แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

วันศุกร์สัปดาห์ที่ 16 เทศกาลธรรมดา (ปีคู่)

บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมัทธิว (มธ 13:18-23)

เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า“จงฟังความหมายของอุปมาเรื่องผู้หว่านเถิด เมื่อคนหนึ่งฟังพระวาจาเรื่องพระอาณาจักรและไม่เข้าใจ มารร้ายก็มาและถอนสิ่งที่หว่านลงในใจของเขาไปเสีย นั่นได้แก่ เมล็ดที่ตกริมทาง เมล็ดที่ตกบนหินคือผู้ฟังพระวาจาและมีความยินดีรับไว้ทันที แต่เขาไม่มีรากในตัว จึงไม่มั่นคง เมื่อเผชิญความยากลำบากหรือถูกเบียดเบียนเพราะพระวาจานั้น เขาก็ยอมแพ้ทันที เมล็ดที่ตกในพงหนามหมายถึงบุคคลที่ฟังพระวาจา แต่ความวุ่นวายในทางโลก ความลุ่มหลงในทรัพย์สมบัติเข้ามาบดบังพระวาจาไว้ จึงไม่เกิดผล ส่วนเมล็ดที่หว่านลงในดินดี หมายถึงบุคคลที่ฟังพระวาจาและเข้าใจ จึงเกิดผลร้อยเท่าบ้าง หกสิบเท่าบ้าง สามสิบเท่าบ้าง”


มธ 13:22 การยึดติดกับทรัพย์สมบัติทางวัตถุและความกังวลฝ่ายโลกทำให้เราเกิดความวอกแวกในการแสวงหาพระคริสตเจ้า และหันเหความสนใจของเราจากการทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า เพื่อจะทำให้ชีวิตของเราบังเกิดผลได้นั้น เราจำเป็นต้องตอบรับพระเจ้าด้วยความเชื่อและเอาใจใส่ต่อพระวาจาของพระองค์

 Ccc ข้อ 29 แต่มนุษย์อาจลืม ไม่สนใจ หรือแม้กระทั่งไม่ยอมรับ “ความสัมพันธ์ลึกซึ้งและมีชีวิตชีวากับพระเจ้านี้” ได้ ท่าทีเช่นนี้เกิดขึ้นได้จากสาเหตุหลายประการ: เช่นจากการต่อต้านความเลวร้ายที่มีอยู่ในโลก จากความไม่รู้หรือไม่สนใจเรื่องศาสนา จากความสาละวนต่อโลกนี้และทรัพย์สมบัติ จากตัวอย่างไม่ดีของผู้มีความเชื่อ จากแนวความคิดที่ต่อต้านศาสนา ในที่สุดจากท่าทีของมนุษย์คนบาปที่มีความกลัวและต้องการซ่อนตัวให้พ้นจากพระเจ้า และหลบหนีจากพระองค์ที่ทรงเรียก

Ccc ข้อ 1153 การประกอบพิธีกรรมศีลศักดิ์สิทธิ์เป็นการพบกันระหว่างบุตรของพระเจ้ากับพระบิดาในพระคริสตเจ้าและพระจิตเจ้า และการพบกันนี้แสดงให้เห็นเป็นเสมือนการสนทนากันผ่านทางการกระทำและคำพูด การกระทำที่เป็นสัญลักษณ์เองก็เป็นเสมือนการพูดอย่างหนึ่งด้วย แต่จำเป็นต้องมีพระวาจาของพระเจ้าและการตอบรับด้วยความเชื่อควบคู่ไปกับการ กระทำและทำให้การกระทำนั้นมีชีวิต เพื่อให้เมล็ดพืชของพระอาณาจักรผลิตผลในเนื้อดินที่ดี การกระทำในพิธีกรรมแสดงความหมายของสิ่งที่พระวาจาของพระเจ้ากล่าวถึง ได้แก่การริเริ่มที่พระเจ้าประทานให้เราเปล่าๆ พร้อมกับการที่ประชากรของพระองค์ตอบสนองด้วยความเชื่อ 

 

 

มธ 13:23 ผู้ที่ยินดีรับพระวาจาของพระเจ้า จะบังเกิดผลมากหรือน้อยเพียงใดนั้นย่อมขึ้นอยู่กับความประพฤติที่ดีของเขา

Ccc ข้อ 1802 พระวาจาของพระเจ้าเป็นแสงสว่างส่องก้าวเดินของเรา เราจึงต้องใช้ความเชื่อและการอธิษฐานภาวนาทำให้พระวาจานี้เป็นของตนและนำมาใช้ในทางปฏิบัติ นี่จึงเป็นวิธีการเสริมสร้างมโนธรรม

Ccc ข้อ 1803 “สิ่งใดจริง สิ่งใดประเสริฐ สิ่งใดชอบธรรม สิ่งใดบริสุทธิ์ สิ่งใดน่ารัก สิ่งใดควรยกย่อง ถ้ามีสิ่งใดเป็นคุณธรรม ถ้ามีสิ่งใดน่าสรรเสริญ ท่านจงพิจารณาสิ่งเหล่านี้ด้วยการใคร่ครวญเถิด” (ฟป 4:8)

 

(จากหนังสือ THE DIDACHE BIBLE with commentaries based on the Catechism of the Catholic Church, Ignatius Bible Edition)