระสันตะปาปาฟรานซิส ว่า มีอันตรายของการไม่สนใจใยดีคนอื่นที่แพร่หลายในสมัยของเรา, ส่งผลกระทบต่อด้านการเมือง รวมทั้งภาคเศรษฐกิจและสังคม "เพราะส่วนสำคัญของมนุษยชาติ ไม่ได้มีส่วนร่วมในผลประโยชน์จากความก้าวหน้าและ ตามความเป็นจริง ถูกผลักไสให้ไปสู่สถานะของพลเมืองชั้นสอง" ท่านกล่าวเสริมว่า "ในบางครั้ง ความไม่แยแสเช่นนั้นคือการขาดความรับผิดชอบ. เป็นกรณีในปัจจุบัน, เมื่อสหภาพของรัฐต่างๆ ซึ่งถูกสร้างด้วยเป้าหมายพื้นฐานของการรักษาชนรุ่นต่างๆจากความกลัวสงครามซึ่งนำความเศร้าโศกที่ไม่มีการบอกเล่าถึงมนุษยชาติ, ยังคงไม่มีบทบาทในการเผชิญหน้ากับความเป็นศัตรูที่ทนทุกข์โดยประชากรที่ขาดที่พึ่ง”
                    ในบริบทนี้ พระคาร์ดินัลย้ำการเรียกร้องของสมเด็จพระสันตะปาปาต่อประชาคมนานาชาติในเดือนสิงหาคมที่จะ "ดำเนินการเพื่อยุติโศกนาฏกรรมของมนุษยชาติในตอนนี้" ในภาคเหนือของอิรัก

                 ท่านกล่าวถึงรายละเอียดมากขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์ในอิรักและซีเรีย,ที่ "เราจะเห็นปรากฏการณ์ใหม่อย่างสิ้นเชิง คือ การมีองค์กรก่อการร้าย ซึ่งคุกคามต่อประเทศดังกล่าวและจัดตั้งรัฐโลกที่อิงศาสนา” แต่น่าเสียดาย แม้ทุกวันนี้ ที่ท่านยังคง "มีคนที่จะเข้าใจในการใช้อำนาจด้วยการข่มขู่มโนธรรม...เบียดเบียนและประหารคนอื่นในนามของพระเจ้า.

      การกระทำเหล่านี้ ทำให้กลุ่มชาติพันธุ์ทั้งหมดบาดเจ็บ,ประชากรและวัฒนธรรมโบราณ. ขอให้ระลึกว่า ความรุนแรงเช่นนั้นเกิดจากการไม่นำพาต่อพระเจ้าและศาสนาปลอม,เนื่องจากศาสนามุ่งที่การทำให้เข้าใจชัดเจนว่า มนุษย์แต่ละคนเป็นภาพลักษณ์ของพระผู้สร้าง. ในโลกของการสื่อสารทั่วโล, ปรากฏการณ์ใหม่นี้พบว่า มีผู้ติดตามในสถานที่ต่าง ๆ นานา และได้ประสบความสำเร็จในการดึงดูดคนหนุ่มสาวจากทั่วโลกที่มีความไม่แยแส ที่มักแพร่ความไม่แยแสอย่างกว้างขวางและความขาดแคลนของคุณค่าในสังคมที่ร่ำรวยกว่า. ความท้าทายนี้ในทุกด้านที่น่าเศร้า ที่ส่งเสริม 'การตอบสนองแบบครบวงจร,ตามเกณฑ์ที่กฏหมายที่เข้มงวดและความเต็มใจที่จะให้ความร่วมมือร่วมกันเพื่อความดีส่วนรวม” "

               "ด้วยเหตุนี้, สันตะสำนักเห็นว่า เป็นประโยชน์ที่จะมุ่งความสนใจไปที่สองพื้นที่ที่สำคัญมีประโยชน์.

ประการแรกคือกล่าวถึงต้นกำเนิดทางวัฒนธรรมและการเมืองของความท้าทายในปัจจุบัน,ยอมรับความจำเป็นในการกลยุทธ์นวัตกรรมที่จะเผชิญหน้ากับปัญหานานาชาติ ซึ่งเป็นปัจจัยทางวัฒนธรรม
ประการที่สอง ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสิทธิผลของกฎหมายระหว่างประเทศในปัจจุบัน, คือการนำกลไกเหล่านั้นมาใช้เพื่อป้องกันสงคราม,หยุดผู้รุกราน,ปกป้องประชากรและช่วยเหลือผู้ประสบภัย. "

         พระคาร์ดินัลยังคงกล่าวต่อว่า "สถานการณ์ในปัจจุบันนี้ ต้องเข้าใจกฎหมายนี้, ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับ 'ความรับผิดชอบในการปกป้อง' . ตามความจริง ลักษณะหนึ่งของปรากฏการณ์การก่อการร้ายที่ผ่านมาคือ ไม่คำนึงถึงการดำรงอยู่ของรัฐ และในความเป็นจริงระเบียบนานาชาติ ... ลดคุณภาพและปฏิเสธระบบความยุติธรรมที่มีอยู่ทั้งหมด,พยายามที่จะกำหนดอำนาจเหนือมโนธรรมและการควบคุมบุคคลอย่างเบ็ดเสร็จ.

