แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

ครอบครัวคริสตชนเป็นกลุ่มที่เชื่อและประกาศข่าวดี

ความเชื่อในส่วนที่เป็นความเข้าใจและการชื่นชมในแผนการของพระเจ้าที่เกี่ยวกับครอบครัว
51. ครอบครัวคริสตชนร่วมชีวิตและภารกิจของพระศาสนจักรซึ่งรับฟังพระวาจาของพระเจ้าด้วยความศรัทธาเลื่อมใส  และประการพระวาจานั้นด้วยความมั่นใจที่แข็งแกร่ง      ฉะนั้น  ครอบครัว คริสตชนจะปฏิบัติภารกิจเป็นประกาศกได้ โดยการน้อมรับและการประกาศพระวาจาของพระเจ้า  ครอบครัวคริสตชนจึงกลายเป็นกลุ่มที่เชื่อและประกาศข่าวดีมากยิ่งขึ้นทุกวัน
    “ความเชื่อด้วยความนอบน้อม”   ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับสามีภรรยาและพ่อแม่คริสตชนเช่นเดียวกัน  เขาได้รับการเรียกร้องให้รับฟังพระวาจาของพระคริสตเจ้าซึ่งเปิดเผยลักษณะใหม่อันน่าพิศวง  (ข่าวดี)  ของชีวิตสมรสและครอบครัวของเขา  ซึ่งพระคริสตเจ้าเองบันดาลให้ศักดิ์สิทธิ์และให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์   โดยอาศัยแสงสว่างแห่งความเชื่อเท่านั้น   พวกเขาจึงจะสามารถเข้าใจและชื่นชมยินดีกับศักดิ์ศรีอันสูงส่งซึ่งพระเจ้าทรงตั้งพระทัยจะเชิดชูการสมรสและครอบครัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพระองค์ทรงยกการสมรสและครอบครัวนั้นให้เป็นเครื่องแสดงและที่เกิดของพันธสัญญาอันเต็มไปด้วยความรักระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์  และระหว่างพระเยซูคริสต์กับพระศาสนจักรเจ้าสาวของพระองค์
    นับตั้งแต่การเตรียมการสมรสคริสตชนก็ถือกันแล้วว่า  เป็นการก้าวหน้าตามหนทางแห่งความเชื่อ  ด้วยเหตุว่า  การเตรียมดังกล่าวเป็นโอกาสพิเศษที่บ่าวสาวจะได้พบความเชื่อใหม่อีกครั้งหนึ่งและเข้าใจอย่างลึกซึ้งกว่าเดิม  ซึ่งเป็นความเชื่อที่พระเจ้าประทานให้ในเวลาที่เขารับศีลล้างบาป  และที่เขาได้รับการหล่อเลี้ยงจากการศึกษาอบรมในบรรยากาศคริสตชนตลอดมา  ดังนั้น  บ่าวสาวจึงทราบถึงกระแสเรียกของตนและเต็มใจที่จะติดตามพระคริสตเจ้าพร้อมกับรับใช้พระอาณาจักรของพระเจ้าในชีวิตสมรส
    โอกาสสำคัญที่สุดที่สามีภรรยาจะแสดงความเชื่อของตน  ก็คือ  พิธีศีลสมรสนั่นเองซึ่งตามความหมายอันลึกซึ้งนั้น ศีลสมรสนี้เป็นการประกาศข่าวดีเกี่ยวกับความรักของคู่สมรสภายในพระศาสน-จักร  ข่าวดีนี้เป็นพระวาจาของพระเจ้าซึ่ง  “เปิดเผย” แผนการของพระเจ้าต่อสามีภรรยา  และ  “บันดาลให้บรรลุผลสำเร็จ”  โดยอาศัยพระปรีชาญาณและความรักของพระองค์  สามีภรรยาจึงเริ่มมีส่วนร่วมอย่างซ่อนเร้น     แต่ถ่องแท้ในความรักของพระเจ้าต่อมนุษย์ทั้งหลาย ถ้าหากว่า    ความหมายแท้ของพิธีศีลสมรสนั้นคือ  การประกาศพระวาจาของพระเจ้า  ทุกคนที่มีบทบาทสำคัญและเป็นผู้ประกอบพิธีนั้น  ต่างก็ต้อง  “ยืนยันความเชื่อ”  อย่างแจ่มแจ้งท่ามกลางพระศาสนจักรและพร้อมกับพระศาสนจักร  ซึ่งเป็นที่ชุมชนของผู้มีความเชื่อ
    การยืนยันความเชื่อนั้นต้องต่อเนื่องไปตลอดชีวิตของคู่สมรสและของครอบครัว  ที่จริง  พระเจ้าผู้ทรงเรียกสามีภรรยาให้มาสมรสกันก็ยังทรงเรียกเขาโดยทางการสมรส   ในเหตุการณ์ต่างๆ  และโดยอาศัยเหตุการณ์ ปัญหาและความยากลำบาก ตลอดจนทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน  พระเจ้าทรงเสด็จมาหาสามีภรรยา  พระองค์ทรงชี้แจงและเสนอให้เขารับรู้  “เงื่อนไขที่แท้จริง”  ที่เขาต้องยอมรับในสภาพเฉพาะของตนทางครอบครัว  สังคม  และศาสนา  เมื่อมีส่วนร่วมในความรักของพระคริสตเจ้าต่อพระศาสนจักร
    ในฐานะที่เป็น  “อันหนึ่งอันเดียวกัน”  คู่สมรสหรือครอบครัวจะต้องค้นหาแผนการของพระเจ้าให้พบและนอบน้อมต่อแผนการนั้น  โดยอาศัยประสบการณ์ซึ่งมนุษย์สามารถมีได้ในความรักที่ดำรงอยู่ระหว่างสามีภรรยาและระหว่างพ่อแม่กับลูกๆ ตามพระจิตของพระคริสตเจ้า
    เพื่อให้สิ่งเหล่านี้เป็นจริงได้  พระศาสนจักรระดับครอบครัวเช่นเดียวกับพระศาสนจักรใหญ่  มีความจำเป็นต้องรับฟังข่าวดีโดยมิหยุดยั้งและอย่างจริงจัง  เพราะฉะนั้น  ครอบครัวจึงมีหน้าที่แสวงหาความรู้ในเรื่องความเชื่ออย่างต่อเนื่อง