แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

บทเทศน์บทรำพึง

วันสมโภชนักบุญทั้งหลาย

All Saints 1

 พระสงฆ์อาวุโสท่านหนึ่งนอนอยู่บนเตียงใกล้จะตายแล้ว ถูกห้อมล้อมด้วยบรรดาพระสงฆ์ผู้ช่วยของท่านซึ่งผลัดกันกล่าวถึงฤทธิ์กุศลและความดีของท่าน คนที่หนึ่งว่า "คุณพ่อเป็นคนเฉลียวฉลาดเหมือนกษัตริย์โซโลมอน" อีกคนว่า "ความเชื่อของท่านเข้มแข็งมาก" คนที่สามเสริมว่า "ท่านเป็นผู้นำที่มีความสามารถ" คนที่สี่อุทานว่า "ท่านเป็นนักพูดที่มีพลังมาก" เมื่อพวกเขาออกจากห้องไป พระสงฆ์อาวุโสมีใบหน้าเศร้าสร้อย คนจัดวัดซึ่งยังเฝ้าอยู่ถามว่า "คุณพ่อไม่สุขใจเหรอครับที่ทุกๆคนสรรเสริญพ่อ" พระสงฆ์กระซิบตอบว่า "ไม่หรอก ไม่มีใครพูดถึงความศักดิ์สิทธิ์ของฉันเลย" คนบางคนเป็นคนศักดิ์สิทธิ์ คนอื่นๆคิดว่าพวกเขาเป็นคนศักดิ์สิทธิ์ ยังมีคนอื่นๆอีกที่ชอบให้คนอื่นประกาศความศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา และ ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม๋ได้เรียกผู้ที่รับศีลล้างบาปเป็นคริสตชนทุกคนว่าเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์

 

 คนอาจจะถามว่า ทำไมพระศาสนจักรกำหนดวันที่ 1 พฤศจิกายน ให้เป็นวันระลึกถึง "ท่านเหล่านั้น" ตลอดทั้งปีมีวันฉลองนักบุญต่างๆยังไม่พออีกหรือ จริงๆก็แล้วแต่จะคิด อย่างไรก็ตามยังมีบรรดานักบุญนิรนามอีกมากมาย ที่เป็นคริสตชนธรรมดาๆนี่แหละ แต่ได้ดำเนินชีวิตอย่างศักดิ์สิทธิ์แบบไม่ธรรมดา และพวกเขาไม่ได้รับการประกาศแต่งตั้งเป็นนักบุญอย่างเป็นทางการ  ทั้งๆที่มีคุณสมบัติครบถ้วนทุกอย่าง  วันฉลองนี้แต่เดิมถือกำเนิดมาจากวันฉลองของพวกมรณสักขีสมัยแรกๆ ซึ่งชื่อของพวกท่านไม่ได้มีบันทึกไว้ และดังนั้นก็ไม่สามารถรวมชื่อเข้าไว้ในวันที่ยอมตายเป็นมรณสักขี

 น่าสังเกตอย่างยิ่งว่า นักบุญส่วนใหญ่ในสวรรค์เป็นพวกที่แต่งงานแล้วในห้วงที่ดำรงชีพในโลกนี้ แต่นักบุญส่วนใหญ่ที่ได้รับการประกาศแต่งตั้งอย่างเป็นทางการกลับไม่ใช่เช่นนั้น ในขณะที่นักบุญได้รับการประกาศที่เรารู้จักมีจำนวนมากที่เป็นพระสงฆ์ นักบวช และซิสเตอร์  มากกว่านักบุญที่แต่งงานมีครอบครัว เราต้องตระหนักว่า ความศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริงไม่ได้อยู่ภายในกำแพงสี่ด้านของอารามฤาษีหรือของนักบวช แต่อยู่ท่ามกลางความวุ่นวายและอึกทึกของชีวิตประจำวัน

All Saints 2

 ในบทอ่านแรกเราต้องเข้าใจบริบทของการเบียดเบียนศาสนาที่พระศาสนจักรสมัยแรกๆกำลังเผชิญอยู่ หนังสือวิวรณ์ของนักบุญยอห์นเขียนราวปี ค.ศ. 96 ในนิมิตของท่านได้แสดงให้เห็นภาพบรรดาคริสตชนที่เป็นมรณสักขี และต้องการยืนยันกับพวกเขาว่าความโหดร้ายต่อกลุ่มคริสตชนนี้ (บางทีโดยการเบียดของจักพรรดิ์ Domitian) เป็นแค่บทโหมโรงก่อนจะสิ้นสุดไป  เมื่อพระเจ้าจะทรงแก้แค้นแทนบรรดามรณสักขี ดังนั้น ผู้เห็นภาพนิมิตอธิบายถึงสถานะแห่งชัยชนะซึ่งรอคอยพวกเขาอยู่ในภาษาสัญลักษณ์ เช่นคำว่า สวมเสื้อขาว ถือใบปาล์ม และส่งเสียงร้องเพลงแห่งชัยชนะ จำนวน 144,000 นั้นบ่อยๆมีการแปลความหมายผิดโดยทางจารีต เช่น กลุ่มสิทธิชนยุคสุดท้าย (The Johovah's Witness) ฯลฯ ที่หมายถึงผู้ที่รอดว่ามีจำนวนเพียงแค่นั้น - ซึ่งรวมถึงพวกเขาหล่านั้นด้วยเสมอ - ใช่แล้วครับ การตีความตามตัวอักษรเยี่ยงนี้เป็นอันตรายมากทีเดียว

