แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

พระเจ้าทรงจัดเตรียมพละกำลังและความเชื่อมั่นที่ท่านต้องการเพื่อประสบกับความสำเร็จ
“ทั้งนี้มิใช่เพราะเราคิดว่าเราทำสิ่งใดได้ด้วยตนเอง แต่การทำได้นั้นมาจากพระเจ้า” (2คร 3:5)
การพูดสิ่งดีถึงผู้อื่น เป็นความดี ถึงแม้เราจะไม่เคยได้รับรางวัลจากสิ่งนั้น
“อย่าท้อแท้ในการทำความดี เพราะถ้าเราไม่หยุดทำความดี เราก็จะได้เก็บเกี่ยวเมื่อถึงเวลา” (กท 6:9)
ท่านได้รับความฉลาดหลักแหลมและพรสวรรค์ต่างๆ จากพระเจ้าอย่างมากมาย
จงมีความไว้ใจว่าพระเจ้าจะทรงนำท่านให้ใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้า
“ผู้ใดมีหน้าที่รับใช้ ก็จงรับใช้ตามกำลังที่พระเจ้าประทานให้ เพื่อพระเจ้าจะได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ในทุกสิ่งเดชะพระเยซูคริสตเจ้า” (1ปต 4:11)

จงมอบวันแต่ละวันไว้กับพระเจ้า จงรู้ไว้เถิดว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าเหนือวันพรุ่งนี้
“ข้าพเจ้ารู้ว่า ข้าพเจ้ามอบความวางใจไว้กับผู้ใด และมั่นใจว่าพระองค์จะทรงรักษาสิ่งที่ข้าพเจ้ารับมอบไว้จนกว่าจะถึงวันนั้น” (2ทธ 1:12)
พระเจ้าทรงอยู่เคียงข้างท่าน รอคอยท่าน เพียงท่านใช้เวลาอยู่กับพระองค์ในวันนี้ ท่านจะไม่เสียใจเลย
“จงเข้าใกล้พระเจ้าแล้วพระองค์จะเสด็จมาใกล้ท่าน” (ยก 4:8)
ส่วนที่ลำบากที่สุดของการเดินทาง ไม่ใช่การเริ่มต้นหรือตอนจบ แต่เป็นระหว่างทาง
“เราจงมีมานะวิ่งต่อไปในการแข่งขันซึ่งกำหนดไว้สำหรับเรา จงเพ่งมองไปยังพระเยซูเจ้าผู้ทรงบุกเบิกความเชื่อและทำให้ความเชื่อนั้นสมบูรณ์”  (ฮบ 12:1-2)
การทดลองต่างๆ ในชีวิตไม่ทำให้เราล้มเหลว  แต่เพื่อให้เรามองเห็นว่าเราจะก้าวต่อไปอย่างไร
“ผู้ที่มีมานะอดทนต่อการถูกทดลองย่อมเป็นสุข  เพราะเมื่อเขาผ่านการทดลองนั้น เขาจะได้รับมงกุฎแห่งชีวิต  ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสัญญาจะประทานให้ผู้ที่รักพระองค์” (ยก 1:12)
ท่านถูกสร้างมาในภาพลักษณ์ของพระเจ้า  ได้รับพรสวรรค์แห่งพละกำลังและความกล้าหาญ  จงพบกับความท้าทายในปัจจุบันของท่านด้วยความเชื่อในองค์พระผู้สร้าง
“ข้าพเจ้ามุ่งมั่นรอคอยอย่างกระตือรือร้นและหวังว่า ข้าพเจ้าจะไม่อับอายเลย แต่จะพูดอย่างกล้าหาญว่า พระคริสตเจ้าจะทรงได้รับเกียรติ” (ฟป 1:20)
ฝันให้ไกล  ไปให้ถึง
“ที่ใดไม่มีวิสัยทัศน์ ประชาชนก็เสื่อมคุณภาพ” (สภษ 29:18)
ฉันไม่รู้ว่าโชคชะตาของท่านจะเป็นอย่างไร  ฉันรู้แต่เพียงว่า  ผู้ที่จะมีความสุขอย่างแท้จริงในพวกท่านคือผู้ที่รู้จักแสวงหาและพบวิธีที่จะให้ความช่วยเหลือ
“ท่านทั้งหลายจงมีความคิดเห็นพ้องต้องกัน  ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน  รักกันฉันพี่น้อง เห็นใจกัน  และรู้จักถ่อมตน” (1ปต 3:8)
