แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

คำพยากรณ์ถึงเจ็ดสิบสัปดาห์ในอนาคต


คำอธิษฐานภาวนาของดาเนียล
9    1ปีที่หนึ่งในรัชกาลกษัตริย์ดาริอัส โอรสของกษัตริย์อาหสุเอรัส เชื้อพระวงศ์ชาวมีเดีย ทรงครองราชย์เหนืออาณาจักรของชาวเคลเดียa 2เมื่อทรงครองราชย์เป็นปีแรก ข้าพเจ้า ดาเนียล อ่านพระคัมภีร์ พยายามเข้าใจจำนวนปีที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสไว้แก่ประกาศกเยเรมีย์ว่า กรุงเยรูซาเล็มจะเป็นสิ่งปรักหักพังอยู่นานเจ็ดสิบปี 3ข้าพเจ้าจึงหันหน้าไปหาพระเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่ออธิษฐานและวอนขอพระองค์ด้วยการจำศีลอดอาหาร สวมผ้ากระสอบและโปรยเถ้าบนศีรษะ  4ข้าพเจ้าได้อธิษฐานภาวนาต่อพระยาห์เวห์ พระเจ้าของข้าพเจ้าและสารภาพbว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่และน่าสะพรึงกลัว พระองค์ทรงรักษาพันธสัญญาและความรักมั่นคงต่อผู้ที่รักพระองค์และปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์ 5ข้าพเจ้าทั้งหลายได้ทำบาป ทำผิด ประพฤติชั่วร้าย เป็นกบฏ หันเหไปจากบทบัญญัติและกฎเกณฑ์ของพระองค์ 6ข้าพเจ้าทั้งหลายมิได้เชื่อฟังบรรดาประกาศก ผู้รับใช้ของพระองค์ซึ่งพูดในพระนามของพระองค์ต่อบรรดากษัตริย์ บรรดาเจ้านาย บรรดาบรรพบุรุษของข้าพเจ้าทั้งหลาย และต่อประชากรทั้งมวลของแผ่นดิน 7ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ความเที่ยงธรรมเป็นของพระองค์ ส่วนความอับอายเป็นของข้าพเจ้าทั้งหลาย ดังที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เป็นของชาวยูดาห์ ชาวกรุงเยรูซาเล็ม และชาวอิสราเอลทั้งมวล ทั้งเป็นของผู้ที่อยู่ใกล้และอยู่ไกล ผู้ที่อยู่ในแผ่นดินที่พระองค์ทรงบันดาลให้เขาไปอยู่อย่างกระจัดกระจาย เพราะความทรยศซึ่งเขาได้กระทำต่อพระองค์ 8ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ความอับอายเป็นของข้าพเจ้าทั้งหลาย เป็นของบรรดากษัตริย์ บรรดาเจ้านายและบรรดาบรรพบุรุษของข้าพเจ้าทั้งหลาย เพราะข้าพเจ้าทั้งหลายได้ทำบาปผิดต่อพระองค์ 9ส่วนพระกรุณาและการอภัยโทษเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย ที่ได้กบฏต่อพระองค์ 10มิได้เชื่อฟังพระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติที่พระองค์ประทานให้โดยบรรดาประกาศกผู้รับใช้ของพระองค์ 11ชาวอิสราเอลทุกคนได้ละเมิดธรรมบัญญัติของพระองค์ และได้หันเหไปเพื่อไม่ต้องฟังพระสุรเสียงของพระองค์ การสาปแช่งที่บันทึกไว้เป็นคำสาบานในธรรมบัญญัติของโมเสส ผู้รับใช้ของพระเจ้า จึงตกอยู่เหนือข้าพเจ้าทั้งหลาย เพราะได้ทำบาปผิดต่อพระองค์ 12พระองค์ทรงกระทำตามพระวาจาที่ได้ตรัสกล่าวโทษข้าพเจ้าทั้งหลาย และบรรดาผู้ปกครองcโดยทรงนำภัยพิบัติ ให้ลงมาเหนือข้าพเจ้าทั้งหลายที่กรุงเยรูซาเล็ม เป็นภัยพิบัติใหญ่หลวงที่ไม่เคยเกิดขึ้นใต้ท้องฟ้านี้เลย 13ภัยพิบัติทั้งหมดนี้เกิดขึ้นแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายดังที่เขียนไว้ในธรรมบัญญัติของโมเสส แต่ข้าพเจ้าทั้งหลายมิได้ทูลวอนขอพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย ไม่ได้กลับใจละทิ้งความชั่วร้าย และมิได้ปฏิบัติตามความจริงของพระองค์ 14พระยาห์เวห์ทรงเก็บdภัยพิบัติไว้ และทรงส่งลงมาเหนือข้าพเจ้าทั้งหลาย เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลายทรงเที่ยงธรรมในพระราชกิจทั้งหลายที่ทรงกระทำ แต่ข้าพเจ้าทั้งหลายก็มิได้เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์ 15บัดนี้ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย พระองค์ได้ทรงนำประชากรของพระองค์ออกจากแผ่นดินอียิปต์ด้วยพระหัตถ์ทรงฤทธิ์ และทรงสร้างชื่อเสียงที่ยังคงอยู่จนทุกวันนี้ แต่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้ทำบาป ประพฤติชั่วร้าย 16ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอให้พระพิโรธและความกริ้วของพระองค์พ้นไปจากกรุงเยรูซาเล็มนครของพระองค์ และพ้นจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ เพราะเห็นแก่พระราชกิจเที่ยงธรรมeทั้งมวลของพระองค์ กรุงเยรูซาเล็มและประชากรของพระองค์กลายเป็นที่เยาะเย้ยของทุกชนชาติที่อยู่โดยรอบ เพราะข้าพเจ้าทั้งหลายได้ทำบาป และบรรพบุรุษของข้าพเจ้าได้ล่วงละเมิดต่อพระองค์ 17บัดนี้ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย โปรดทรงฟังคำอธิษฐานภาวนาและคำวอนขอของผู้รับใช้ของพระองค์f ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะเห็นแก่พระองค์g พระพักตร์ของพระองค์โปรดทอแสงเหนือสถานศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ซึ่งถูกทำลาย 18ข้าแต่พระเจ้าของข้าพเจ้า โปรดเอียงพระกรรณและทรงฟัง โปรดทรงเปิดพระเนตรดูสิ่งปรักหักพังของข้าพเจ้าทั้งหลาย รวมทั้งนครซึ่งได้ยกถวายแด่พระนามของพระองค์ ข้าพเจ้าทั้งหลายนำคำวอนขอมาถวายเฉพาะพระพักตร์ มิใช่เพราะความชอบธรรมของข้าพเจ้าทั้งหลาย แต่เพราะพระกรุณายิ่งใหญ่ของพระองค์ 19ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดทรงฟัง ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดทรงให้อภัย ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดทรงใส่พระทัยและโปรดกระทำทันทีเพราะเห็นแก่พระองค์ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพเจ้า เพราะนครนี้และประชากรของพระองค์ได้ยกถวายแด่พระนามของพระองค์”

