แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

วันเสาร์ สัปดาห์ที่ 30 เทศกาลธรรมดา

พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกา (ลก 14:1, 7-11)                                          

วันสับบาโตวันหนึ่ง พระเยซูเจ้าเสด็จไปเสวยพระกระยาหารที่บ้านของหัวหน้าชาวฟาริสีผู้หนึ่ง ผู้ที่อยู่ที่นั่นต่างจ้องมองพระองค์ พระเยซูเจ้าทรงสังเกตเห็นผู้รับเชิญต่างเลือกที่นั่งที่มีเกียรติ จึงตรัสเป็นอุปมากับเขาว่า “เมื่อมีใครเชิญท่านไปในงานมงคลสมรส อย่าไปนั่งในที่ที่มีเกียรติ เพราะถ้ามีคนสำคัญกว่าท่านได้รับเชิญมาด้วย เจ้าภาพที่เชิญท่านและเชิญเขาจะมาบอกท่านว่า ‘จงให้ที่นั่งแก่ผู้นี้เถิด’ แล้วท่านจะต้องอับอายไปนั่งที่สุดท้าย แต่เมื่อท่านได้รับเชิญ จงไปนั่งในที่สุดท้ายเถิด เพื่อเจ้าภาพที่เชิญท่านจะมาบอกท่านว่า ‘เพื่อนเอ๋ย จงไปนั่งในที่ที่ดีกว่านี้เถิด’ แล้วท่านจะได้รับเกียรติต่อหน้าผู้ร่วมโต๊ะทั้งหลาย เพราะทุกคนที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง แต่ทุกคนที่ถ่อมตนลงจะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น”


ลก 14:7-14  พระคริสตเจ้าทรงสอนบทเรียนเกี่ยวกับความสุภาพถ่อมตนและความใจกว้างในด้านกิจเมตตาให้แก่ผู้ฟังพระองค์ โดยทรงเน้นไม่ให้แสวงหาทั้งชื่อเสียงเกียรติยศหรือรางวัลตอบแทน

CCC ข้อ 2559 “การอธิษฐานภาวนาเป็นการยกความคิดจิตใจขึ้นหาพระเจ้าหรือเป็นการวอนขอ พระเจ้าประทานให้เราตามพระทัยพระองค์” เพื่ออธิษฐานภาวนาเราพูดจากอะไร? จากความยิ่งใหญ่ของเราและจากความปรารถนาอันสูงส่งของเรา หรือ “จากเหวลึก” (สดด 130:1) ของจิตใจต่ำต้อยและเป็นทุกข์? ผู้ที่ถ่อมตนลงย่อมได้รับการยกย่อง ความสุภาพถ่อมตนเป็นรากฐานของการอธิษฐานภาวนา “เราไม่รู้ว่าจะต้องอธิษฐานภาวนาขอสิ่งใดที่เหมาะสม” (รม 8:26) ความสุภาพถ่อมตนเป็นการเตรียมตนเพื่อรับสิ่งที่เราวอนขอมาโดยไม่ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยน มนุษย์เป็นเหมือนขอทานเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า

 

(จากหนังสือ THE DIDACHE BIBLE with commentaries based on the Catechism of the Catholic Church, Ignatius Bible Edition)