พระเจ้าทรงกระซิบในความยินดีของเรา  ตรัสในมโนธรรมของเรา  และทรงตะโกนในความเจ็บปวดของเรา
“จงปลดเปลื้องความสาละวนของท่านถวายพระยาห์เวห์ แล้วพระองค์จะทรงค้ำจุนท่าน จะไม่ทรงอนุญาตให้ผู้ชอบธรรมต้องสะดุดล้มเลย” (สดด 55:22)
ความสัมพันธ์ของท่านกับพระเจ้า  สามารถสร้างความแตกต่างในทุกเรื่องของชีวิตท่าน
“จงดำเนินชีวิตโดยสวมพระเยซูคริสตเจ้าเป็นอาภรณ์” (รม 13:14)
การรู้จักควบคุมตนเองคือความสามารถในการรักษาความสงบเมื่อผู้อื่นทำให้ท่านฉุนเฉียว
“บุคคลที่ระวังปากและลิ้นของตน ก็รักษาตัวเขาเองให้พ้นความลำบาก” (สภษ 21:23)
ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่กว่าการกระทำสิ่งต่างๆ ด้วยความอดทน
“ข้าพเจ้ายังมุ่งหน้าวิ่งต่อไป เพื่อจะช่วงชิงรางวัลให้ได้ ดังที่พระคริสตเยซูทรงช่วงชิงข้าพเจ้าไว้ได้แล้ว” 
(ฟป 3:12)
เราละเอียดถี่ถ้วนในการคิดรวมความโกรธที่ผู้อื่นกระทำต่อเรา แต่เราไม่ค่อยคิดถึงความทุกข์ที่ผู้อื่นได้รับเพราะเรา
“เราจงเลิกตัดสินกันเถิด  และจงเลิกคิดที่จะเป็นอุปสรรคให้พี่น้องสะดุดล้ม” (รม 14:13)
เพื่อนที่ท่านคบจะกำหนดความยุ่งยากที่ท่านพบ
“อย่าให้ผู้ใดหลอกลวงท่าน การคบคนพาลทำให้เสียคน” (1คร 15:33)
เพื่อที่จะประสบความสำเร็จ  เราต้องมีความกล้าหาญทั้งในความล้มเหลวและพยายามอีกครั้ง
“จงระมัดระวัง จงยืนหยัดมั่นคงในความเชื่อ จงกล้าหาญและเข้มแข็ง” (1คร 16:13)
เราไม่ได้ถูกคาดหวังว่าให้ทำได้ดีที่สุด  แต่อยู่ที่เราทำอย่างดีที่สุด
“ท่านจงขวนขวายที่จะแสดงตนว่าพระเจ้าทรงรับรองท่านแล้ว  เป็นคนงานที่ไม่ต้องอายใคร 
เป็นผู้สั่งสอนพระวาจาแห่งความจริงอย่างถูกต้อง” (2ทธ 2:15)
ถ้าท่านไม่สามารถกระทำสิ่งใหญ่โตได้  จงกระทำสิ่งเล็กน้อยด้วยวิธีการที่ยิ่งใหญ่
“สิ่งใดประเสริฐ  สิ่งใดชอบธรรม  สิ่งใดบริสุทธิ์  สิ่งใดน่ารัก  สิ่งใดควรยกย่อง ถ้ามีสิ่งใดเป็นคุณธรรม  ถ้ามีสิ่งใดน่าสรรเสริญ  ท่านจงพิจารณาสิ่งเหล่านี้ด้วยการใคร่ครวญเถิด”  (ฟป 4:8-9)
ในบางครั้งความยุ่งยากก็เป็นเพื่อน  มันเขย่าเราออกจากความยโส  และจัดให้เรากระทำสิ่งที่ดีกว่า
“เรารู้ว่า  พระเจ้าทรงบันดาลให้ทุกสิ่งกลับเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่รักพระองค์” (รม 8:28)
ทัศนคตินั้นสำคัญกว่าอดีต กว่าการศึกษา กว่าเงินตรา กว่าสภาพแวดล้อม กว่าสิ่งที่ผู้อื่นกระทำหรือพูด  สำคัญกว่าสิ่งที่ปรากฏ  พรสวรรค์หรือทักษะ
“ขอให้ถ้อยคำจากปากและความคิดจากใจข้าพเจ้าเป็นที่โปรดปรานเฉพาะพระพักตร์พระองค์เถิด 
ข้าแต่พระยาห์เวห์  ผู้ทรงเป็นหลักศิลาและผู้กอบกู้ข้าพเจ้า” (สดด 19:14)
พระเจ้าทรงจัดเตรียมแผนการสำหรับชีวิตของท่าน  ไม่ว่ามนุษย์หรือปีศาจก็ไม่สามารถทำลายแผนการนั้นได้
