จงวางใจในพระเจ้าแต่ผู้เดียว
12บางคนเฉื่อยชา ต้องการความช่วยเหลือ
เขาไม่มีทรัพย์สมบัติ มีแต่ความขาดแคลน
ถึงกระนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าก็ทอดพระเนตรเขาด้วยความโปรดปราน
ทรงยกเขาขึ้นจากความตกต่ำ
13ทรงโปรดให้เขาไม่ต้องน้อยหน้าผู้ใด
จนคนจำนวนมากต้องประหลาดใจ
14ความสุขและความทุกข์ ชีวิตและความตาย
ความมั่งคั่งและความยากจนล้วนมาจากองค์พระผู้เป็นเจ้าe (15) (16)
17ของประทานจากองค์พระผู้เป็นเจ้าคงอยู่กับผู้ยำเกรงพระองค์f
ความโปรดปรานของพระองค์บันดาลให้เขามีความสุขตลอดไป
18บางคนร่ำรวยเพราะขยันและประหยัด
บำเหน็จที่เขาจะได้รับคืออะไร
19เขาคงจะคิดว่า “ฉันพักผ่อนได้แล้ว
เวลานี้ฉันมีกินมีใช้สบายแล้ว”
แต่เขาหารู้ไม่ว่าจะสบายเช่นนี้ได้นานเท่าไร
ก่อนตาย เขาต้องทิ้งทุกสิ่งแก่ผู้อื่นg
20จงซื่อสัตย์ต่อหน้าที่h ทำงานอย่างขะมักเขม้น
จงประกอบอาชีพเลี้ยงตนจนถึงวัยชรา
21อย่าแปลกใจที่คนบาปประสบความสำเร็จ
จงวางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า และเอาใจใส่ในการงานของท่าน
เพราะเป็นเรื่องง่ายที่องค์พระผู้เป็นเจ้า
จะทรงบันดาลให้คนจนร่ำรวยขึ้นโดยฉับพลัน
22ผู้ยำเกรงพระเจ้าจะได้รับพระพรจากพระองค์เป็นบำเหน็จ
พระองค์ทรงบันดาลให้พระพรบังเกิดผลโดยฉับพลัน
23อย่าถามว่า “ฉันต้องการอะไรบ้าง
ตั้งแต่บัดนี้ ฉันจะจัดการทรัพย์สมบัติอย่างไร”
24อย่าพูดว่า “ฉันไม่ต้องพึ่งใคร
แล้วอันตรายใดจะมากล้ำกรายได้”
25เมื่อมีความสุข เรามักจะลืมความทุกข์
เมื่อมีความทุกข์ เราก็มักจะลืมความสุขi
26เป็นเรื่องง่ายสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า ในวันที่คนหนึ่งตาย
ที่จะทรงตอบแทนเขาตามความประพฤติ
27ความทุกข์เพียงชั่วโมงเดียวทำให้ลืมความสุข
ในวาระสุดท้ายของมนุษย์ กิจการของเขาจะถูกเปิดเผย
28อย่าประกาศว่าผู้ใดมีสุขก่อนที่เขาจะตาย
เพราะเราจะรู้จักคนหนึ่งได้อย่างแท้จริงก็เมื่อเขาจบชีวิตเท่านั้นj
จงวางใจในพระเจ้าแต่ผู้เดียว
- รายละเอียด
- หมวดหลัก: พระคัมภีร์สารบบที่สอง
- หมวด: หนังสือบุตรสิรา
- ฮิต: 2622