แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

16 ตุลาคม 

นักบุญมาร์การีตา มารีย์ อาลาก๊อก พรหมจารี

(St. Margaret Mary Alacoque, Virgin)

Margaret 1

 นักบุญมาร์การีตา มารีย์ อาลาก๊อก เกิดในครอบครัวขุนนางมีฐานะร่ำรวย ราวปี 1647 เป็นลูกคนที่ 5 จาก 7 คน บิดาเป็นเจ้าหน้าที่ด้านเอกสารของราชสำนัก มารดาด้วยก็เป็นบุคคลสำคัญในวงสังคม

 

 วัยเด็ก เรียบร้อย รักความสงบ ชอบภาวนามากกว่าวิ่งเล่นเหมือนเด็กคนอื่นๆ ด้วยวัย 5 ขวบ แม้ยังไม่รู้ความหมายของคำว่า พรหมจรรย์ แต่ท่านก็ได้ปฏิญาณตนด้วยความศรัทธาในระหว่างมิสซาว่า จะถือพรหมจรรย์ถวายแด่พระเจ้าตลอดชีวิต พระเจ้าทรงเตรียมท่านไว้สำหรับภารกิจในอนาคต พระองค์ประทับตราแห่งความศักดิ์สิทธิ์ไว้ในดวงวิญญาณของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้แล้ว

 

 เมื่ออายุ 8 ปี บิดาเสียชีวิตกะทันหัน ถูกส่งเข้าโรงเรียนประจำ บ้านมีความลำบากเพราะญาติทางพ่อยึดอำนาจการจัดการทั้งหมด ทำให้แม่ของท่านนักบุญมีปัญหา ลูกๆได้รับความยากลำบาก ท่านสวดมากขึ้น บางครั้งต้องไปซ่อนตัวในโรงเลี้ยงสัตว์ โดยไม่ยอมกินอาหาร ท่านคุกเข่าแทบเชิงกางเขน และร้องไห้ทั้งคืน

 อายุ 9 ปี รับศีลมหาสนิทครั้งแรก หลังจากนั้นท่านทำกิจพลีกรรมทรมานตัวเองอย่างลับๆ เพื่อใช้โทษบาป สุขภาพแย่ลง ท่านยังทำกิจใช้โทษบาป ต่อมาท่านป่วยจนอ่อนแรง และร่างกายผอมลงอย่างรวดเร็ว ท่านสวดภาวนาขอให้หายป่วย โดยบอกว่าอนาคตจะขอเป็นลูกของแม่พระ และหายป่วยอย่างอัศจรรย์ เมื่อรับศีลกำลังเติมชื่อว่า มารีย์ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าถวายตัวแด่แม่พระ ท่านยังภาวนาไม่หยุดหย่อน และเริ่มได้รับการประจักษ์ของพระเยซูเจ้า ท่านเห็นพระเยซูเจ้าทรงถูกตรึงกางเขน และเห็นพระคริสต์ทรงเปี่ยมด้วยความเมตตากรุณา  ซึ่งทำให้ท่านรู้สึกสะท้านใจในบาปของมนุษย์ จึงหมั่นภาวนาใช้โทษบาปมากขึ้น

 

 ท่านเริ่มอ่านหนังสือประวัตินักบุญต่างๆ เลียนแบบวิธีทรมานตนเพื่อใช้โทษบาป ท่านเริ่มค้นหาจะเข้าคณะนักบวชที่พระเจ้าประสงค์ และท่านได้มาถึงอารามแม่พระเสด็จเยี่ยม ที่เมืองปาเรย์ เลอ โมนิอัล ที่นี่ท่านได้ยินพระเยซูเจ้าตรัสว่า "ที่นี่แหละที่เราต้องการให้เจ้ามาอยู่"

Margaret 2

 ท่านได้ปฏิญาณตนเมื่ออายุ 24 ปี ทั้งๆที่สุขภาพไม่แข็งแรง ท่านปฏิบัติตนด้วยความสุภาพอ่อนน้อมอย่างที่สุด แม้ว่าพระเยซูเจ้าทรงประจักษ์มาหาท่าน แต่ท่านก็ไม่เคยนำมาอวดอ้างเลย

 

 ในปี ค.ศ. 1675 พระเยซูเจ้าทรงประจักษ์มา และทรงเผยให้ท่านนักบุญเห็นพระหฤทัยของพระองค์ พระองค์ตรัสกับท่านว่า "หัวใจดวงนี้แหละที่รักมวลมนุษย์อย่างสุดซึ้ง จนกระทั่งพลีตนเองทั้งสิ้นเป็นพยานแห่งความรัก แต่เรากลับได้รับการไม่รู้จักคุณค่าแห่งความรักจากคนหมู่มากเป็นการตอบแทน"

 

 ท่านนักบุญตระหนักถึงภารกิจที่พระเยซูเจ้าทรงมอบหมายให้ท่านเพื่ออุทิศตนต่อพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ท่านพยายามสื่อสารกับผู้อื่นถึงสาส์นของพระเยซูเจ้า แต่ท่านกลับถูกต่อต้าน ถูกภคินีอาวุโสกว่าเรียกไปตำหนิ และบอกให้ท่านทำตัวเหมือนคนปกติอื่นๆ ท่านยอมรับคำตำหนิเหล่านั้นด้วยความสุภาพอย่างที่สุด ทำให้บรรดาภคินีที่เคยต่อต้านท่านค่อยๆกลับมาเชื่อในสิ่งที่ท่านกล่าว ท่านได้เริ่มกิจปฏิบัติในการสวดภาวนาที่เรียกกันว่า ชั่วโมงศักดิ์สิทธิ์ในช่วง 5 ทุ่มถึงเที่ยงคืนของวันพฤหัสบดีแรกของเดือน เพื่อมีส่วนในพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้าเป็นการใช้โทษบาป เพื่อจะได้ร่วมมิสซา และรับศีลมหาสนิทในมิสซาเช้าวันศุกร์ต้นเดือน

 

 พระเยซูเจ้าทรงเลือกให้วันศุกร์หลังวันสมโภชพระวรกาย และพระโลหิตของพระคริสตเจ้า เป็นวันสมโภชพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์  พระองค์ทรงเรียกท่านนักบุญว่า เป็นสานุศิษย์ผู้เป็นที่รักแห่งพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ และผู้รับสืบทอดพระพรทั้งหมดแห่งพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ ในวาระสุดท้าย ท่านยังคงเป็นทุกข์ถึงบาป ท่านรำพึงภาวนาช้าๆว่า "พระเจ้าข้า พระองค์เท่านั้นคือสิ่งที่ลูกปรารถนาเมื่ออยู่ในโลกนี้ และลูกจะได้อยู่กับพระองค์ในสวรรค์" ท่านสิ้นใจในขณะที่รำพึงพระนามพระเยซูเจ้า ในวันที่ 16 ตุลาคม 1690 อายุ 43 ปี

 

( ถอดความโดย คุณพ่อ วิชา  หิรัญญการ [จำไม่ได้ว่ามาจากหนังสือเล่มไหน คือทำไว้นานแล้ว] )

Margaret 3Margaret 4