วันอังคาร สัปดาห์ที่ 3

พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกา (ลก 10:1-9)  

ต่อจากนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงแต่งตั้งศิษย์อีกเจ็ดสิบสองคน และทรงส่งเขาล่วงหน้าพระองค์เป็นคู่ๆ ไปทุกตำบลทุกเมืองที่พระองค์จะเสด็จ พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ข้าวที่จะเกี่ยวมีมาก แต่คนงานมีน้อย จงวอนขอเจ้าของนาให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวข้าวของพระองค์เถิด จงไปเถิด เราส่งท่านทั้งหลายไปดุจลูกแกะในฝูงสุนัขป่า อย่านำถุงเงิน ย่ามหรือรองเท้าไปด้วย อย่าเสียเวลาทักทายผู้ใดตามทาง เมื่อท่านเข้าบ้านใด จงกล่าวก่อนว่า “สันติสุขจงมีแก่บ้านนี้เถิด” ถ้ามีผู้สมควรจะรับสันติสุขอยู่ที่นั่น สันติสุขของท่านจะอยู่กับเขา มิฉะนั้น สันติสุขของท่านจะกลับมาอยู่กับท่านอีก จงพักอาศัยในบ้านนั้น กินและดื่มของที่เขาจะนำมาให้ เพราะว่าคนงานสมควรที่จะได้รับค่าจ้างของตน อย่าเข้าบ้านนี้ออกบ้านโน้น เมื่อท่านเข้าไปในเมืองใดและเขาต้อนรับท่าน จงกินของที่เขาจะนำมาตั้งให้ จงรักษาผู้เจ็บป่วยในเมืองนั้นและบอกเขาว่า “พระอาณาจักรของพระเจ้าอยู่ใกล้ท่านทั้งหลายแล้ว”


ลก 10:1 เจ็ดสิบ : ตัวเลขจำนวนนี้บ่งบองถึงจำนวนผู้อาวุฒิโสจำนวนเจ็ดสิบคนที่โมเสสได้แต่งตั้ง และเจ็ดสิบชนชาติที่ถูกกล่าวถึงในหนังสือปฐมกาล ซึ่งเป็นเครื่องหมายว่าพระวรสารและข่าวสารแห่งการไถ่กู้นั้น จะได้รับการประกาศไม่เพียงแต่ในหมู่ชนชาติอิสราแอลเท่านั้น แต่รวมไปถึงทุกชนชาติด้วย

CCC ข้อ 765 พระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงจัดให้ชุมชนของพระองค์มีโครงสร้างซึ่งจะคงอยู่จนถึงความสำเร็จสมบูรณ์ของพระอาณาจักร โดยเฉพาะมีการเลือกสาวกสิบสองคนพร้อมกับเปโตรในฐานะผู้นำของเขา สาวกสิบสองคนเป็นตัวแทนของสิบสองเผ่าของอิสราเอล เป็นศิลารากฐานของนครเยรูซาเล็มใหม่ สาวกทั้งสิบสองคน และศิษย์อื่นๆ มีส่วนร่วมพันธกิจของพระคริสตเจ้า พระอานุภาพของพระองค์ และชะตากรรมของพระองค์ด้วย โดยกิจการเหล่านี้ทั้งหมด พระคริสตเจ้าทรงเตรียมและก่อสร้างพระศาสนจักรของพระองค์


ลก 10:2-6 ข้าวที่จะเกี่ยว... เก็บเกี่ยวข้าวของพระองค์เถิด: พระคริสตเจ้าทรงต้องการผู้ติดตามที่ยอมอุทิศชีวิตของตนเพื่อประกาศข่าวสารแห่งความชื่นชมยินดี การรักษา และการไถ่กู้ของพระองค์ ในขณะที่แต่ละคนถูกเรียกให้มีส่วนร่วมในพันธกิจแห่งการประกาศข่าวดีของพระศาสนจักรตามสถานะของชีวิตของตน พระเจ้าได้ทรงเรียกบางคนให้มารับใช้พระศาสนจักรของพระองค์โดยผ่านทางการเป็นพระสงฆ์หรือชีวิตนักบวช วิธีเดียวที่จำเป็นสำหรับรักษากระแสเรียกเพื่อพระอาณาจักรของพระเจ้าคือการสวดภาวนา  สันติสุขจงมีแก่บ้านนี้เถิด: สิ่งคล้ายศีลของพระศาสนจักรนั้นรวมไปถึงการอวยพรบุคคลและสิ่งของ เช่น บ้าน ยานพาหนะ รูปภาพศักดิ์สิทธิ์ เหรียญรูปพระ และสายประคำ

CCC ข้อ 1668 พระศาสนจักรจัดตั้งสิ่งคล้ายศีลเพื่อบันดาลความศักดิ์สิทธิ์แก่ศาสนบริการ แก่รูปแบบชีวิต และสภาพแวดล้อมของชีวิตคริสตชนต่างๆ หลากหลายมาก รวมทั้งแก่ของใช้ต่างๆ ที่เป็นประโยชน์แก่มนุษย์ด้วย ตามข้อกำหนดด้านงานอภิบาลของบรรดาพระสังฆราช สิ่งคล้ายศีลเหล่านี้ยังอาจตอบสนองความต้องการ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของประชากรคริสตชนเฉพาะของท้องที่และช่วงเวลาที่เกี่ยวข้อง สิ่งคล้ายศีลย่อมประกอบเสมอด้วยบทภาวนาซึ่งบ่อยๆ ควบคู่กับเครื่องหมายชัดเจน เช่น การปกมือ เครื่องหมายกางเขน การพรมน้ำเสก (ซึ่งชวนให้ระลึกถึงศีลล้างบาป)

CCC ข้อ 2611 การอธิษฐานภาวนาด้วยความเชื่อไม่ได้ประกอบด้วยเพียงการกล่าวว่า “พระเจ้าข้า พระเจ้าข้า” แต่อยู่ในใจที่พร้อมที่จะปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระบิดา พระเยซูเจ้าทรงเชื้อเชิญบรรดาศิษย์ให้สนใจร่วมแผนงานกับพระเจ้าในการอธิษฐานภาวนาด้วย


ลก 10:7 คนงานสมควรที่จะได้รับค่าจ้างของตน: กฎข้อที่ 5 ของพระศาสนจักรสอนว่าบรรดาสัตบุรุษยังมีหน้าที่ต้องช่วยเหลือสนับสนุนศาสนบริกรของตนในความจำเป็นด้านวัตถุด้วย

CCC ข้อ 2043 บทบัญญัติประการที่สี่ (“จงอดอาหารและอดเนื้อในวันที่กำหนด”) กำหนดเวลาการสละตนเองและปฏิบัติกิจชดเชยบาปช่วยเราให้เตรียมวันฉลองทางพิธีกรรมและฝึกฝนให้รู้จักควบคุมตนเองและมีอิสระทางจิตใจ

            บทบัญญัติประการที่ห้า (“จงบำรุงพระศาสนจักรตามความสามารถ”) ประกาศว่าบรรดาผู้มีความเชื่อแต่ละคนยังมีหน้าที่ต้องช่วยเหลือความจำเป็นด้านวัตถุของพระศาสนจักรตามความสามารถของตน

 

(จากหนังสือ THE DIDACHE BIBLE with commentaries based on the Catechism of the Catholic Church, Ignatius Bible Edition)