แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

วันศุกร์ที่ 3 มีนาคม 2017 วันศุกร์หลังวันพุธรับเถ้า
มธ 9:14-15…
14วันหนึ่งบรรดาศิษย์ของยอห์นเข้ามาทูลถามพระเยซูเจ้าว่า “ทำไมพวกเราและพวกฟาริสีจำศีลอดอาหาร แต่ศิษย์ของท่านไม่จำศีลเลย” 15พระองค์ทรงตอบว่า “ผู้รับเชิญมาในงานแต่งงานจะโศกเศร้าหรือขณะที่เจ้าบ่าวยังอยู่กับเขา แต่จะมีวันหนึ่งที่เจ้าบ่าวจะถูกแยกวันนั้นเขาจะจำศีลอดอาหาร

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• ที่อิสราเอล มีสถานที่แห่งหนึ่งชื่อคุมราน อยู่ใกล้ทะเลตาย
o พ่อเคยเล่าให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องคนกลุ่มนี้ช่วงสองร้อยปีโดยประมาณ ก่อนพระเยซูเจ้าเสด็จมาบังเกิด หรือสองร้อยปีก่อนคริสตกาล จนถึงสองร้อยปีหลังคริสตกาล คนกลุ่มนี้คือพวกเอสซีน คือ บรรดาผู้คนที่เลือกไม่เดินตามกระแสโลก กระแสของเมืองหลวงของเยรูซาเล็ม พวกเขาไปซ่อนเก็บตัวอยู่ในบริเวณใกล้ทะเลตาย ไปเจริญชีวิตหมู่คณะอย่างเคร่งครัด ภาวนา มีมหาสมนำพวกเขา สอนพวกเขา มีธรรมเนียมประเพณีมากมายแบบชาวยิวเคร่งครัด เหมือนชีวิตนักบวชหลายๆคณะในปัจจุบันของเรา พวกเขาต้องทำพิธีชำระตนวันละสองครั้งโดยเดินลงไปในบ่อน้ำที่เจาะไว้ในหิน นำไม่สะอาดเลยครับเพราะใช้ซ้ำๆๆๆ ในที่ทะเลทราย แต่พวกเขารู้ว่า การชำระตนเป็นการชะระจิตใจมากกว่า
o พวกเขาเป็นกลุ่มชายล้วน ที่ละทิ้งครอบครัวไปเจริญชีวิตแบบนี้... มีเวลาเตรียมตัวสองปีก่อนเข้าสู่หมู่คณะ ต้องตรวจสอบโดยคณะสงฆ์ คณะผู้ใหญ่ ก่อนจัดให้เข้ามาเป็นสมาชิกถาวร... ไม่ง่าย และก่อนที่จะผ่านการอบรม ระหว่างนั้นพวกเขาจะไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรมบางเรื่อง เช่นห้องบันทึกพระคัมภีร์ พวกเขาจะเข้าไม่ได้เลย จนกว่าจะผ่านเข้าสู่สมาชิกภาพตามเวลาและการตรวจสอบดังกล่าว
o หมู่คณะที่กุมราน มีจำนวนไม่มากนัก แต่เอาจริงกับเรื่องศาสนามาก เอาจริงกับเรื่องประเพณีวัฒนธรรมมากๆ พวกเขาเชื่อว่าสงครามครั้งสุดท้ายคือการต่อสู้กับอำนาจปกครองที่กดขี่ และพระเจ้าจะช่วยพวกเขา พวกเขาได้บันทึกข้อความพระคัมภีร์ด้วยลายมือไว้บนแผ่นหนังที่มีความสำคัญมากสำหรับพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม ที่เราเรียกว่าหนังสือม้วนแห่งกุมราน แม้ว่าการค้นพบหนังสือม้วนนี้จะเกิดโดยบังเอิญจากเด็กเลี้ยงแกะเบดูอินเมื่อปี 1946-1956 นี้เอง ซึ่งพบอยู่ในไหจำนวนมากซ่อนอยู่ในถ้ำจำนวน 11 ถ้ำ และการสืบค้นทำให้เราได้รู้จักพวกเอสซีนนี้อย่างน่าอัศจรรย์ใจถึงวิถีชีวิตของพวกเขา เข้าใจถึงความเคร่งครัดและการถือศาสนาของพวกเขา.. ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า นักบุญยอห์นบัปติสเป็นคนหนึ่งในพวกนี้... เพราะท่านได้นำเอาพิธีการล้างด้วยน้ำมาใช้ ณ แม่น้ำจอร์แดน

• พระวาจาวันนี้ เราจึงได้อ่านว่า ศิษย์ของยอห์นบัปติสมาถามพระเยซูเจ้าเรื่องธรรมเนียมการอดอาหาร เพราะยอห์นและศิษย์ย่อมเคร่งครัด แต่ศิษย์พระเยซูเจ้าไม่ได้เคร่งครัดเท่า.. และคำตอบของพระเยซูเจ้าก็สอนบัญญัติใหม่แห่งการถือศีลอดอาหารให้แก่เรา
• วันนี้พ่ออยากจะชวนไตร่ตรองสั้นๆ ถึงเรื่องการ “จำศีล”

