แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

วันพุธ สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต

พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมัทธิว (มธ 5:17-20)  

เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “จงอย่าคิดว่าเรามาเพื่อลบล้างธรรมบัญญัติหรือคำสอนของบรรดาประกาศก เรามิได้มาเพื่อลบล้าง แต่มาเพื่อปรับปรุงให้สมบูรณ์ เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ตราบใดที่ฟ้าและดินยังไม่สูญสิ้นไป แม้แต่ตัวอักษรหรือจุดเพียงจุดเดียวจะไม่ขาดหายไปจากธรรมบัญญัติจนกว่าทุกอย่างจะสำเร็จไป ดังนั้น ผู้ใดละเมิดธรรมบัญญัติเพียงข้อเดียว แม้เล็กน้อยที่สุดและสอนผู้อื่นให้ละเมิดด้วย จะได้ชื่อว่าเป็นผู้ต่ำต้อยที่สุดในอาณาจักรสวรรค์ ส่วนผู้ที่ปฏิบัติและสอนผู้อื่นให้ปฏิบัติด้วย จะได้ชื่อว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในอาณาจักรสวรรค์”


มธ 5:17-19 อย่าคิดว่าเรามาเพื่อลบล้าง...แต่มาเพื่อปรับปรุงให้สมบูรณ์ : พระคริสตเจ้าไม่ได้มาเพื่อลบล้างธรรมบัญญัติ แต่มาเพื่อปรับปรุงและทำให้สมบูรณ์ขึ้น พระองค์ทรงทำให้ธรรมบัญญัติสมบูรณ์โดยการทำให้ทุกการกระทำเปี่ยมด้วยพระหรรษทานด้วยความรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ท่านได้ยินคำกล่าวที่ว่า...แต่เราบอกท่านว่า : พระคริสตเจ้าทรงย้ำถ้อยคำนี้หรือด้วยวาจาที่คล้ายกันนี้ เพื่ออธิบายถึงความจำเป็นทั้งมวลของธรรมบัญญัติ

CCC ข้อ 577 เมื่อทรงเริ่มการเทศน์บนภูเขา พระเยซูเจ้าทรงประกาศเตือนอย่างสง่าผ่าเผยอธิบายธรรมบัญญัติที่พระเจ้าประทานให้ในการทำพันธสัญญาครั้งแรกบนภูเขาซีนาย โดยทรงคำนึงถึงพระหรรษทานของพันธสัญญาใหม่ดังนี้ว่า “จงอย่าคิดว่าเรามาเพื่อลบล้างธรรมบัญญัติหรือคำสอนของบรรดาประกาศก เรามิได้มาเพื่อลบล้างแต่มาเพื่อปรับปรุงให้สมบูรณ์ เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ตราบใดที่ฟ้าและดินยังไม่สูญสิ้นไป แม้แต่ตัวอักษรหรือจุดเพียงจุดเดียวจะไม่ขาดหายไปจากธรรมบัญญัติ จนกว่าทุกอย่างจะสำเร็จไป ดังนั้น ผู้ใดละเมิดธรรมบัญญัติเพียงข้อเดียว แม้เล็กน้อยที่สุดและสอนผู้อื่นให้ละเมิดด้วย จะได้ชื่อว่าเป็นผู้ต่ำต้อยในอาณาจักรสวรรค์ ส่วนผู้ที่ปฏิบัติและสอนผู้อื่นให้ปฏิบัติด้วย จะได้ชื่อว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในอาณาจักรสวรรค์” (มธ 5:17-19)

CCC ข้อ 592 พระเยซูเจ้ามิได้ทรงลบล้างธรรมบัญญัติที่พระเจ้าประทานแก่อิสราเอลบนภูเขาซีนาย แต่ทรงปรับปรุงให้สมบูรณ์ ทรงปฏิบัติตามธรรมบัญญัติอย่างครบถ้วน เพื่อทรงเปิดเผยความหมายสุดท้าย และเพื่อทรงไถ่กู้การล่วงละเมิดธรรมบัญญัตินี้

CCC ข้อ 1967 กฎแห่งพระวรสารปรับปรุงให้ธรรมบัญญัติดั้งเดิมสมบูรณ์ขึ้น ขัดเกลา ก้าวข้ามและทำให้สมบูรณ์ ในบทเทศน์เรื่องความสุขแท้จริง กฎแห่งพระวรสารทำให้พระสัญญาสำเร็จไปโดยยกย่องและจัดไว้ให้มุ่งหา “พระอาณาจักรสวรรค์” กฎนี้มุ่งหาผู้ที่เตรียมพร้อมด้วยความเชื่อเพื่อจะไปรับความหวังใหม่นี้ เช่นผู้ยากจน สุภาพถ่อมตน เป็นทุกข์โศกเศร้า มีใจบริสุทธิ์ ถูกเบียดเบียน   เพราะพระคริสตเจ้า และดังนี้จึงขีดเส้นทางไปสู่พระอาณาจักรอย่างที่ไม่มีใครคาด

