แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

พระศาสนจักรยืนเคียงข้างชีวิต
30.  ทุกวันนี้  คำสอนของพระศาสนจักรต้องเผชิญกับสภาพสังคมและวัฒนธรรมซึ่งทำให้คำสอนนี้เป็นที่เข้าใจยากขึ้น  ทั้งยังเป็นที่ต้องการอย่างรีบด่วนและจำเป็นมากขึ้นเพื่อส่งเสริมคุณงามความดีอันแท้จริงของชายหญิง
    การก้าวหน้าในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีซึ่งมนุษย์สมัยปัจจุบันขยายอำนาจการยึดครองธรรมชาติออกไปอย่างสม่ำเสมอ  ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดความหวังว่าจะสามารถสร้างมนุษยชาติที่ดีกว่าเดิมได้เท่านั้น  แต่การก้าวหน้าดังกล่าวยังก่อให้เกิดความเป็นห่วงกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับอนาคต  บางคนสงสัยว่าการเกิดมีชีวิตเป็นสิ่งที่ดีหรือการไม่เกิดเลยจะดีกว่า  เพราะฉะนั้นเขาจึงถามตัวเองว่า  ควรหรือไม่ที่จะให้กำเนิดชีวิตอีกซึ่งวันหนึ่งอาจจะสาปแช่งความเป็นอยู่ในโลกที่ทารุณและเต็มไปด้วยความกระวนกระวายอันคาดไม่ถึงนี้      ส่วนคนอีกบางคนถือตัวว่าตัวเองเป็นประเภทเดียวเท่านั้นที่สมควรจะรับผลประโยชน์จากเทคโนโลยีและกีดกันมิให้คนอื่นมาแย่ง โดยการบังคับคนอื่นให้คุมกำเนิดหรือให้โดนพฤติกรรมที่ร้ายแรงกว่านี้เสียอีก  สุดท้าย  ยังมีคนบางพวกที่มีในผูกพันอยู่กับความกระหายบริโภคหรือเป็นห่วงเฉพาะแต่การกอบโกยวัตถุเท่านั้น  จนกระทั่งเขาไม่สามารถเข้าใจว่าชีวิตของมนุษย์คนใหม่นั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าฝ่ายจิตใจ  เขาจึงปฏิเสธคุณค่าของชีวิตนั้น  สาเหตุที่เป็นรากฐานของทัศนะนี้ก็คือ  ในใจของมนุษย์ไม่มีพระเจ้าสถิตอยู่ ที่จริง ความรักของพระองค์เท่านั้นที่มี่อานุภาพเหนือกว่าความหวาดกลัวทั้งหมดที่อาจจะเกิดขึ้นในโลก  และความรักนี้เท่านั้นที่จะสามารถพิชิตความกลัวเหล่านั้นให้สูญสิ้นไปได้
    ดังนั้น  ทัศนะที่ปฏิเสธชีวิต  (anti - life  mentality)  ได้เกิดขึ้นดังที่ปรากฏในปัญหาหลายประการของสมัยปัจจุบัน  อาทิเช่น  ความตระหนกตกใจอันเนื่องจากการวิจัยของนักนิเวศวิทยาและนักพยากรณ์วิทยาเกี่ยวกับจำนวนประชากร    บางครั้งคนเหล่านี้ กล่าวถึงอันตรายของการเพิ่มประชากรที่มีต่อคุณภาพของชีวิตอย่างเกินความจริง
    กระนั้นก็ดี  พระศาสนจักรเชื่ออย่างแน่วแน่ว่า  ชีวิตมนุษย์แม้จะอ่อนแอและทนทุกข์ทรมานก็ตาม  ยังเป็นพระคุณที่ใหญ่หลวงซึ่งพระเจ้าผู้พระทัยดีทรงประทานให้  พระศาสนจักรมีความเห็นขัดแย้งกับภาพแสดงอนาคตในแง่ร้ายนี้และกับความเห็นแก่ตัวอย่างตาบอดทุกประการซึ่งปกคลุมแผ่นดินด้วยความมืดมน  พระศาสนจักรยืนเคียงข้างชีวิตมนุษย์และในชีวิตทุกราย  พระศาสนจักรก็พบกับแสงสว่างอันเจิดจ้าแห่งคำว่า  “ยินดีรับ”  หรือ  “อาแมน”  อันได้แก่องค์พระคริสต์เอง   ส่วนการปฏิเสธแผนการของพระเจ้าซึ่งกำลังเป็นความคิดที่แพร่หลาย  และทำให้โลกปลงใจในความเศร้าโศก พระศาสนจักรยกคำว่า  “ยินดีรับ”  อันทรงชีวิตนั้นมาต่อต้าน  และดังนี้  พระศาสนจักรป้องกันมนุษย์และโลกให้พ้นอันตรายของผู้ที่มุ่งจะทำลายชีวิตและทำให้ทรุดโทรมลง
    ด้วยความมั่นใจที่ชัดเจนและเข้มงวดมากขึ้น  พระศาสนจักรตระหนักถึงหน้าที่  ขอประกาศอีกครั้งให้ทุกคนทราบถึงเจตนาที่ว่า  จะทุ่มเทกำลังทั้งหมดเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองชีวิตมนุษย์ให้พ้นอุปสรรคทั้งปวง  ไม่ว่าชีวิตนั้นจะอยู่ในสภาพอะไรหรือเจริญเติบโตถึงขั้นไหนก็ตาม
    เพราะฉะนั้น  พระศาสนจักรจึงประณามกิจกรรมของรัฐบาลต่างๆ  หรือขององค์การสาธารณะอื่นๆ ทุกแห่ง  ซึ่งพยายามจำกัดเสรีภาพของคู่สมรสในการตัดสินต่างๆ ของเขาเกี่ยวกับลูกๆ นั้นว่า  เป็นการเหยียดหยามศักดิ์ศรีของมนุษย์และความยุติธรรมอย่างที่สุด  ดังนั้น  การที่ผู้มีอำนาจหน้าที่ดังกล่าวจะใช้วิธีการบังคับประชาชนให้คุมกำเนิดหรือยิ่งกว่านั้นอีกให้ทำหมันหรือทำแท้งนั้น  เป็นสิ่งที่ต้องประณามอย่างเด็ดขาดและต้องขัดขวางทุกวิถีทาง  เช่นเดียวกัน  ในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ  ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจที่จัดไว้เพื่อการพัฒนาของประเทศต่างๆ ซึ่งตกอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า  ประเทศนั้นมีโครงการคุมกำเนิด  ทำหมัน  และทำแท้ง  หรือไม่นั้น  ต้องได้รับการประณามว่า เป็นการกระทำที่ อยุติธรรมอย่างร้ายแรง