แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

วันอังคารสัปดาห์ที่ 29 (ปีคู่)

พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกา (ลก 12:35-38)

 เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า“ท่านทั้งหลายจงคาดสะเอว และจุดตะเกียงเตรียมพร้อมไว้ จงเป็นเสมือนผู้รับใช้ที่กำลังคอยนายกลับจากงานมงคลสมรส เมื่อนายมาและเคาะประตูจะได้เปิดรับ ผู้รับใช้เหล่านั้นเป็นสุข ถ้านายกลับมาพบเขากำลังตื่นเฝ้าอยู่ เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า นายจะคาดสะเอวพาผู้รับใช้เหล่านั้นไปนั่งโต๊ะและจะรับใช้เขาด้วย ไม่ว่านายจะมาเวลาสองยามหรือสามยาม ถ้าพบผู้รับใช้กำลังทำเช่นนี้ ผู้รับใช้เหล่านั้นก็เป็นสุข”


 ลก 12:35-48 การคาดสะเอว เช่น การเหน็บชายเสื้อเข้ากับเข็มขัดเพื่อให้ผ้าไม่พันเท้าเวลาทำกิจกรรมต่างๆ และการจุดโคมไฟไว้ซึ่งเป็นเครื่องหมายของการเตรียมพร้อมและการเฝ้าระวัง พระคริสตเจ้าทรงเตือนผู้ติดตามของพระองค์ให้เฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลาเพราะไม่มีใครรู้ว่าวาระสุดท้ายของชีวิตจะมาถึงเมื่อใด แต่ละคนมีกระแสเรียกเฉพาะของตนที่ต้องทำให้สมบูรณ์ครบครันด้วยความขยันขันแข็งในชีวิตนี้ด้วยความรักและจิตวิญญาณแห่งการรับใช้ คนรับใช้ที่คิดว่าเจ้านายของตนจะยังไม่กลับบ้าน และไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่เจ้านายมอบหมายให้ เขาจะต้องถูกจัดการอย่างเข้มงวดเมื่อนายมาถึง ซึ่งหมายความว่าความล้มเหลวในการดำเนินชีวิตตามแนวพระวรสารจะทำให้สูญเสียโอกาสแห่งความสุขทั้งในชีวิตนี้และในชีวิตหน้า ส่วนผู้ที่เตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลาจะได้รับรางวัลอย่างมากมายเมื่อเจ้านายกลับมา

 คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก CCC ข้อ 2730 ถ้าพิจารณาด้านบวก การต่อสู้กับจิตใจของเราที่ต้องการควบคุมและเป็นเจ้าของของเราก็คือการคอยเฝ้าระวัง ความตั้งใจ เมื่อพระเยซูเจ้าทรงย้ำถึงการเฝ้าระวัง พระองค์ทรงหมายถึงพระองค์เสมอ หมายถึงการเสด็จมาของพระองค์ หมายถึงวันสุดท้ายและหมายถึงแต่ละวัน หมายถึง “วันนี้” พระองค์ตรัสถึงเจ้าบ่าวที่มาเวลาเที่ยงคืน แสงสว่างที่จะต้องไม่ดับก็คือแสงของความเชื่อ “ใจข้าพเจ้าคิดถึงพระวาจาที่ว่า ‘จงแสวงหาใบหน้าของเราเถิด’” (สดด 27:8)

 CCC ข้อ 2849 การต่อสู้เช่นนี้และชัยชนะเช่นนี้ย่อมเป็นไปไม่ได้นอกจากด้วยการอธิษฐานภาวนา อาศัยการอธิษฐานภาวนา พระเยซูเจ้าทรงพิชิตมารผจญตั้งแต่แรก รวมทั้งในการต่อสู้กับการทนทุกข์ทรมานครั้งสุดท้าย ในการวอนขอพระบิดาของเราครั้งนี้ พระคริสตเจ้าทรงรวมเราไว้กับการต่อสู้กับการทนทุกข์ครั้งสุดท้ายของพระองค์ด้วย มีการกล่าวอยู่ตลอดเวลาให้เรามีใจตื่นเฝ้าระวัง ร่วมกับการตื่นเฝ้าระวังของพระองค์ การตื่นเฝ้าเป็น “การคอยเฝ้าระวังจิตใจ” และพระเยซูเจ้าทรงวอนขอพระบิดาให้ทรงเฝ้ารักษาพวกเราไว้ในพระนามของพระองค์ พระจิตเจ้าทรงพยายามปลุกเร้าเราไว้ตลอดเวลาให้คอยตื่นเฝ้าเช่นนี้ คำขอข้อนี้มีความหมายจริงจังเป็นพิเศษในความสัมพันธ์กับการผจญในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของเราในโลกนี้ คำวอนขอข้อนี้วอนขอให้เรามีความยืนหยัดมั่นคงจนถึงวาระสุดท้าย “ดูเถิด เรามาเหมือนขโมย ผู้ที่ตื่นเฝ้า....ย่อมเป็นสุข” (วว 16:15)

 (จากหนังสือ THE DIDACHE BIBLE with commentaries based on the Catechism of the Catholic Church, Ignatius Bible Edition)