สารที่ใช้ประกาศเรื่องการช่วยให้รอดพ้น
101    สารขององค์พระเยซูเจ้าเกี่ยวกับพระเป็นเจ้า  เป็นข่าวดีสำหรับมนุษยชาติ  พระเยซูเจ้าทรงประกาศเรื่องพระอาณาจักรของพระเป็นเจ้า (อ้างถึง EN 11-14; RM 12-20; CCC 541-556)   ซึ่งเป็นการเข้ามีส่วนร่วมในประวัติศาสตร์มนุษย์ของพระเป็นเจ้าในรูปแบบใหม่ตามเวลาที่กำหนด  ด้วยพลังการเปลี่ยนแปลงที่เท่ากันและเหนือไปกว่าการสร้างโลกของพระองค์ด้วยซ้ำ  (ในพิธีกรรมของพระศาสนจักร ช่วงเทศกาลปัสกามีถ้อยคำที่กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้ด้งนี้  “ข้าแต่พระผู้ทรงสรรพานุภาพสถิตนิรันดร  พระองค์ทรงจัดสร้างทุกสิ่งอย่างน่าพิศวง  ขอโปรดให้ผู้ที่ได้รับการไถ่กู้เข้าใจว่า  การเนรมิตสร้างโลกในปฐมกาลนั้น มิได้ประเสริฐกว่าการที่พระเยซูคริสตเจ้าองค์ปัสกาของข้าพเจ้าทั้งหลายทรงถวายองค์เป็นยัญบูชาในยุคสุดท้ายนี้เลย  พระองค์ท่านทรงจำเริญและครองราชย์ตลอดนิรันดร”) 

ในความหมายนี้  “พระคริสตเจ้าทรงประกาศถึงการช่วยให้รอดพ้นในฐานะที่เป็นส่วนประกอบที่สำคัญ  และในฐานะที่เป็น “จุดศูนย์กลางแห่งข่าวดีของพระองค์”  นี่คือของประทานอันยิ่งใหญ่ของพระเป็นเจ้าที่เราต้องพิจารณาว่า  ไม่เพียงแต่เป็นการปลดปล่อยให้เป็นอิสระจากทุกสิ่งทุกอย่างที่กดขี่มนุษย์เท่านั้น  ยังประกอบไปด้วย การปลดปล่อยที่พิเศษ คือ ให้เป็นอิสระจากบาปและการควบคุมของปีศาจ  การปลดปล่อยให้เป็นอิสระที่รวมเอาความชื่นชมยินดีจากทุกๆ คนที่ได้รู้จักพระเป็นเจ้าและเป็นที่รู้จักของพระองค์  ผู้ที่ได้เห็นพระเป็นเจ้าและผู้ที่ยอมมอบตัวเองแด่พระองค์ด้วยความไว้วางใจ” (EN 9)  การสอนคำสอนถ่ายทอดสารของพระอาณาจักรนี้อันเป็นเรื่องสำคัญยิ่งในการเทศน์สอนขององค์พระเยซู  ในการสอนดังนี้ สาร “ก็จะค่อยๆ มีความลึกซึ้งยิ่งขึ้นและมีการพัฒนาผลที่เกิดขึ้นจากสารอย่างชัดเจน” (CT 25) แล้วก็จะส่งผลสะท้อนอันใหญ่ยิ่งให้แก่มนุษย์และโลก

102    ในการกล่าวถึงและอธิบายการเทศน์สอนเรื่องพระเยซูเจ้าจากพระวรสาร (Gospel kerygma of Jesus) อย่างชัดเจนนั้น  การ สอนคำสอนจะเน้นความคิดพื้นฐานต่อไปนี้
    - พระเยซูเจ้าผู้ประทับในพระอาณาจักรทรงประกาศและเปิดเผยว่าพระเป็นเจ้ามิใช่ผู้ทรงสถิตอยู่ห่างไกลจนไปไม่ถึง  หรือเป็น “พลังลึกลับที่ไร้ชื่อ” (EN 26) แต่ทรงเป็นพระบิดาผู้ทรงประทับท่ามกลางสิ่งสร้างทั้งหลายของพระองค์ และพลังของพระองค์คือ ความรักของพระองค์นั่นเอง   คำยืนยันที่เกี่ยวกับพระเป็นเจ้าในฐานะพระบิดานี้ถูกนำเสนอในรูปแบบเรียบง่ายและตรงๆ  เป็นพื้นฐานของการสอนคำสอน
    - พระเยซูเจ้าทรงแสดงให้เห็นว่า ในเวลาเดียวกันกับที่พระเป็นเจ้าทรงมาพร้อมกับพระอาณาจักรของพระองค์นั้น  พระองค์ทรงประทานความรอดพ้นอย่างครบครัน ให้เป็นอิสระจากบาป   ทรงนำมนุษย์แต่ละคนมาเป็นหนึ่งเดียวกับพระบิดา  ทรงยอมรับในความเป็นบุตรของพระเป็นเจ้า  และในการมีชัยชนะเหนือความตายนั้น  พระองค์ทรงสัญญาจะประทานชีวิตนิรันดรแก่มนุษย์ ( พระพรแห่งการช่วยให้รอดพ้นนี้มอบ “เหตุผลที่เหมาะควรแก่การทำบางสิ่ง” (justification) โดยพระหรรษทานแห่งความเชื่อและศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งพระศาสนจักร  พระหรรษทานนี้ช่วยปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระจากบาป  และนำเราเข้าร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพระเป็นเจ้า (LC 52) )  ความรอดพ้นอันสมบูรณ์แบบนี้ได้เกิดขึ้นแล้วในทุกทุกที่ (immanent)  และในเวลาที่พระคริสตเจ้าจะเสด็จกลับมาอีกครั้งเพื่อทรงพิพากษาผู้เป็นและผู้ตาย (eschatological)  เพราะ “ความรอดพ้นนั้นมีจุดเริ่มต้นอย่างแน่นอนแล้วในชีวิตนี้  แต่จะรับผลสำเร็จสมบูรณ์ไปตลอดในนิรันดรภาพ (eternity) (EN 27)