“พระยาห์เวห์จะทรงบันดาลให้กิจการที่ทรงกระทำเพื่อข้าพเจ้าสำเร็จ  ข้าแต่พระยาห์เวห์ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์” (สดด 138:8)
พระเจ้าทรงเรียกท่านให้มีหน้าที่เฉพาะสำหรับท่าน  และทรงประทานความสามารถที่จำเป็น  เพื่อกระทำให้สำเร็จ  พระองค์ทรงอยู่เคียงข้างท่านเมื่อท่านเผชิญกับปัญหาต่างๆ  จงมั่นใจว่าพระเจ้าทรงเห็นท่านทุกอย่าง
“ข้าพเจ้าทำทุกสิ่งได้ในพระองค์ผู้ประทานพละกำลังแก่ข้าพเจ้า” (ฟป 4:13)
ฝังหัวใจของท่านไว้ใต้กองแห่งการภาวนา
“จงอธิษฐานภาวนาให้ผู้ที่กระทำร้ายท่าน” (ลก 6:28)
ถ้าเราได้รับผลกระทบใดๆ จากโลก  เราต้องเพิ่มความหนักแน่นไว้ในความเชื่อ  และควบคุมด้วยความรัก
“ร่างกายที่ปราศจากวิญญาณย่อมตายแล้วฉันใด  ความเชื่อที่ไม่มีการกระทำก็ย่อมตายแล้วฉันนั้น” (ยก 2:26)
ปรีชาญาณนั้น  มิได้มาจากการศึกษาหรือประสบการณ์เพียงอย่างเดียว  แต่จากความสนิทสัมพันธ์กับพระเจ้า  ผู้ทรงเป็นต้นกำเนิดแห่งปรีชาญาณทั้งปวง
“เพราะพระเจ้าประทานปรีชาญาณ ความรู้ และความเข้าใจ มาจากพระโอษฐ์ของพระองค์” (สภษ 2:6)
พระเจ้าทรงสร้างท่านอย่างที่ท่านเป็น  เพื่อทรงใช้ท่านตามที่ได้ทรงวางไว้
“เจ้าอยู่ในมือของเรา อย่างดินเหนียวอยู่ในมือของช่างปั้นหม้อ” (ยรม 18:6)
อย่าปล่อยให้สิ่งที่ท่านทำไม่ได้  เป็นอุปสรรคต่อสิ่งที่ท่านสามารถกระทำ
“เรามีพระพรพิเศษแตกต่างกันตามพระหรรษทานที่พระองค์ประทานให้... จงใช้พระพรนั้น” (รม 12:6)
วิธีเอาชนะความประหม่าคือ มีใจจดจ่ออยู่ในสิ่งที่ทำให้ท่านลืมกลัว
“ข้าแต่พระยาห์เวห์  โปรดทรงสอนให้ข้าพเจ้ารู้หนทางแห่งข้อบังคับของพระองค์ 
แล้วข้าพเจ้าจะปฏิบัติตามจนถึงที่สุด 
โปรดประทานความเข้าใจแก่ข้าพเจ้า
เพื่อข้าพเจ้าจะได้รักษาธรรมบัญญัติของพระองค์และปฏิบัติตามสุดจิตใจ
โปรดทรงนำข้าพเจ้าไปตามทางแห่งบทบัญญัติของพระองค์  เพราะข้าพเจ้าชื่นชมเช่นนั้น” 
(สดด 119:34-35)
จงเชื่อว่าท่านทำได้  ท่านก้าวไปได้ครึ่งทางแล้ว  จงเชื่อว่าพระเจ้าทรงกระทำได้และท่านจะมีชัยชนะในการแข่งขัน
“ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระคริสตเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา  ผู้ประทานพละกำลังแก่ข้าพเจ้า  ด้วยพระองค์ทรงเห็นว่าข้าพเจ้าเป็นผู้น่าเชื่อถือ  จึงทรงเรียกให้มารับใช้” (1ทธ 1:12)
การใช้เวลาสักครู่กับพระเจ้า  เป็นการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ที่คงทนในช่วงชีวิต
“ความดีของข้าพเจ้าคือการอยู่ใกล้พระเจ้า  ข้าพเจ้าตั้งที่หลบภัยไว้ในพระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้า  เพื่อจะได้บอกเล่าถึงพระราชกิจทั้งสิ้นของพระองค์”  (สดด 73:28)