แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

การอุทิศตัวรับใช้ชีวิตในรูปแบบต่างๆ
41. ความรักฉันสามีภรรยาที่เจริญพันธุ์ปรากฏในการรับใช้ชีวิตตามรูปแบบหลายประการ  การมีลูกและการอบรมเลี้ยงดูลูกเป็นการแสดงความรักอย่างที่มองเห็นได้  ทั้งๆ ที่เป็นแบบที่เฉพาะเจาะจงและที่หาแบบอื่นมาทดแทนมิได้  กระนั้นก็ดี  กิจกรรมใดๆ ที่กระทำความรักอันแท้จริงต่อมนุษย์ได้  แสดงว่า  ครอบครัวสามารถเจริญพันธุ์ทางจิตวิญญาณจนถึงขั้นที่สมบูรณ์ได้  ก็เพราะกิจกรรมนี้สอดคล้องกับพละกำลังที่ลึกซึ้งของความรักในแง่ที่ว่า  ความรักนั้นเป็นการอุทิศตัวให้แก่คนอื่นๆ
    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  คู่สมรสที่ให้กำเนิดบุตรได้ยาก  จะยินดียอมรับทัศนคตินี้ที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าสำหรับทุกคนและที่เรียกร้องให้ทุกคนอุทิศตัวต่อหน้าที่
    ครอบครัวคริสตชนที่รู้ดีว่าตามทัศนะของความเชื่อ  มนุษย์ทั้งปวงเป็นบุตรของพระบิดาเจ้าสวรรค์องค์เดียวเท่านั้น  ก็จะสมัครใจต้อนรับบุตรของครอบครัวอื่น  จุนเจือและรักเขาไม่ใช่ในฐานะเป็นคนแปลกหน้าแต่เป็นสมาชิกในครอบครัวเดียวของบุตรทั้งมวลของพระเจ้า  ดังนั้นบิดามารดาคริสตชนจะสามารถแพร่ขยายความรักของตนให้กว้างออกไปจนเลยขอบเขตของเนื้อหนังและสายโลหิต  ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมความสนิทสนมทางจิตใจที่ยังผลต่อการช่วยเหลือบุตรของครอบครัวอื่นๆ อย่างจริงจัง  ซึ่งบ่อยครั้งเป็นเด็กที่ขาดปัจจัยพื้นฐานที่สุด
    ครอบครัวคริสตชนควรมีใจเอื้อเฟื้อพร้อมที่จะรับเลี้ยงและอุดหนุนเด็กกำพร้าหรือเด็กที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง  ฝ่ายเด็กเหล่านี้  เมื่อได้ประสบความอบอุ่นและความรักของครอบครัวเสียใหม่  เขาจึงจะสามารถรู้จักความรักและพระญาณสอดส่องของพระบิดาเจ้าได้ซึ่งปรากฏอยู่ในความรักของพ่อแม่  คริสตชน  และดังนั้น  เขาจะเจริญเติบโตได้ด้วยความสงบราบรื่นพร้อมกับความมั่นใจในชีวิต  ฝ่ายสมาชิกในครอบครัวทุกคนก็จะเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมทางจิตใจที่เนื่องจากความรักฉันพี่น้องที่ขยายกว้างขึ้น
    การเจริญพันธุ์ของครอบครัวต้องประกอบด้วย  “การสร้างสรรค์”  ที่กระทำอยู่สม่ำเสมอ  ซึ่งเป็นผลที่น่าอัศจรรย์ของพระจิตเจ้า  พระองค์ทรงบันดาลให้สายตาฝ่ายจิตใจเปิดกว้างขึ้น  พร้อมที่จะสังเกตความยากลำบากและความรุนแรงที่เกิดขึ้นใหม่ๆ ในสังคมปัจจุบัน  และพระองค์ยังเป็นผู้บำรุงจิตใจให้เข้มแข็งกล้าขึ้นพร้อมที่จะต้อนรับความลำบากนั้นและหาวิธีแก้ไขที่เหมาะสม  สภาพแบบนี้เปรียบเสมือนสนามอันกว้างขวางซึ่งครอบครัวต่างๆ จะได้มีโอกาสแสดงความขยันขันแข็งของตน  นอกจากปัญหาเด็กที่ถูกทอดทิ้ง  ปรากฏการณ์ที่น่าเป็นห่วง  ก็คือ การที่คนสูงอายุ คนป่วย คนพิการ  คนติดยาเสพติด  อดีตนักโทษเหล่านี้เป็นต้น  ถูกขับให้อยู่นอกแวดวงชีวิตทางสังคมและวัฒนธรรม
    ฉะนั้น  สำหรับครอบครัวคริสตชน  ขอบเขตจิตตารมณ์ของความเป็นพ่อแม่ขยายออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด     ความรักที่เจริญผลทางจิตใจของครอบครัวเหล่านี้   ได้รับการท้าทายจากความยุ่งยากในยุคปัจจุบันนานาประการหลายต่อหลายครั้ง   พร้อมกับครอบครัวทั้งหลายและโดยทางครอบครัว พระคริสตเจ้ายังคง “มีเมตตา” ต่อมหาชนอยู่เสมอ