แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

ข้อคิดข้อรำพึง

อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลธรรมดา ปี B

3 Sunday 4

“เวลาที่กำหนดไว้มาถึงแล้ว พระอาณาจักรของพระเจ้าอยู่ใกล้แล้ว 

จงกลับใจ และเชื่อข่าวดีเถิด”

 

 นี่เป็นพระภารกิจแรกๆ ที่พระเยซูเจ้าทรงเริ่มกระทำตามพระวรสารของนักบุญมาระโก คือพระองค์เสด็จไปแคว้นกาลิลี ทรงประกาศข่าวดีของพระเจ้า ทรงประกาศว่าพระอาณาจักรของพระเจ้าอยู่ใกล้แล้ว จงกลับใจ และเชื่อข่าวดีเถิด

 

 การกลับใจเป็นสิ่งที่มีความสำคัญยิ่งในทัศนะของพระเยซูเจ้า การเรียกร้องให้มีการกลับใจมีมาโดยตลอดในกระแสประวัติศาสตร์แห่งความรอด บรรดาประกาศกในสมัยพันธสัญญาเดิมล้วนเรียกร้องให้ประชาชนชาวอิสราเอลกลับใจ เปลี่ยนวิถีทางดำเนินชีวิต หันกลับมาหาพระเจ้า เคารพเชื่อฟังในพระองค์และกฎเกณฑ์ของพระองค์ พระเจ้าทรงมีพระทัยดีและพร้อมจะทรงอภัยโทษให้สำหรับผู้ที่แสดงออกถึงการกลับใจอย่างแท้จริง

 พระวาจาของพระเจ้าสำหรับอาทิตย์นี้ยกตัวอย่างเรื่องของประกาศกโยนาห์ เพื่อสอนเรื่องนี้แก่เรา โดยส่วนตัวแล้วชอบเรื่องของโยนาห์มาก อ่านแล้วมีความประทับใจมาก อ่านแล้วเข้าใจได้ง่าย และแทบจะจำเรื่องราวได้เป็นฉากๆ เกือบทั้งหมด เมื่อไรที่ได้ยินอีกครั้ง ก็ยังประทับใจอยู่เหมือนเดิม เรื่องราวของโยนาห์ถือว่าเป็นเรื่องที่ชวนให้ฉงนสนเท่ห์ใจมากที่สุดเรื่องหนึ่งในพระคัมภีร์เลยทีเดียว โยนาห์เป็นประกาศกที่เอาแต่วิ่งหนี (the runaway prophet) ประกาศกคนอื่นๆ ถูกพระเจ้าทรงเรียกหรือทรงสั่งให้ทำอะไร จะตอบ “ข้าพระองค์อยู่นี่ ข้าพระองค์พร้อม ที่จะทำตามพระประสงค์” แต่สำหรับโยนาห์หาเป็นเช่นนั้นไม่ เมื่อได้รับคำสั่งจากพระเจ้า โยนาห์วิ่งหนีเลย น่าจะสันนิษฐานว่าคงเป็นคนที่วิ่งเก่ง วิ่งเร็ว ถ้าวิ่งแข่ง 100 เมตรกับบรรดาประกาศกทั้งหลาย โยนาห์ชนะขาดไปเลย คนอื่นๆ ไม่เห็นแม้แต่ฝุ่นด้วยซ้ำ ทั้งนี้ก็เพราะโยนาห์ชอบวิ่งไปทางด้านตรงข้าม พระเจ้าสั่งให้ไปข้างหน้า โยนาห์วิ่งไปข้างหลัง พระเจ้าทรงสั่งให้ไปที่เมืองนีนะเวห์นครใหญ่ และให้ทำตามที่พระองค์ตรัสสั่ง เขาตีตั๋วเดินทางโดยเรือทันที แต่ไปในทิศตรงกันข้าม โยนาห์รู้ดีว่าการให้ไปประกาศว่าเมืองนี้จะถูกทำลายภายใน 40 วันนั้น จะเป็นการพูดไปโดยเสียเปล่า เมืองนี้คงไม่ถูกลงโทษ เพราะพระเจ้าทรงมีพระเมตตามาก ดังนั้น จัดกระเป๋าไปเที่ยวดีกว่า  ไปเมืองเล็กๆ ที่อยู่ทิศตรงข้ามกับเมืองที่ทรงสั่งไว้นั่นแหละดี ถ้าภารกิจนี้เป็นงานชิ้นแรกที่พระเจ้าทรงมอบให้โยนาห์ทำ ก็เป็นการปฏิเสธครั้งแรกของเขาเหมือนกัน 

 

