ความยำเกรงพระเจ้า
14ผู้ยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าย่อมรับการอบรมสั่งสอนจากพระองค์
ผู้แสวงหาพระองค์ตั้งแต่เช้าตรู่ ย่อมจะพบความโปรดปราน
15ผู้ศึกษาธรรมบัญญัติจะได้รับความอิ่มใจ
แต่คนหน้าซื่อใจคดจะสะดุดล้มเพราะธรรมบัญญัติ
16ผู้ยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าจะพบความยุติธรรม
ความชอบธรรมของเขาจะสุกใสเหมือนแสงสว่างe
17คนบาปไม่ยอมรับคำติเตียน
เขาจะแก้ตัวเพื่อทำตามใจชอบf
18คนรู้จักคิดไม่ละเลยคำตักเตือน
แต่คนอธรรมและเย่อหยิ่งไม่กลัวสิ่งใดทั้งสิ้นg
19อย่าทำสิ่งใดโดยไม่คิดเสียก่อน
แล้วท่านจะไม่ต้องเสียใจเมื่อทำเสร็จแล้วh
20อย่าเดินไปตามทางที่มีอุปสรรคมากมาย
เพราะท่านจะต้องสะดุดก้อนหินล้มลง
21อย่านอนใจแม้ทางที่ไม่มีอุปสรรค
22จงระมัดระวังแม้บุตรของท่าน
23จงระวังตนiในทุกสิ่งที่ท่านทำ
การทำเช่นนี้เป็นการปฏิบัติตามบทบัญญัติ
24ผู้วางใจในธรรมบัญญัติย่อมปฏิบัติตามบทบัญญัติ
ผู้วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้าจะไม่ได้รับความเสียหายเลย
33. 1ผู้ยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าย่อมเผชิญหน้ากับภัยใดๆได้
ถ้าเขาถูกทดลอง พระองค์ก็จะทรงช่วยเขาให้รอดพ้น
2ผู้มีปรีชาย่อมไม่เกลียดธรรมบัญญัติa
ผู้เสแสร้งปฏิบัติตามธรรมบัญญัติเป็นเหมือนเรือที่อยู่ในพายุ
3มนุษย์ที่รู้จักคิดย่อมวางใจในธรรมบัญญัติb
สำหรับเขา ธรรมบัญญัติน่าเชื่อถือเหมือนคำตอบจากพระเจ้า
4จงเตรียมคำพูดของท่านให้ดี แล้วผู้ฟังจะตั้งใจฟังท่าน
จงเรียบเรียงคำสั่งสอนที่ท่านเคยได้รับก่อนจะตอบคำถามc
5ความรู้สึกของคนโง่เป็นเหมือนล้อเกวียน
ความคิดของเขาวนเวียนเหมือนแกนล้อ
6มิตรที่พูดถากถางเป็นเหมือนม้าที่คึกคะนอง
มันร้องลั่น ไม่ว่าผู้ใดเป็นผู้ขี่