แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

10 วิธีแก้อาการโกรธหรือโมโห


angry-faceบ่อยครั้งที่เราอารมณ์เสีย แล้วก็มักจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ สิ่งเหล่านี้น่ากลัวไม่น้อยเลยนะครับ ทั้งต่อบุคลิกภาพของเรา แล้วยังส่งผลให้เสียสุขภาพอีกด้วย เรามาหาวิธีการระงับความโกรธแบบง่ายๆ กันดีกว่านะครับ

1. หลีกเลี่ยง
การหลีกเลี่ยงต่างจากการหลีกหนี ไม่ได้แปลว่าคุณขี้ขลาดหรือกลัวเลยสักนิดเดียว แต่มัหมายถึงการแสดง EQ ในตัวคุณต่างหากที่สามารถระงับอารมณ์โกรธได้เป็นอย่างดี
2. หาที่ปรึกษา แต่จะปรึกษาหรือระบายอะไรกับใครทั้งทีก็ดูตาม้าตาเรือหน่อยนะครับ ว่าเค้าคนนั้นไว้ใจได้แค่ไหน ไม่งั้นอาจจะเป็นงูพิษแว้งกัดคุณทีหลังก็ได้

3. กินแก้โกรธ เรื่องกินเนี่ยไม่เข้าใครออกใครจริงๆ นะครับ ไม่ว่าใครถ้าลองได้กินอาหารสุดโปรด สุดอร่อยที่ตัวเองชอบแล้วละก็ลืมเรื่องอื่นไปได้เลย ว่าแต่อย่าโกรธบ่อยนะครับ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
4. เย็นดับร้อน หาเครื่องดื่มเย็นๆ สักแก้ว เผื่อว่าความเย็น ความหวานของเครื่องดื่มจะช่วยดับความร้อนภายในใจของเราได้บ้าง แต่อย่าเอาแบบที่มีแอลกอฮอล์เลยนะครับ เพราะมันอาจจะทำให้เราขาดสติ เรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปได้
5. หัวเราชนะโกรธ เพราะการหัวเราะนั้นมีแต่ประโยชน์ ไม่เคยมีโทษต่อร่างกายเลย คิดซะว่า โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า ดูหน้าตัวเองตอนกำลังโกรธในกระจกก็ได้ครับ มันคงตลกไม่น้อยเลย หัวเราะให้ความโกรธมันกระจายไปเลย
6. น้ำตาชนะทุกอย่างได้ การร้องไห้นั้นเป็นการระบายความเครียด รวมทั้งระบายความโกรธได้อีกด้วย ลองปล่อยน้ำตาให้ไหลโดยไม่ต้องบังคับดูสิ แล้วคุณจะรู้ว่าร้องไห้ช่วยไล่ความโกรธได้จริงๆ
7. ร้องเพลงไง การร้องเพลงจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี ร้องตะโกนให้มันดังๆ ปลดปล่อยอารมณ์ออกไปตามเพลงให้เต็มที่ แล้วความโกรธก็จะหลุดลอยไปตามเสียงเพลงนั่นแหละครับ
8. ลืมมันซะ หากิจกรรมดีๆ ทำ เลิกคิดถึงเรื่องที่ทำให้คุณโกรธ ให้สมองได้พักผ่อนอยู่กับสิ่งที่คุณชอบและรักดีกว่า อย่าไปใส่ใจกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องเลย
9. นอนหลับซะเลย เวลาที่คนเราโกรธจะรู้สึกปวดหัว แล้วหัวมันก็เกิดหนักขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน รับรองว่าถ้าคุณได้นอนหลับเอาแรงซักงีบ เมื่อคุณตื่นขึ้นมาคุณจะต้องรู้สึกดีขึ้นอย่างแน่นอนเลยครับ
10. รู้จักอภัย ฟังดูแล้วออกจะเป็นนางเอกไปซักนิด แต่ลองทำดูซิครับ แล้วคุณจะรู้ว่าการให้อภัยนอกจากจะเป็นการให้โอกาสคนอื่นแล้ว ยังทำให้เราสบายใจขึ้นได้อีกด้วย

ที่มา : วารสารประกันสังคม ฉบับที่ 4

แต่หากยังไม่หายโกรธ ลองปฏิบัติตามคำสอนของพระเยซูเจ้าดูนะครับ

  • แม้ท่านจะโกรธ ก็อย่าให้เป็นบาป จงเลิกโกรธก่อนดวงอาทิตย์ตก (บทจดหมายนักบุญเปาโลถึงชาวเอเฟซัส 4:26)
  • “ท่านทั้งหลายได้ยินคำกล่าวว่า จงรักเพื่อนบ้าน  จงเกลียดศัตรู แต่เรากล่าวแก่ท่านว่า จงรักศัตรู จงอธิษฐานภาวนาให้ผู้ที่เบียดเบียนท่านเพื่อท่านจะได้เป็นบุตรของพระบิดาเจ้าสวรรค์ พระองค์โปรดให้ดวงอาทิตย์ของพระองค์ขึ้นเหนือคนดีและคนชั่ว โปรดให้ฝนตกเหนือคนชอบธรรมและคนอธรรม ถ้าท่านรักแต่คนที่รักท่าน ท่านจะได้บำเหน็จรางวัลอะไรเล่า บรรดาคนเก็บภาษี มิได้ทำเช่นนี้ดอกหรือ ถ้าท่านทักทายแต่พี่น้องของท่านเท่านั้น ท่านทำอะไรพิเศษเล่า คนต่างศาสนามิได้ทำเช่นนี้ดอกหรือ ฉะนั้น ท่านจงเป็นคนดีอย่างสมบูรณ์ ดังที่พระบิดาเจ้าสวรรค์ของท่าน ทรงความดีอย่างสมบูรณ์เถิด (มัทธิว 5:43-48)
  •  “ถ้าท่านให้อภัยผู้ทำความผิด พระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ ก็จะประทานอภัยแก่ท่านด้วย แต่ถ้าท่านไม่ให้อภัยผู้ทำความผิด พระบิดาของท่านก็จะไม่ประทานอภัยแก่ท่านเช่นเดียวกัน” (มัทธิว 6:14-15)