แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

วันพฤหัสบดีสัปดาห์ที่ 13 เทศกาลธรมดา (ปีคู่)

บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมัทธิว (มธ 9:1-8)

เวลานั้น พระเยซูเจ้าเสด็จลงเรือข้ามฝั่งกลับมายังเมืองของพระองค์ ทันใดนั้น มีผู้หามคนอัมพาตคนหนึ่งนอนบนแคร่มาเฝ้าพระองค์ เมื่อพระเยซูเจ้าทรงเห็นความเชื่อของเขา จึงตรัสแก่คนอัมพาตว่า “ทำใจดีๆ ไว้เถิด ลูกเอ๋ย บาปของท่านได้รับการอภัยแล้ว” ธรรมาจารย์บางคนคิดในใจว่า ‘คนนี้กล่าวดูหมิ่นพระเจ้า’ พระเยซูเจ้าทรงทราบความคิดของเขา จึงตรัสว่า “ท่านคิดร้ายในใจทำไม อย่างใดง่ายกว่ากัน การบอกว่า ‘บาปของท่านได้รับการอภัยแล้ว’ หรือบอกว่า ‘ลุกขึ้นเดินไปเถิด’ แต่เพื่อให้ท่านทราบว่า บุตรแห่งมนุษย์มีอำนาจอภัยบาปได้บนแผ่นดินนี้” พระองค์จึงตรัสสั่งคนอัมพาตว่า “จงลุกขึ้น แบกแคร่ กลับบ้านเถิด” เขาก็ลุกขึ้นกลับไปบ้าน เมื่อประชาชนเห็นดังนี้ ต่างมีความกลัว ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า ผู้ประทานอำนาจเช่นนี้ให้แก่มนุษย์


มธ 9:1-8 ธรรมจารย์ได้กล่าวหาพระคริสตเจ้าว่า พระองค์ได้ดูหมิ่นพระเจ้า ด้วยการใช้อำนาจอภัยบาปให้ผู้อื่น ซึ่งมีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่สามารถอภัยบาปได้ แต่พระคริสตเจ้าผู้ทรงเป็นทั้งพระเจ้าแท้และมนุษย์แท้ จึงมีอำนาจนี้ในฐานะที่ทรงเป็นพระเจ้า เพื่อเป็นการพิสูจน์ถึงอำนาจของพระเจ้านี้ พระคริสตเจ้าจึงทรงรักษาคนเป็นอัมพาตให้หาย หลังจากนั้นพระองค์ได้มอบอำนาจการอภัยบาปนี้ให้กับบรรดาอัครสาวก ซึ่งเป็นผู้ที่สานงานต่อจากพระองค์ อีกทั้งยังมีการส่งมอบอำนาจนี้ต่อไป ให้แก่ผู้สืบตำแหน่งต่อจากบรรดาอัครสาวกด้วย

Ccc ข้อ 1485 ค่ำวันปัสกา พระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสำแดงพระองค์แก่บรรดาอัครสาวก ตรัสว่า “จงรับพระจิตเจ้าเถิด ท่านทั้งหลายอภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ได้รับการอภัย ท่านทั้งหลายไม่อภัยบาปของผู้ใด บาปของผู้นั้นก็ไม่ได้รับอภัยด้วย” (ยน 20:22-23)

Ccc ข้อ 1486 การอภัยบาปที่ได้ทำหลังรับศีลล้างบาปเกิดขึ้นได้โดยศีลศักดิ์สิทธิ์เฉพาะที่เรียกว่า ศีลแห่งการกลับใจ การสารภาพบาป ศีลอภัยบาป หรือศีลแห่งการกลับคืนดี