แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

ภารกิจแพร่ธรรมของครอบครัวคริสตชน
52. ครอบครัวคริสตชนรับฟังพระวรสารและบรรลุถึงวุฒิภาวะในความเชื่อที่สมบูรณ์มากเท่าไร  ครอบครัวก็จะยิ่งกลายเป็นหน่วยที่ประกาศพระวรสารมากขึ้นเท่านั้น  ให้เรานึกถึงคำพูดของพระสันตะปาปาเปาโลที่  6  ที่ว่า  “ครอบครัวก็เช่นเดียวกับพระศาสนจักร  ควรเป็นแหล่งที่ยินดีรับฟังและเผยแผ่พระวรสารให้กระจายไป  ฉะนั้น  ในครอบครัวที่ตระหนักถึงภารกิจนี้เป็นอย่างดี  สมาชิกทุกคนจึงเป็นทั้งผู้เผยแผ่พระวรสารและผู้รับฟังพระวรสารด้วย  บิดามารดามิใช่เป็นผู้ถ่ายทอดพระวรสารให้แก่ลูกเท่านั้นแต่ก็ยังอาจรับพระวรสารจากลูกๆ ที่บำเพ็ญตนตามหลักพระวรสารนั้นอย่างจริงจังด้วย  ครอบครัวแบบนี้เป็นผู้ประกาศพระวรสารไปถึงครอบครัวอื่นๆ อีกมากมายและไปถึงแวดวงที่เขาอาศัยอยู่ด้วย”
    ตามที่สมัชชาพระสังฆราชได้เคยกล่าวไว้แล้ว โดยอ้างอิงถึงบทแถลงของข้าพเจ้าที่เมืองปูเอบลาว่า  งานเผยแผ่พระวรสารในอนาคตขึ้นอยู่กับพระศาสนจักรระดับครอบครัวเป็นส่วนมาก  ภารกิจของครอบครัวในด้านงานธรรมทูตนี้มีรากฐานอยู่ที่ศีลล้างบาป  และรับแรงกระตุ้นใหม่จากพระหรรษานของศีลสมรสเพื่อจะถ่ายทอดความเชื่อเพื่อนำความศักดิ์สิทธิ์มาสู่สังคม  และเพื่อเปลี่ยนโฉมหน้าของสังคมปัจจุบันให้สอดคล้องกับแผนการของพระเจ้า
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยนี้  ครอบครัวคริสตชนมีหน้าที่พิเศษคือ  ต้องเป็นประจักษ์พยานถึงพันธสัญญาของพระคริสตเจ้าในธรรมล้ำลึกปัสกาของพระองค์  โดยการเผยแผ่ความปลาบปลื้มแห่งความรักและความหวังอันแน่วแน่ ครอบครัวจะต้องสามารถอธิบายถึงเหตุผลให้ผู้อื่นเข้าใจได้  “ครอบครัวคริสตชนประกาศให้รู้ถึงคุณค่าของพระอาณาจักรของพระเจ้าสำหรับโลกปัจจุบัน  รวมถึงความหวังอันแน่วแน่ในชีวิตแห่งความบรมสุข”
    การอบรมสอนคำสอนในครอบครัวปรากฏว่า  เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างที่สุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีพิเศษซึ่งพระศาสนจักรสังเกตเห็นได้ในบางประเทศด้วยความเป็นห่วง  “ที่ใดมีกฎหมายต่อต้านศาสนาที่ห้ามการอบรมในด้านความเชื่อก็ดี  ที่ใดที่ศาสนาพัฒนาขึ้นจริงๆไม่ได้เพราะความศรัทธาเฉื่อยชาลงหรือทัศนะแบบ  “โลกนิยม”  ขายออกไปก็ดี  ที่นั้น  “พระศาสนจักรระดับครอบครัว”  เป็นสถานที่เดียวที่เด็กและเยาวชนจะสามารถรับการสอนคำสอนอันเที่ยงแท้ได้”