• “จำศีลอดอาหาร การเข้ามหาพรต เราจะทำอย่างไรดี จะจำศีลอดอาหารอย่างไร จะทำตัวให้สมกับเป็นการเขาสู่มหาพรตอย่างไร”....
o “ความดีเริ่มจากภายในไม่ได้มาจากภายนอก” ความดีอยู่ที่ความจริงใจที่มีต่อกัน การเป็นคนมีศาสนาหรือศาสนิกชนไม่ได้มาจากสิ่งอื่นๆ แต่ว่ามาจากความสำนึกภายในถึงความรักต่อพระเจ้าและต่อเพื่อนมนุษย์ การเคร่งครัดภายนอกไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด แต่เริ่มจากความจริงใจและความสัตย์จริงจากภายใน...
o ความเชื่อที่พ่อมั่นใจคือ “พระวาจาของพระเจ้า...เสียงของพระเจ้า... สำคัญที่สุด ที่จะขัดเกลาจิตใจของเราให้สะอาด พระวาจาขอพระเจ้าทรงพลังที่สุดที่จะจัดการให้เราได้ยินได้ฟังและได้กลับใจ...”

• วันนี้พ่ออยากพาไปไตร่ตรองอิสยาห์ในบทอ่านที่หนึ่งด้วย พ่อได้เราจะได้เห็นคำตัดพ้อของพระเจ้าต่อการจำศีลของประชาชนที่เคร่งเกินแต่ภายนอก... พระเจ้าตรัสพ้อ และตำหนิเขา เพราะพวกเขาไม่ได้ทำออกมาจากใจจริง เพราะเขาจำศีลกันมากเหลือเกิน แต่พฤติกรรมของพวกเขาแตกต่าง เรามาอ่านอิสยาห์เพิ่มเติมกันครับ พ่อจะใส่พระวาจาในเครื่องหมายคำพูด และไตร่ตรองนิดหน่อยครับ
o “ดูซิ ในวันที่ท่านทั้งหลายจำศีลอดอาหาร ท่านยังแสวงหาผลประโยชน์ของตน และข่มเหงคนงานทุกคนของท่าน” (ตรงนี้พ่อคงต้องเขียน เอา...เอาเข้าไป หรือ ดู...ดูพวกเขาทำสิ... อดอาหารแต่ข่มเหงคนอื่น แล้วจะอดอาหารจำศีลกันไปทำไม...)
o “ดูซิ ท่านจำศีลอดอาหาร แต่ยังทะเลาะวิวาทและโต้เถียงกัน ชกต่อยตีกันอย่างอยุติธรรม” (ทะเลาะกันทั่วหน้า แต่ก็ไปวัดไปวาสรรเสริญพระเจ้ากันอย่างไม่สำนึก ทำร้ายเพื่อนพี่น้องด้วยกำลังกายใจ วิภากษณ์วิจารณ์ทำร้ายกัน... แต่ก็สรรเสริญพระเจ้า...นี่คือสิ่งที่พระเจ้าตำหนิ...)
o “การจำศีลอดอาหารดังที่ท่านปฏิบัติในวันนี้ จะไม่ทำให้เสียงของท่านได้ยินไปถึงเบื้องบนเลย”
o “นี่หรือเป็นการจำศีลอดอาหารที่เราพอใจ คือวันที่มนุษย์ละเว้นความสุขสบาย ก้มศีรษะลงเหมือนต้นอ้อ ใช้ผ้ากระสอบและขี้เถ้าปูนอน ท่านจะเรียกการทำเช่นนี้ว่าเป็นการจำศีลอดอาหาร และวันที่พระยาห์เวห์พอพระทัยกระนั้นหรือ” (การจำศีลอดอาหาร การบำเพ็ญพรตเพื่อประกาศศรัทธาในพระเจ้าเป็นเพียงแค่นี้เองหรือ ทำตัวเศร้าโศก ก้มลงภาวนาอย่างศรัทธา)

• การจำศีลอดอาหารหรือจิตตารมณ์ที่แท้จริงที่พระเจ้าต้องการ เพื่อประกาศศรัทธาในพระองค์... ตรงนี้อ่านดีๆนะครับ อ่านให้ซึมลึกเข้าไปในหัวใจ จนเรากล้าเปลี่ยนแปลงตนเองนะครับ
o “แต่การจำศีลอดอาหารที่เราต้องการ คือการแก้โซ่ตรวนที่อธรรม แก้สายรัดแอกปล่อยผู้ถูกข่มเหงให้เป็นอิสระ และหักแอกทุกอัน” (ตรงนี้ที่พ่ออยากให้เราใส่ใจร่วมกันในมหาพรตปีนี้ พี่น้องรับ “ปลดแอก” แก่และกันเถอะครับ “ปลดโซ่ตรวน” ที่เราพันธนาการกันและกันด้วยความอธรรม ความโกรธ ความเกลียด หรือความชังและปลดปล่อยกันให้เป็นอิสระเถอะครับ ความเกลียดชังหรือความโกรธที่มีมานานแรมปีแรมชาติหรือมีต่อกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ พี่น้องที่รักของพ่อในความเชื่อคริสตชนทุกท่าน พี่น้อง facebook คริสตชนทุกท่านครับ..... ถึงเวลาที่เราต้อคืนดีกันเสียที ให้อภัยและสวมกอดกันด้วยความรักด้วยวงแขนที่อบอุ่นแทนการสวมแอก ตีตรวนแห่งความเกลียดชังกันเสียทีนะครับ...)
o “แบ่งปันอาหารกับผู้หิวโหย นำคนยากจนไร้ที่อยู่อาศัยเข้ามาในบ้าน ให้เสื้อผ้าแก่ผู้ที่ท่านเห็นว่าไม่มีเสื้อผ้าสวม และไม่หันหน้าหนีจากญาติพี่น้อง” (นี่อย่างไรเล่าครับ จิตตารมณ์แห่งมหาพรตที่แท้จริง ความรักและการแบ่งปัน

