แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

    นักเล่นกลคนหนึ่งบังเอิญได้อ่านพระคัมภีร์ เขาอ่านเรื่องอัศจรรย์ของพระเยซูเจ้าด้วยความสนใจ และด้วยแรงบันดาลใจจากเรื่องราวของพระเยซูที่เขาอ่าน นักเล่นกลปรารถนาที่จะเลียนแบบพระเยซูเจ้าและรับศีลล้างบาป

    เขาตัดสินใจเดินทางไปที่วัดที่อยู่ใกล้หมู่บ้านของเขา เพื่อขอรับศีลล้างบาปจากคุณพ่อเจ้าวัด ในระหว่างทางเขาพบกับขบวนแห่ศพ โดยปรารถนาจะเลียนแบบพระเยซูเจ้า เขาบอกให้ขบวนแห่ศพหยุดและเดินตรงไปที่โลงศพของเด็กหนุ่มผู้ตาย นักเล่นกลกล่าวถ้อยคำ 2-3 คำต่อหน้าศพของเด็กหนุ่มผู้นั้น ทันใดนั้นผู้ตายก็กลับฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาใหม่ หลังจากนั้นนักเล่นกลก็เดินทางต่อไป
    เมื่อเขาเข้ามาในหมู่บ้าน เขาเห็นคนยากจนกำลังรวมตัวกัน พวกเขามีเพียงขนมปังห้าก้อนเป็นอาหารที่เหลืออยู่สำหรับทุกคน นักเล่นกลหยิบขนมปังห้าก้อนขึ้นมา เขาเสกมันด้วยเวทย์มนต์ของเขา และมันทวีจำนวนมากมาย และคนจนที่นั่นทุกคนสามารถกินขนมปังอย่างอิ่มหนำ นักเล่นกลมีความสุขมาก เพราะเขาคิดว่าเขาสามารถเลียนแบบพระเยซูเจ้าได้อีกครั้งหนึ่ง
    ที่สุดเขามาถึงฝั่งตรงข้ามของวัดซึ่งมีแม่น้ำขวางอยู่ เขาใช้เวทย์มนต์ของเขาอีกครั้ง และช่างน่าอัศจรรย์ใจอะไรเช่นนั้น เขาสามารถเดินบนน้ำได้ เขาภาคภูมิใจมาก เพราะเขาคิดว่านี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เขาเลียนแบบพระเยซู “ฉันกำลังเลียนแบบพระเยซู” เขารำพึงกับตนเอง “ตอนนี้ฉันคง  เป็นคริสตชนได้แล้วซินะ”
    นักเล่นกลเดินตรงไปที่วัดและแนะนำตนเองกับคุณพ่อ “คุณพ่อครับผมอยากเป็นคริสตชน” “ลูกที่รัก ลูกทราบไหมว่าการเป็นคริสตชนมีความหมายอย่างไร” คุณพ่อถาม “ ผมคิดว่าผมทราบนะครับ เพราะจริงๆ แล้ว คุณพ่อทราบไหมครับว่า วันนี้ผมเลียนแบบพระเยซูเจ้า โดยทำอัศจรรย์ ปลุกคนตายให้กลับคืนชีพ ทวีขนมปัง และเดินบนน้ำ” นักเล่นกลตอบอย่างภาคภูมิใจ
    “บอกพ่ออีกนิดหนึ่งนะว่า ลูกสามารถรักศัตรู รับใช้เพื่อนบ้านของลูก ปฏิเสธตนเองและแบกกางเขนของลูกติดตามพระเยซูได้ไหม?” คุณพ่อถามอย่างนุ่มนวล “มันบ้าชัดๆ เลย สิ่งที่คุณพ่อพูดมา มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่ทำแบบนี้” ชายนักเล่นกลตอบคุณพ่ออย่างหัวเสีย
    “แต่ลูกรัก สิ่งเหล่านี้แหละเป็นความหมายของการเป็นคริสตชนที่พระเยซูเจ้าทรงสอน” คุณพ่อย้ำ เมื่อได้ยินดังนี้ นักเล่นกลเดินจากไปในทันที เขาคิดในใจว่าเขาจะไม่ยอมเป็นคริสตชนอย่างเด็ดขาด
    มันง่ายที่จะเลียนแบบอัศจรรย์ของพระเยซู แต่มันยากที่จะเลียนแบบความรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์

ชวนคิดสะกิดใจ
     “ผู้รักพระราชัยสวรรค์ของพระเยซูมีมาก แต่ผู้แบกกางเขนของพระองค์มีน้อย คนจำนวนมากชอบความบรรเทาใจของพระเยซู แต่คนจำนวนน้อยชอบความลำบากของพระองค์...ส่วนคนที่รักพระเยซูเพราะพระเยซู และมิใช่เพราะความบรรเทาใจจากพระองค์ ย่อมถวายพรแด่พระองค์เสมอเป็นนิตย์ ไม่ว่าเขาจะได้รับความยากลำบาก คับแค้นใจ หรือเป็นสุขใจ” (จากหนังสือ “จำลองแบบพระคริสต์” ภาค 2 บทที่ 11 ข้อ 1-2, 10 หน้า 159-160) ไม่ผิดหรอกที่เราจะแสวงหาความชื่นชมยินดีในพระเยซูเจ้า เพียงแต่ขอเราอย่าลืมว่า เราก็ต้องแบกกางเขนติดตามพระองค์ด้วยเช่นกัน