ดู ดู๋ ดู ดูโยนาห์ทำ ทำไมถึงทำอย่างนี้ได้

3 Sunday 1

ถ้าจะคิดว่าโยนาห์แสบจริงๆ ทำไมถึงกล้าทำเช่นนี้ได้ ก็ขอให้เราแต่ละคนย้อนกลับมาดูตัวเรา ความคิดกบฏของเราและการกระทำที่ตรงกันข้ามกับคำสั่งสอนของพระ ก็คงไม่น้อยไปกว่าของโยนาห์ อย่างไรก็ดี ที่สุดโยนาห์ก็หนีพระหัตถ์ของพระเจ้าไม่พ้น เรือที่โยนาห์นั่งไป ที่จริงโยนาห์ไม่ได้นั่งไปด้วย แอบไปนอนอุตุอยู่ที่ลึกที่สุดในเรือ แต่ถูกคลื่นลมพายุปั่นป่วนที่สุด เขาถูกจับโยนลงทะเล โดยเขาแนะนำให้กลาสีและลูกเรือทำเช่นนั้นเอง เพราะรู้ว่าตนเองเป็นสาเหตุ แต่มีปลาใหญ่มากลืนโยนาห์เข้าไป แล้วไปสำรอกออกมาที่ชายหาดเมืองนีนะเวห์ โยนาห์เหมือนคนที่ตายไปแล้ว กลับมามีชีวิตใหม่ เขาจึงทำตามที่พระเจ้าทรงสั่ง ประกาศต่อชาวเมืองว่าจะถูกทำลาย ชาวเมืองพากันกลับใจ ตั้งแต่ผู้ที่เป็นใหญ่ที่สุด จนถึงผู้น้อยที่สุด พระเจ้าจึงทรงกลับพระทัยด้วยเช่นกัน ไม่ทรงลงโทษชาวเมืองนีนะเวห์ตามที่ทรงตั้งใจไว้

 

มีเกร็ดเรื่องเล่าที่เกี่ยวกับเรื่องของโยนาห์ โดยนำมาจากหนังสือ Sunday Seeds for Daily Deeds ของ Francis Gonsalves, S.J. ดังนี้ : คุณครูผู้หญิงคนหนึ่งสอนนักเรียนชั้นประถมปีที่สองว่า การที่ปลาวาฬจะกลืนคนเข้าไปนั้น ไม่มีทางเป็นไปได้เลย เพราะแม้ปลาวาฬจะเป็นสัตว์ที่ตัวใหญ่ แต่มันมีคอหอยที่เล็ก  เด็กหญิงคนหนึ่งยกมือประท้วง พูดว่า “แต่ปลาวาฬก็ได้กลืนโยนาห์เข้าไปนะคะ” คุณครูตอบว่า “นั่นเป็นแค่เรื่องเทพนิยาย” เด็กหญิงไม่เห็นด้วยกับจุดยืนของครูสาว จึงพูดต่อว่า “เมื่อหนูได้ไปสวรรค์ หนูจะถามโยนาห์”  คุณครูยิ้ม ถามกลับว่า “แล้วถ้าโยนาห์อยู่ในนรกล่ะ จะว่าอย่างไร” เด็กหญิงตอบทันทีว่า “ถ้าเป็นเช่นนั้น คุณครูก็ถามเขาก็แล้วกัน”

 

นี่แสดงให้เห็นว่า บางทีการตีความในพระคัมภีร์ก็เป็นเรื่องยากเหมือนกัน บางทีเราตีความแค่ตามตัวอักษร  ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอ  ถ้าเด็กหญิงนั้นใสซื่อที่จะเข้าใจว่าเรื่องของโยนาห์เป็นเรื่องจริงทางประวัติศาสตร์  คุณครูสาวของเธอก็มีความเขลาพอกันที่จะปิดกั้นเรื่องนี้ว่าเป็นแค่”เทพนิยาย”  เพราะการเล่าเรื่องในหนังสือโยนาห์  เป็นเรื่องที่แต่งไว้เพื่อใช้สอน (didactic  fiction)  โดยมีความจริงลึกๆที่ซ่อนอยู่ในเรื่องนี้คือ  (1)  พระเจ้าทรงต้องการให้ทุกคนได้รับความรอด  (2)  พระเจ้าทรงใช้ประกาศกไปเทศน์สอนเรื่องความรอดพ้นและการกลับใจ  และ  (3)  ประชาชนมีอิสระที่จะรับ หรือ ปฏิเสธ ข้อเสนอของพระองค์ในเรื่องของความรอดพ้น

 

เมื่อไปค้นหาคำอธิบายเรื่องหนังสือโยนาห์จากพระคัมภีร์คาทอลิกฉบับสมบูรณ์  มีข้อความน่าสนใจดังนี้  “หนังสือสั้นๆฉบับนี้มีลักษณะแตกต่างจากหนังสือประกาศกฉบับอื่นๆทุกฉบับ  คือเป็นเรื่องเล่าทั้งหมด  เล่าเรื่องประกาศกคนหนึ่งที่ไม่เชื่อฟัง.......หนังสือฉบับนี้เขียนขึ้นเป็นเรื่องตลกเพื่อสอนใจ  เป็นเทพนิยายเพื่อใช้สอน....จุดยอดของคำสอนหนังสือเล่มนี้คือ  สอนว่า  แม้คำคาดโทษอย่างรุนแรงที่สุด  ก็ยังเป็นเครื่องหมายแสดงพระเมตตากรุณาของพระเจ้า  พระองค์ประทานอภัยทันทีที่คนบาปแสดงเครื่องหมายว่าได้เป็นทุกข์กลับใจแล้ว  (พระคัมภีร์คาทอลิกฉบับสมบูรณ์ หน้า 1423-ผู้เขียน)

 

บทสรุปจากเรื่องนี้คือ กลับใจ  กลับใจ  กลับใจ

 

( คุณพ่อ วิชา  หิรัญญการ เขียนลงสารวัดพระกุมารเยซู เมื่อวันที่ 25 มกราคม ค.ศ. 2009  และปรับปรุงใหม่เมื่อวันที่ 13  มกราคม ค.ศ. 2021

Based on : Seasons of the Word ; by : Denis McBride, C.SS.R.)

3 Sunday 23 Sunday 33 Sunday 53 Sunday 63 Sunday 7