แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

    พระสังฆราชได้เรียกพระสงฆ์บวชใหม่สองท่านเข้ามาพบ คุณพ่ออัคคี ยุติธรรม และคุณพ่อสุภาพ ใจเมตตา พระสังฆราชได้มอบหมายงานให้คุณพ่อทั้งสองไปเทศน์สอนที่หมู่บ้านคนละหมู่บ้าน พระสังฆราชให้สัญญาว่าหลังจากนั้นหนึ่งเดือนพระสังฆราชจะไปเยี่ยมคุณพ่อทั้งสองที่หมู่บ้านที่ได้มอบหมายให้คุณพ่อทั้งสองดูแล

    หนึ่งเดือนผ่านไป พระสังฆราชเดินทางไปเยี่ยมหมู่บ้านที่คุณพ่ออัคคี ยุติธรรมกำลังทำงานอภิบาลอยู่ พระสังฆราชรู้สึกตกใจเมื่อพบว่าถึงแม้สัตบุรุษในหมู่บ้านนั้นจะเป็นคนที่มีความศรัทธา แต่พวกเขาก็ดูเศร้าๆ และมีความหวาดกลัวในหัวใจ พวกเขามีมโนธรรมที่เกรงกลัวต่อพระอาญาของพระเจ้าอย่างเห็นได้ชัด และเมื่อเขาได้ทำบาปแม้แต่เพียงเล็กน้อย พวกเขาจะถอนใจ ข้อนอกตนเอง และสวดภาวนารำพึงรำพันว่า “โอ นี่คือจุดจบของฉัน พระเจ้าคงลงโทษในความผิดบาปของฉันอย่างแน่นอน”
    เมื่อสังเกตทุกอย่างที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านเรียบร้อยแล้ว พระสังฆราชได้เรียกคุณพ่ออัคคี ยุติธรรมเข้าพบ และถามคุณพ่อว่า คุณพ่อได้เทศน์สอนอะไรแก่สัตบุรุษในหมู่บ้านนี้ที่คุณพ่อดูแล
    “พระคุณเจ้าที่เคารพ ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ผมเทศน์เกี่ยวกับการลงโทษของพระเจ้า และเกี่ยวกับนรก ผมบอกพวกเขาว่าพระเจ้าทรงเป็นพระตุลาการที่ทรงไว้ซึ่งความยุติธรรม และบาปทุกๆ ประการที่แต่ละคนทำจะมีโทษของพระเจ้ารออยู่ ยิ่งเขาทำบาปมากเท่าใด โทษของพระเจ้าที่เขาจะได้รับก็จะรุนแรงเท่านั้น”
    พระสังฆราชไม่ได้พูดอะไร ท่านได้แต่สั่นศีรษะและจากหมู่บ้านของคุณพ่ออัคคี ยุติธรรม ท่านมุ่งหน้าไปที่หมู่บ้านของคุณพ่อสุภาพ ใจเมตตา ในหมู่บ้านของคุณพ่อสุภาพ พระสังฆราชพบสถานการณ์ที่แตกต่างจากหมู่บ้านของคุณพ่ออัคคี ยุติธรรมอย่างเห็นได้ชัด
    บรรดาสัตบุรุษดูเป็นคนเฉื่อยชาและไม่ศรัทธา พระสังฆราชพยายามตักเตือนบรรดาสัตบุรุษ แต่ดูเหมือนว่าไม่เป็นผล พวกเขากลับย้อนพระสังฆราชของพวกเขาว่า “พระคุณเจ้าอย่ามาเปลี่ยนแปลงพวกเราเลย พระเจ้าทรงมีพระทัยเมตตา พระองค์ทรงเข้าใจความอ่อนแอและบาปของพวกเรา”
    พระสังฆราชเรียกคุณพ่อสุภาพ ใจเมตตามาพบ และขอคำอธิบายจากคุณพ่อ คุณพ่อตอบว่า “พระคุณเจ้าที่เคารพ ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาผมเทศน์ถึงเรื่องพระทัยดีของพระเจ้าผู้ทรงเป็นองค์แห่งความรักและเมตตา ผมทำให้พวกเขามั่นใจว่าพระองค์ทรงรักเขา ผมยังสอนพวกเขาให้ไม่ต้องกังวล เพราะพระเจ้าทรงเต็มใจที่จะยกบาปและลืมความผิดทั้งหมดของพวกเขา”
    พอมาถึงจุดนี้พระสังฆราชมองเห็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ดังนั้นท่านจึงมอบหมายงานใหม่ให้กับคุณพ่อทั้งสอง ท่านส่งคุณพ่ออัคคี ยุติธรรม และคุณพ่อสุภาพ ใจเมตตาให้ไปเทศน์สอนในหมู่บ้านเดียวกัน

ชวนคิดสะกิดใจ
พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่ และหลายๆ ครั้งเป็นเรื่องยากที่จะถ่ายทอดถึงพระองค์ให้ครบครัน แต่พ่อว่าสิ่งที่สำคัญ คือ เราสำนึกเสมอว่าเราเป็นลูกของพระองค์ และจะพยายามเป็นลูกที่ดี เพราะพระบิดาของเราทรงใจดี จึงไม่จำเป็นที่เราจะต้องเกรงกลัวพระองค์ และเพราะเราพยายามเป็นลูกที่ดี เราจึงต้องไม่ทำตัวเกเรในบาปให้พระบิดาของเราต้องเสียพระทัย ที่สำคัญก็คือฤทธิ์กุศลนั้นเดินสายกลาง ชีวิตจึงไม่ควรตึงหรือหย่อนจนเกินไป