        ลักษณะที่เหมือนกันทั่วโลกของปรากฏการณ์นี้ ไม่มีพรมแดน,คือเหตุที่กรอบงานของกฎหมายระหว่างประเทศเสนอวิธีที่ทำงานได้เพียงในการจัดการกับความท้าทายนี้อย่างเร่งด่วน. ความเป็นจริงนี้ต้องมีการฟื้นฟูองค์การสหประชาชาติ ที่จะเสริมสร้างและรักษาสันติภาพ ... ดังนั้น แม้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันร้ายแรงมาก ก็เป็นโอกาสสำหรับประเทศสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ เพื่อเป็นเกียรติแก่เจตนารมณ์ของกฎบัตรของสหประชาชาติโดยการพูดออกมาในความขัดแย้งที่น่าเศร้าซึ่งได้มีการฉีกขาดคนทั้งหมดออกจากกันและ ประเทศ.น่าผิดหวังว่า ถึงตอนนี้,ประชาคมระหว่างประเทศได้รับลักษณะเด่นโดยเสียงขัดแย้งและแม้แต่ด้วยความเงียบในเรื่องเกี่ยวกับความขัดแย้งในซีเรีย,ตะวันออกกลางและยูเครนด้วย. มันเป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่ปฏิบัติการอย่างมีเอกภาพ คือหลีกเลี่ยงไฟของเสียง “ออกเสียงไม่เห็นด้วยว” ( vetoes) ...

             สรุปการส่งเสริมวัฒนธรรมของแหงสันติภาพ เรียกร้องความพยายามต่อการเสวนา, ความซาบซึ้งในวัฒนธรรมและความร่วมมื,ในขณะที่การเคารพความหลากหลายของความรู้สึกอ่อนไหว ... ในที่สุด,จะต้องมีความเต็มใจ ที่จะปรับใช้กลไกด้านกฎหมาย, ขณะที่ในเวลาเดียวกัน ยังคงเปิดให้ความนัยของช่วงเวลาที่สำคัญนี้. เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นวิธีการที่ดีกว่าที่หลายฝ่ายจะทำหน้าที่รักษาศักดิ์ศรีของมนุษย์,และปกป้องและความก้าวหน้ที่บูรณากับการพัฒนามนุษย์ที่สำคัญทั่วโลก. "

                มีการอ้างอิงถึงการเห็นด้วยของวาระการพัฒนาที่แปรสภาพ, พระคาร์ดินัลปาโรลีน ยืนยันว่า สันตะสำนักยอมรับ 'เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่จะเสนอโดยคณะทำงาน (ทำงานสำหรับกลุ่มเป้าหมายอย่างยั่งยืน) ซึ่งพยายามที่จะกล่าวถึงสาเหตุที่เป็นโครงสร้างของความยากจน โดยการส่งเสริมงานสง่างามสำหรับทุกคน"อย่างไรก็ตาม ความพยายามขององค์การสหประชาชาติ และของผู้มีน้ำใจดี,จำนวนของคนยากจนและผู้ถุกกีดกันจากสังคม เพิ่มขึ้นในประเทศที่พัฒนาแล้วด้วย. ท่านสรุปว่า “ความรับผิดชอบในการปกป้อง”  ตามที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้หมายถึงการก้าวร้าวรุนแรงที่สุดที่ต่อต้านสิทธิมนุษยชน, กรณีของการดูถูกร้ายแรงต่อสิทธิมนุษย์หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรง. ในทำนองเดียวกัน, มีความจำเป็นในการจัดทำข้อกำหนดทางกฎหมายในการปกป้องผู้คน ต่อต้านรูปแบบ ของการรุกรานอื่น ๆ, ที่มีหลักฐานชัดเจนน้อยลง,แต่จริงจังและเป็นจริง. ยกตัวอย่าง,ในระบบการเงินถูกดูแลโดยเฉพาะการเก็งกำไรสูงสุด, หรือบุคคลแต่ละคนเป็นรายการในวัฒนะรรมแห่งขยะ,พอ ๆ กันในสถานการณ์บางอย่าง,ที่จะผิดต่อศักดิ์ศรีของมนุษย์. ดังนั้น การที่องค์การสหประชาชาติและรัฐสมาชิกมีความรับผิดชอบอย่างเร่งด่วนและจริงจังสำหรับคนยากจนและผู้ที่ถูกกีดกันจากสังคม,ข้อควรเตือนใจคือความยุติธรรมทางสังคมและเศรษฐกิจเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับสันติภาพ"