แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

วันอังคารสัปดาห์ที่ 30 (ปีคู่)  

บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกา (ลก 13:18-21) 

เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสต่อไปว่า “พระอาณาจักรของพระเจ้าเหมือนกับสิ่งใด เราจะเปรียบพระอาณาจักรกับสิ่งใด พระอาณาจักรก็เหมือนกับเมล็ดมัสตาร์ดซึ่งชายคนหนึ่งทิ้งไว้ในสวนของตน มันเติบโตขึ้นและกลายเป็นต้นไม้ จนกระทั่งบรรดานกในอากาศมาทำรังอาศัยบนกิ่งได้”

      พระองค์ยังตรัสอีกว่า “เราจะเปรียบพระอาณาจักรของพระเจ้ากับสิ่งใด พระอาณาจักรก็เหมือนกับเชื้อแป้งที่หญิงคนหนึ่งนำมาเคล้าผสมกับแป้งสามถัง จนแป้งฟูขึ้นทั้งหมด”


ลก 13:18-21 ถึงแม้ว่าพระศาสนจักรจะได้เริ่มต้นจากจุดที่เล็กมากและมีประวัติศาสตร์ของการถูกเบียดเบียน แต่ก็ได้ถูกก่อตั้งโดยพระคริสตเจ้า ซึ่งทรงมีพันธกิจในการสร้างอาณาจักรของพระเจ้า พระศาสนจักรจึงจะดำรงอยู่ตลอดไปและจะไม่มีความยากลำบากใด ๆ ที่จะเอาชนะได้

คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก CCC ข้อ 849 พระบัญชาให้ทำงานธรรมทูต “พระเจ้าทรงส่งพระศาสนจักรตามความจำเป็นภายในเฉพาะของความเป็นสากลออกไปยังนานาชาติเพื่อให้เป็น ‘เครื่องหมายและเครื่องมือสากลที่บันดาลความรอดพ้น’ พระศาสนจักรจึงเชื่อฟังพระบัญชาของพระผู้ทรงสถาปนาของตน พยายามประกาศ พระวรสารแก่มนุษย์ทุกคน” “ดังนั้น ท่านทั้งหลายจงไปสั่งสอนนานาชาติให้มาเป็นศิษย์ของเรา ทำพิธีล้างบาปให้เขาเดชะพระนามพระบิดา พระบุตรและพระจิต จงสอนเขาให้ปฏิบัติตามคำสั่งทุกข้อที่เราให้แก่ท่าน แล้วจงรู้เถิดว่าเราอยู่กับท่านทุกวันตลอดไปตราบจนสิ้นพิภพ” (มธ 28:19-20)

CCC ข้อ 857 พระศาสนจักรสืบเนื่องมาจากบรรดาอัครสาวกเพราะมีบรรดาอัครสาวกเป็นประดุจรากฐานในสามความหมายดังต่อไปนี้

- พระศาสนจักรได้สร้างขึ้นและยังคงสร้างอยู่เป็นอาคาร “โดยมีบรรดาอัครสาวกเป็นรากฐาน” (อฟ 2:20) บรรดาอัครสาวกเหล่านี้เป็นพยานที่พระคริสตเจ้าทรงเลือกและส่งออกไป

- พระศาสนจักรโดยความช่วยเหลือของพระจิตเจ้าผู้ประทับอยู่ในพระศาสนจักร เก็บรักษาคำสอน ซึ่งเป็นดังขุมทรัพย์ที่ถูกฝากไว้ เป็นถ้อยคำนำความรอดพ้นที่ได้ยินมาจากบรรดาอัครสาวกและส่งต่อไป

- พระศาสนจักรได้รับคำสั่งสอน ความศักดิ์สิทธิ์ และยังคงรับการนำต่อมาจากบรรดาอัครสาวกจนถึงการเสด็จกลับมาของพระคริสตเจ้าอาศัยความช่วยเหลือของผู้ที่รับหน้าที่อภิบาลต่อจากท่าน อาศัยความช่วยเหลือของคณะพระสังฆราช “ซึ่งมีบรรดาพระสงฆ์คอยช่วยเหลือ ร่วมกับผู้สืบตำแหน่งต่อจากนักบุญเปโตร ผู้อภิบาลสูงสุดของพระศาสนจักร”

“พระองค์คือพระผู้อภิบาลสถิตนิรันดร มิได้ทรงทอดทิ้งประชากรซึ่งเป็นเสมือนฝูงแกะของพระองค์ แต่ทรงแต่งตั้งบรรดาอัครสาวกให้ปกป้องรักษาไว้ตลอดมา ท่านเหล่านี้จึงปฏิบัติงานแทนองค์พระบุตร ปกครองดูแลปวงประชาของพระองค์สืบมาจนทุกวันนี้” 

CCC ข้อ 2660  การอธิษฐานภาวนาในเหตุการณ์ของแต่ละวันและแต่ละขณะเป็นหนึ่งในความลับของพระอาณาจักรที่ทรงเปิดเผยแก่ “ผู้ต่ำต้อย” แก่ผู้รับใช้ของพระคริสตเจ้า แก่ผู้ยากจนในคำเทศน์เรื่องความสุขแท้ เป็นการเหมาะสมและถูกต้องที่จะอธิษฐานภาวนาให้การมาถึงของอาณาจักรแห่งความยุติธรรมและสันติมีอิทธิพลในความก้าวหน้าของประวัติศาสตร์ แต่ก็ยังมีความสำคัญอย่างมากด้วยที่จะอธิษฐานภาวนาสำหรับความเป็นอยู่ประจำวันของกลุ่มชนผู้ต่ำต้อย การอธิษฐานภาวนาทุกรูปแบบจึงจะเป็นเสมือนเชื้อแป้งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงนำพระอาณาจักรมาเปรียบเทียบได้

(จากหนังสือ THE DIDACHE BIBLE with commentaries based on the Catechism of the Catholic Church, Ignatius Bible Edition)