    - ในขณะที่พระเยซูเจ้าทรงประกาศพระอาณาจักรนั้น  พระองค์ก็ทรงประกาศเรื่องความยุติธรรมของพระเป็นเจ้า  โดยที่พระองค์ทรงประกาศเรื่องการพิพากษาของพระเป็นเจ้าและความรับผิดชอบของเรา  การประกาศเรื่องการพิพากษานี้ด้วยพลังแห่งการประกาศอันจะก่อให้เกิดความละอายต่อการทำความชั่ว (conscience, หิริ)นี้  เป็นส่วนที่สำคัญในพระวรสารและข่าวดีสำหรับมวลมนุษย์  คือ สำหรับบุคคลที่ได้รับความทรมานจากถ้อยคำที่ไม่ยุติธรรม และผู้ที่ดิ้นรนเพื่อให้เกิดความยุติธรรม  สำหรับผู้ที่ได้รู้จักความรักและความเป็นอยู่อย่างมีเอกภาพ  เพราะว่าการใช้โทษบาปและการอภัยบาปสามารถเป็นจริงได้เนื่องจากเราทุกคนได้รับการไถ่กู้ให้รอดพ้นจากบาปในการสิ้นพระชนม์ของพระคริสตเจ้าบนไม้กางเขน   คำเชื้อเชิญให้กลับใจและเชื่อในพระวรสารแห่งพระอาณาจักรนี้เป็นเรื่องพื้นฐานสำหรับการสอนคำสอน ซึ่งกล่าวถึงพระอาณาจักรแห่งความยุติธรรม ความรักและสันติสุข และเราจะได้รับการพิพากษาโดยพระวินิจฉัยของพระเป็นเจ้า
    - พระเยซูเจ้าทรงประกาศว่า  พระอาณาจักรของพระเป็นเจ้าได้เริ่มขึ้นแล้วในตัวพระองค์  ในองค์พระบุคคลของพระองค์นี้อย่างแน่นอน (อ้างถึง LG 3,5)  อันที่จริง พระองค์ทรงเปิดเผยว่า  พระองค์เองในฐานะที่ได้รับการสถาปนาให้เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงรับผิดชอบการสร้างพระอาณาจักรขึ้นมาจนเสร็จสมบูรณ์แล้วพระองค์จะทรงมอบพระอาณาจักรนี้ให้กับพระบิดาในเวลาที่พระองค์จะเสด็จกลับมาอีกครั้งในสิริโรจนา (อ้างถึง RM 16)  “ณ บนแผ่นดินโลกนี้ พระอาณาจักรดำรงอยู่อย่างลึกลับ  ณ เวลาที่องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมา พระอาณาจักรก็จะเข้าสู่ความสมบูรณ์” (GS 39)
    - พระเยซูเจ้าทรงแสดงให้เห็นว่า  กลุ่มของบรรดาศิษย์ของพระองค์อันเป็นพระศาสนจักร  “เป็นเมล็ดและการเริ่มต้นของพระอาณาจักรบนโลกนี้” (LG 5)  และเหมือนเชื้อหมักในแป้งที่ผสมแล้ว  สิ่งที่พระศาสนจักรปรารถนาก็คือ ให้พระอาณาจักรของพระเป็นเจ้าเจริญเติบโตขึ้นในมนุษยโลก  เหมือนดังต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งซึ่งให้ที่พักอาศัยแก่มวลมนุษย์ทั้งหลายทุกวัฒนธรรม  พระศาสนจักรมีหน้าที่รับใช้พระอาณาจักรอย่างมีประสิทธิภาพและอย่างเป็นรูปธรรม” (RM 20)
    ในที่สุด  พระเยซูเจ้าทรงเปิดเผยให้เห็นอย่างชัดแจ้งว่า  ประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติมิใช่การเดินทางไปสู่ความว่างเปล่า  แต่พร้อมด้วยพระหรรษทานและบาปที่ปรากฏในประวัติศาสตร์นี้ อันเป็นสิ่งที่มีอยู่ในตัวมนุษย์ซึ่งพระเป็นเจ้าได้ทรงรับไว้และเปลี่ยนแปลงมัน มนุษยชาติก็ได้เดินทางแสวงบุญอยู่ในปัจจุบันนี้เพื่อมุ่งไปยังบ้านของพระบิดา ประวัติศาสตร์ของมนุษยชาตินี้ได้มอบเครื่องหมายของโลกใหม่ที่จะมาถึง  โดยการรับเอามนุษยชาติทั้งหมดและทำให้บริสุทธิ์ไปนี้เองก็จะทำให้ประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติสมบูรณ์ “ดังนั้นการประกาศพระวรสารก็จะรวมการประกาศคำทำนายถึงชีวิตหน้าอันเป็นกระแสเรียกสูงสุดและนิรันดรของมนุษย์ กระแสเรียกนี้เชื่อมโยงกับสภาพในปัจจุบันของมนุษย์และแตกต่างจากสภาพในปัจจุบันอย่างชัดเจน (EN 28)