CCC ข้อ 1968 กฎแห่งพระวรสารทำให้ธรรมบัญญัติสมบูรณ์ คำเทศน์สอนขององค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ลบล้างข้อกำหนดเกี่ยวกับความประพฤติของธรรมบัญญัติดั้งเดิม และไม่ได้ทำให้ข้อกำหนดเหล่านี้ลดค่าลงเลย แต่ทำให้พลังที่ซ่อนเร้นอยู่ของข้อกำหนดเหล่านี้ปรากฏชัดเจนขึ้นและทำให้เกิดข้อเรียกร้องใหม่ๆ จากข้อกำหนดเหล่านี้ เปิดเผยความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับพระเจ้าและมนุษย์ของข้อกำหนดเหล่านี้ กฎแห่งพระวรสารไม่เพิ่มข้อกำหนดใหม่ภายนอก และก้าวหน้าเข้าไปปรับปรุงจิตใจซึ่งเป็นรากของการกระทำต่างๆ  เมื่อมนุษย์ไม่ยอมรับสิ่งที่มีมลทิน เลือกสิ่งบริสุทธิ์ ที่ก่อให้เกิดความเชื่อ ความหวังและความรัก และคุณธรรมประการอื่นๆ พร้อมกับคุณธรรมเหล่านี้ด้วย  พระวรสารจึงนำธรรมบัญญัติให้บรรลุถึงความบริบูรณ์โดยเอาอย่างความดีบริบูรณ์ของพระบิดาเจ้าสวรรค์โดยยกโทษให้ศัตรูและอธิษฐานภาวนาให้ผู้ที่เบียดเบียน ตามแบบฉบับพระทัยกว้างของพระเจ้า

CCC ข้อ 2053 พระองค์ยังทรงเสริมคำตอบแรกนี้อีกว่า “ถ้าท่านอยากเป็นคนดีอย่างสมบูรณ์ จงไปขายทุกสิ่งที่มีมอบเงินให้คนยากจน และท่านจะมีขุมทรัพย์ในสวรรค์ แล้วจงติดตามเรามาเถิด” (มธ 19:21)บัญญัติข้อนี้ไม่ลบล้างข้อแรก การติดตามพระคริสตเจ้ารวมบทบัญญัติทุกข้อ ธรรมบัญญัติไม่ถูกลบล้าง แต่เชิญชวนมนุษย์ให้พบธรรมบัญญัติในพระบุคคลของพระอาจารย์ซึ่งเป็นผู้ปรับปรุงธรรมบัญญัติให้สมบูรณ์ ในพระวรสารสหทรรศน์ทั้งสามฉบับ พระวาจาที่พระเยซูเจ้าทรงเรียกเศรษฐีหนุ่มให้เป็นศิษย์ติดตามพระองค์ด้วยความเชื่อฟังและปฏิบัติตามบทบัญญัติยังทรงเสริมการเรียกให้ปฏิบัติความยากจนและความบริสุทธิ์2 คำแนะนำของพระวรสารแยกไม่ออกจากบทบัญญัติ


มธ 5:20 ทั้งบรรดาธรรมจารย์และชาวฟาริสีต่างก็รักษาบทบัญญัติแบบตามตัวอักษร แต่ไม่ได้รักษาจิตตารมณ์ของบทบัญญัตินั้น ซึ่งทั้งสองอย่างล้วนมีความจำเป็นสำหรับการรอดพ้น 

CCC ข้อ 2054 พระเยซูเจ้าทรงยอมรับพระบัญญัติสิบประการมาเทศน์สอนอีก แต่ทรงย้ำถึงพลังของพระจิตเจ้าที่ทำงานในตัวบทของบัญญัติเหล่านี้ด้วย พระองค์ทรงประกาศสอนเรื่องความชอบธรรมที่ดีกว่าความชอบธรรมของบรรดาธรรมาจารย์และชาวฟาริสี รวมทั้งของคนต่างศาสนาด้วย พระองค์ทรงอธิบายข้อเรียกร้องต่างๆ ของธรรมบัญญัติเหล่านี้ทุกข้อ “ท่านได้ยินคำกล่าวแก่คนโบราณว่า อย่าฆ่าคน […] แต่เรากล่าวแก่ท่านว่า ทุกคนที่โกรธเคืองพี่น้องจะต้องขึ้นศาล” (มธ 5:21-22)

(จากหนังสือ THE DIDACHE BIBLE with commentaries based on the Catechism of the Catholic Church, Ignatius Bible Edition)