 

 ในบทอ่านที่สองจากจดหมายนักบุญยอห์น ฉบับที่ 1 ซึ่งได้เขียนเพื่อประณามพวกที่สอนผิดๆ (heresies) ที่กำลังระบาดอยู่ทั่วพระศาสนจักรในช่วงปี ค.ศ. 100 เช่นพวก Gnostics ที่ปฏิเสธความเป็นมนุษย์แท้ของพระคริสตเจ้า และมีความเชื่อว่าเฉพาะพวกเขาเป็นเหมือนสายตรงติดต่อกับพระเจ้า ผลที่ตามมาคือ พวกเขาคุยโม้โอ้อวดเกี่ยวกับความรู้ที่เหนือชั้นของตน ( their superior gnosis [Greek, for knowledge] ) และคิดว่าไม่จำเป็นต้องดำเนินชีวิตอย่างมีศีลธรรม เพื่อต่อสู้กับความคิดที่ผิดเพี้ยนเช่นนี้ นักบุญเปาโลได้เทศน์สอนว่า แก่นแท้ของคุณธรรมทั้งหมดเป็นพระหรรษทานของพระเจ้า "จงคิดว่าความรักที่พระบิดาประทานให้กับเราอย่างมากมาย โดยให้เราได้ชื่อว่าบุตรของพระเจ้า" ดังนั้น จงจำไว้ว่าพระหรรษทานของพระเจ้านั้นต้องทำให้คริสตชน "ชำระตนเองให้เป็นผู้บริสุทธิ์ดังเช่นพระคริสตเจ้า"

 

 เรื่องบุญลาภ (เดี๋ยวนี้ใช้คำว่า  ความสุขแท้จริง)  ที่เราพบในพระวรสารเป็น "กฎบัตร" ซึ่งจะทำให้บรรดาคริสตชนกลายเป็นเหมือนพระคริสตเจ้าได้ แต่ละบุญลาภอธิบายถึงชีวิตของพระเยซูเจ้าเอง พระองค์ทรงเป็นทุกสิ่ง และทรงทำทุกสิ่งที่บุญลาภทั้งหลายได้ระบุไว้ และสิ่งนี้นำพระเยซูเจ้าไปสู่ไม้กางเขน และไกลเกินกว่านั้นไปสู่การกลับฟื้นคืนพระชนมชีพ วันสมโภชนักบุญทั้งหลายสอนเราว่าบรรดานักบุญคือผู้ที่เป็นเหมือนพระคริสตเจ้าอย่างมากดังที่อธิบายไว้ในภาคแรกของเรื่องบุญลาภ จึงทำให้บัดนี้พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งที่ทรงสัญญาไว้ในภาคที่สอง จริงๆแล้วพระอาณาจักรสวรรค์เป็นของพวกเขา บัดนี้พวกเขาได้รับการปลอบโยน พวกเขาได้รับ "แผ่นดิน" แห่งพระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นมรดก พวกเขาอิ่มด้วยความยินดีในงานเลี้ยงในพระอาณาจักรสวรรค์ พวกเขาได้รับพระเมตตา พวกเขาได้เห็นพระเจ้า และพวกเขาได้ชื่อว่าเป็นบุตรของพระเจ้า

 

 นักบุญเปาโลสั่งสอนให้เรากลับกลายเป็นแบบเดียวกับบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย นี่หมายถึงการเติบโตอย่างเต็มที่ในแบบที่พระเจ้าทรงต้องการจากเรา นักบุญที่แท้ต้องเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาไม่ได้คิดว่าตนศักดิ์สิทธิ์และไม่คาดหวังให้คนอื่นมาป่าวประกาศว่าพวกเขาศักดิ์สิทธิ์ ความศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาซ่อนอยู่ในหน่วยรวมทั้งหมดของความสัมพันธ์ที่พวกเขามีต่อพระเจ้า ต่อเพื่อนพี่น้อง และต่อสิ่งสร้างทั้งปวง พวกเราควรเดินตามรอยเท้าของท่านเหล่านั้นจนกว่าจะบรรลุถึงความเป็นนักบุญด้วย

 

(เขียนโดย  คุณพ่อวิชา  หิรัญญการ ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2017

Based on : Sunday Seeds for Daily Deeds โดย Francis Gonsalves, S.J.)

All Saints 3All Saints 4All Saints 5