แสงยังสว่าง...เกลือยังเค็ม...แป้งยังฟู

X8546111-1“ท่านทั้งหลายเป็นเกลือดองแผ่นดิน ถ้าเกลือจืดไปแล้ว จะเอาอะไรมาทำให้เค็มอีกเล่า เกลือนั้นย่อมไม่มีประโยชน์อะไร นอกจากจะถูกทิ้งให้คนเหยียบย่ำ “ท่านทั้งหลายเป็นแสงสว่างส่องโลก เมืองที่ตั้งอยู่บนภูเขาจะไม่ถูกปิดบัง ไม่มีใครจุดตะเกียงแล้วเอามาวางไว้ใต้ถังแต่ย่อมตั้งไว้บนเชิงตะเกียง จะได้ส่องสว่างแก่ทุกคนในบ้าน ในทำนองเดียวกัน แสงสว่างของท่านต้องส่องแสงต่อหน้ามนุษย์ เพื่อคนทั้งหลายจะได้เห็นกิจการดีของท่าน และสรรเสริญพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ (มธ 5:13-16)

พระองค์ยังตรัสเป็นอุปมาอีกเรื่องหนึ่งว่า “อาณาจักรสวรรค์ยังเปรียบได้กับเชื้อแป้งที่หญิงคนหนึ่งนำมาเคล้าผสมกับแป้งสามถัง จนแป้งทั้งหมดฟูขึ้น” (มธ 13:13)

ชีวิตส่วนตัวเปล่าเปลี่ยว ดำเนินชีวิตอยู่ไปวันๆ อย่างไร้ความหมาย ขาดแสงสว่างนำทางชีวิต วิญญาณ... “เรา” เป็นแสงสว่างนำทางชีวิต “เขา” ได้ไหม?

สังคมเสื่อมโทรม แก่งแย่งชิงดีชิงเด่น เห็นแก่ตัว ขาดความเมตตาอารี ไม่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ขาดความรัก... “เรา” เป็นเกลือรักษาความดีแก่ “เขา” ได้ไหม?
ชีวิตกลุ่ม ขาดชีวิตชีวา ขาดความกระตือรือร้น ขาดความร่วมมือ ขาดความสามัคคี... “เรา” เป็นเชื้อแป้งนำชีวิตให้ฟูแก่ “เขา” ได้ไหม?

ฟรังซัส บัลฟอร์ เคยกล่าวไว้ว่า :
สิ่งที่ดีที่สุดที่จะให้แก่ศัตรู คือ การให้อภัย
สิ่งที่ดีที่สุดที่จะให้แก่คู่ต่อสู้ คือ การอดทน
สิ่งที่ดีที่สุดที่จะให้แก่เพื่อน คือ หัวใจ
สิ่งที่ดีที่สุดที่จะให้แก่ลูก คือ ตัวอย่างที่ดี
สิ่งที่ดีที่สุดที่จะให้แก่ตัวเอง คือ การยอมรับตนเอง
สิ่งที่ดีที่สุดที่จะให้แก่ทุกคน คือ ความรักเมตตา


หากสิ่งเหล่านี้ยังอยู่ในโลกปัจจุบันนี้แล้ว แสงก็ยังสว่าง เกลือก็ยังเค็ม แป้งก็ยังฟู
ข้าแต่พระคริสตเจ้า โปรดทรงช่วยลูกด้วย โปรดทรงนำทางลูก โปรดให้ลูกเป็นแสงที่ยังส่องสว่าง โปรดให้เกลือภายในตัวลูกยังเค็มอยู่ และโปรดให้แป้งยังคงฟูอยู่

ที่มา : หนังสือแม่พระยุคใหม่ (เดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2012)