วันเสาร์สัปดาห์ที่ 26  (ปีคู่)  

บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกา (ลก 10:17-24)

เวลานั้น ศิษย์ทั้งเจ็ดสิบสองคนกลับมาด้วยความชื่นชมยินดี ทูลว่า “พระเจ้าข้า แม้แต่ปีศาจก็ยังอ่อนน้อมต่อเราเดชะพระนามพระองค์” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราเห็นซาตานตกจากฟ้าเหมือนฟ้าแลบ จงฟังเถิด เราให้อำนาจแก่ท่านที่จะเหยียบงูและแมงป่อง มีอำนาจเหนือกำลังทุกอย่างของศัตรู ไม่มีอะไรจะทำร้ายท่านได้ อย่าชื่นชมยินดีที่ปีศาจอ่อนน้อมต่อท่าน แต่จงชื่นชมยินดีมากกว่าที่ชื่อของท่านจารึกไว้ในสวรรค์แล้ว”

      ในเวลานั้น พระเยซูเจ้าทรงปลาบปลื้มพระทัยเดชะพระจิตเจ้าตรัสว่า “ข้าแต่พระบิดาเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ข้าพเจ้าสรรเสริญพระองค์ ที่พระองค์ทรงปิดบังเรื่องเหล่านี้จากบรรดาผู้ปรีชาและรอบรู้ แต่ทรงเปิดเผยแก่บรรดาผู้ต่ำต้อย ถูกแล้ว พระบิดาเจ้าข้า พระองค์พอพระทัยเช่นนั้น พระบิดาทรงมอบทุกสิ่งแก่ข้าพเจ้า ไม่มีใครรู้ว่าพระบุตรทรงเป็นใครนอกจากพระบิดา และไม่มีใครรู้ว่าพระบิดาทรงเป็นใครนอกจากพระบุตรและผู้ที่พระบุตรทรงเปิดเผยให้รู้”

แล้วพระองค์ทรงหันพระพักตร์ไปยังบรรดาศิษย์ ตรัสกับเขาโดยเฉพาะว่า “นัยน์ตาของท่านเป็นสุขที่มองเห็นสิ่งต่างๆ ที่ท่านเห็น เราบอกท่านทั้งหลายว่า ประกาศกและกษัตริย์จำนวนมากปรารถนาจะเห็นสิ่งที่ท่านได้เห็น แต่ก็ไม่ได้เห็น ปรารถนาจะได้ฟังสิ่งที่ท่านได้ฟัง แต่ก็ไม่ได้ฟัง”


         ลก 10:21-24 พระคริสตเจ้าทรงชื่นชมยินดีอย่างเปิดเผยที่บรรดาศิษย์ของพระองค์เริ่มเข้าใจใน       คำสอนของพระองค์ ในที่นี้พระองค์ทรงอธิบายความสัมพันธ์ของพระองค์กับพระบิดา ด้วยการเปิดเผยอีกครั้งถึงพระเทวภาพของพระองค์ในฐานะที่เป็นพระบุตรของพระเจ้า ความปรารถนาของพระองค์ที่จะทำให้พระประสงค์ของพระเจ้าสำเร็จไป ในท้ายที่สุดจะนำไปสู่พระมหาทรมานและการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ พระนางมารีย์ได้สะท้อนให้เห็นถึงความนบนอบเชื่อฟังต่อพระประสงค์ของพระเจ้าในช่วงเวลาของการรับสาร และตลอดชีวิตของพระนาง

            คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก CCC ข้อ 1082 พระพรของพระเจ้ารับการเปิดเผยและสื่อให้ทุกคนทราบในพิธีกรรมของพระ    ศาสนจักร พระบิดาทรงเป็นที่รับรู้และรับการนมัสการว่าเป็นบ่อเกิดและจุดหมายของพระพรการเนรมิตสร้างและความรอดพ้นในพระวจนาตถ์ผู้ทรงรับสภาพมนุษย์ สิ้นพระชนม์และกลับคืนพระชนมชีพเพื่อเราพระบิดาประทานพรให้เรามากมาย และยังทรงหลั่งของประทานที่รวมพระพรทุกอย่างลงในจิตใจของเราอีกด้วย คือพระจิตเจ้า