• พี่น้องครับ... เชื่อพ่อนะครับ...
1. ให้อาหารแก่ผู้หิวโหย ดีกว่าอดอาหารไว้รับประทานมื้อใหญ่ต่อไปภายหลังหรือมานั่งฉลองลาเนื้อกันจนเมามาย...
2. ให้อาหารแก่คนที่อดยาก ดีกว่าที่จะอดอาหารแล้วเก็บเงินที่เหลือไว้ทำอย่างอื่นเพื่อตนเองต่อไป...
3. ช่วยคนยากไร้ให้ได้มีที่พักพิงทางใจและกายอย่างอบอุ่นหรือยเย็นสบาย ต้องทำนะครับ... เสื้อผ้ามีเท่าไรกันแล้ว มีกี่ตัวแล้วครับที่เราไม่เคยได้สวมใส่ บางคนเก็บเสื้อผ้าที่ใช้ในวัยสาว ในวัยเด็ก ไว้เต็มตู้ จนล้นและรก... แต่มีพี่น้องร่วมโลกเท่าไรที่ไม่มีเสื้อผ้าใส่ ไม่มีแม้แต่จะคลุมกายยามหนาวหรือให้ดูสมศักดิ์ศรีความเป็นคนของเขา...
4. มหาพรตปีนี้รื้อตู้เสื้อผ้ากันดีไหมครับ จะได้มีที่ว่างให้อากาศบริสุทธิ์ได้เข้ามาให้ห้องของเรามากขึ้น มีกลิ่นอายของความรักและเมตตาเข้ามาที่ว่างของหัวของเรามากขึ้น...
5. สำคัญที่สุด หันหน้าเข้าหาพี่น้องของเรานะครับ อย่าหันหน้าหนีหรือไม่แยแสกันเลย ไม่น่ารัก คนน่ารัก ห่วงใย สนใจ และใส่ใจเพื่อนๆครับ บางทีเขาอาจจะมองเรา รอเรามานานแล้วอยากให้เราหันไปสักที... ทำเถอะนะครับ นี่คือ จิตตารมณ์มหาพรต... อดอาหารเคร่งครัดมากๆ สวดมากๆ จะไม่ได้ช่วยอะไรถ้าไม่ได้กระทำกิจการดีเพื่อคนอื่น

• “แล้วความสว่างของท่านจะขึ้นมาเหมือนรุ่งอรุณ แผลของท่านจะหายอย่างรวดเร็ว ความชอบธรรมจะเดินนำหน้าท่าน และพระสิริรุ่งโรจน์ของพระยาห์เวห์จะเดินตามท่าน 9ท่านจะทูลขอ และพระยาห์เวห์จะทรงตอบ ท่านจะร้องขอความช่วยเหลือ และพระองค์จะตรัสว่า “เราอยู่ที่นี่”
o ถ้าเราได้ทำอย่างที่พระวาจาสอนจริงๆ คำตรัสของพระเจ้านี้ก็เป็นจริงแน่นอน ชีวิตของเราจะสว่างสุกใสงดงามดุจรุ่งอรุณ.... แผลของเราจะหายอย่ารวดเร็ว แผลใจ แผลแห่งจิตใจและความบอบช้ำหรือแผลเป็นที่มาจากความโกรธเกลียด และความอธรรม หรือตัณหาทั้งหลายจะหายไปอย่างรวดเร็ว เพราะการเข้าสู่หมาพรตแท้จริงที่อิสยาห์สอน... เราจะเดินตามความชอบธรรมของพระเจ้า พระเจ้าทรงนำหน้าเราตลอดไป และถ้าเป็นเช่นนี้จริงๆ เราประพฤติเช่นนี้จริงๆ วันใดที่เราเดือดร้อน ถ้าเราร้องหาพระเจ้า... พระเจ้าจะตอบว่าเราอยู่นี่อย่างแน่นอน..
• พี่น้องครับ การจำศีลแบบนี้สิที่พระเจ้าต้องการ... “แจ่ม และ แหล่ม” แน่นอนครับ.... ขอพระเจ้าอวยพรครับ ขอให้เข้ามหาพรตอย่างดีทุกท่าน