ทูตสวรรค์กาเบรียลอธิบายความหมายของคำพยากรณ์
    20ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังพูด กำลังอธิษฐานภาวนาและสารภาพบาปของข้าพเจ้า และบาปของอิสราเอลประชากรของข้าพเจ้า พร้อมกับนำคำวอนขอของข้าพเจ้ามาถวายเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ พระเจ้าของข้าพเจ้า เพื่อภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าของข้าพเจ้าอยู่นั้น 21ขณะที่กำลังพูดและอธิษฐานภาวนา กาเบรียลผู้ที่ข้าพเจ้าได้เห็นในนิมิตแต่ก่อนนั้น บินอย่างรวดเร็วมาพบข้าพเจ้าhในเวลาถวายเครื่องบูชาตอนเย็น 22เขามาiอธิบายเรื่องราวแก่ข้าพเจ้า พูดว่า “ดาเนียลเอ๋ย บัดนี้ ข้าพเจ้าออกมาช่วยท่านให้มีความรู้และความเข้าใจ 23เมื่อท่านเริ่มวอนขอ พระเจ้าก็ตรัสพระวาจาหนึ่งที่ข้าพเจ้านำมาแจ้งให้ท่านรู้ เพราะท่านเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงรักมากj เพราะฉะนั้นจงตั้งใจฟังคำนั้นและเข้าใจนิมิตเถิดk
    24”วาระเจ็ดปีเจ็ดสิบวาระเป็นเวลาที่ทรงกำหนดไว้l
สำหรับประชากรของท่านและสำหรับนครศักดิ์สิทธิ์ของท่าน
เพื่อให้การละเมิดจบสิ้น
เพื่อเลิกการทำบาป ชดเชยความชั่วร้าย
นำความชอบธรรมนิรันดรเข้ามา
เพื่อประทับตรารับรองmนิมิตและคำพยากรณ์
และเพื่อเจิมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดn
25จงรู้และเข้าใจเถิดว่า
นับตั้งแต่มีพระดำรัส
ให้ชาวยิวกลับจากเนรเทศและสร้างกรุงเยรูซาเล็มขึ้นใหม่
จนถึงเวลาของผู้นำที่รับเจิมo
จะต้องผ่านวาระเจ็ดปีเจ็ดวาระและหกสิบสองวาระ
เมืองนี้จะสร้างขึ้นใหม่โดยมีลานสาธารณะและคูเมืองp
    แต่ยังเป็นช่วงเวลาที่ลำบาก
    26เมื่อวาระเจ็ดปีหกสิบสองวาระครบแล้ว
    ผู้รับเจิมท่านหนึ่งqจะถูกประหารโดยไม่มีความผิดr
    แล้วผู้นำคนหนึ่งกับกองทัพจะมาทำลายเมืองและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
    จุดจบของผู้นำนี้จะเป็นเสมือนน้ำท่วม
    จะมีสงครามและการทำลายจนถึงวาระสุดท้าย
    ดังที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้s    
    27ในวาระเจ็ดปีสุดท้ายนี้
ผู้นำท่านนั้นจะทำพันธสัญญามั่นคงกับคนจำนวนมากt
จะสั่งให้เลิกการถวายบูชาและของถวายอื่นๆu
เป็นเวลาครึ่งวาระเจ็ดปี
ทางด้านหนึ่งของพระวิหารv
เขาจะตั้งรูปผู้ทำลายที่น่ารังเกียจw
จนถึงวาระสุดท้าย เมื่อหายนะที่ถูกกำหนดไว้จะลงมาเหนือผู้ทำลายนี้”