         CCC ข้อ 1083 เราจึงเข้าใจได้ว่าพิธีกรรมของคริสตศาสนามีสองมิติ คือเป็นการตอบสนองด้วยความเชื่อและความรักต่อ “พระพรฝ่ายจิตต่าง ๆ” ที่พระบิดาพอพระทัยประทานให้เรา ในด้านหนึ่งพระ ศาสนจักรที่ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับองค์พระผู้เป็นเจ้าของตนและเดชะพระจิตเจ้า ถวายพรแด่พระบิดา “สำหรับของประทานของพระองค์ที่อยู่เหนือคำบรรยายทั้งปวง” (2 คร 9:15) โดยการกราบนมัสการ ถวายคำสรรเสริญและขอบพระคุณ ในอีกด้านหนึ่ง และตราบจนจบสิ้นแผนการของพระเจ้า พระศาสนจักรไม่เลิกที่จะถวาย “ของถวายที่พระบิดาประทานให้พระศาสนจักร” แด่พระองค์ และยังวอนขอพระองค์ให้ทรงส่งพระจิตเจ้าลงมาเหนือของถวายนี้ เหนือพระศาสนจักรเหนือบรรดาผู้มีความเชื่อและมวลมนุษย์ทั่วโลก เพื่อว่าอาศัยการมีส่วนร่วมในการสิ้นพระชนม์และการกลับคืนพระชนมชีพของพระคริสตเจ้า-พระสมณะ และเดชะพระอานุภาพของพระจิตเจ้าการถวายพรแด่พระเจ้านี้จะได้บังเกิดผลเป็นชีวิต “เพื่อสรรเสริญพระสิริรุ่ง โรจน์แห่งพระหรรษทานของพระองค์” (อฟ 1:6)

              CCC ข้อ 2603 ผู้นิพนธ์พระวรสารบันทึกเรื่องการอธิษฐานภาวนาที่ชัดเจนของพระคริสตเจ้าในช่วงเวลาที่ทรงประกาศสอนประชาชนไว้สองครั้ง การอธิษฐานภาวนาทั้งสองครั้งเริ่มด้วยการขอบพระคุณ ในเรื่องการอธิษฐานภาวนาเรื่องแรก พระเยซูเจ้าทรงสรรเสริญพระบิดา ยอมรับพระองค์และถวายพระพรแด่พระองค์ที่ทรงปิดบังพระธรรมล้ำลึกเรื่องพระอาณาจักรไว้จากผู้ที่คิดว่าตนเป็นผู้มีปรีชา และกลับทรงเปิด เผยพระธรรมล้ำลึกเหล่านี้ให้แก่“ผู้ต่ำต้อย” (เรื่องความสุขแท้สำหรับผู้ยากจน) ความสะเทือนพระทัยของพระองค์ “พระบิดาเจ้าข้า พระองค์พอพระทัยเช่นนั้น” แสดงให้เห็นพระทัยส่วนลึกของพระองค์ การที่พระองค์ยึดสนิทกับ “ความพอพระทัย” ของพระบิดาเสมอ เป็นเสมือนเสียงสะท้อนของวลีว่า “ขอให้เป็นไปแก่ข้าพเจ้า” ของพระมารดาเมื่อพระนางทรงปฏิสนธิพระองค์ และเป็นประหนึ่งการกล่าวล่วงหน้าของพระวาจาที่จะตรัสแก่พระบิดาเมื่อทรงเป็นทุกข์อย่างสุดซึ้งในสวนเกทเสมนี คำอธิษฐานภาวนาทั้งหมดของพระเยซูเจ้าเต็มเปี่ยมด้วยความรักที่พร้อมเสมอจะให้พระหทัยมนุษย์ของพระองค์เป็นหนึ่งเดียวกับ “พระธรรมล้ำลึกแห่งพระประสงค์” ของพระบิดา

(จากหนังสือ THE DIDACHE BIBLE with commentaries based on the Catechism of the Catholic Church, Ignatius Bible Edition)