แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

เรารู้อยู่แล้วว่า ...
เมื่อพระเจ้าทรงควบคุมดูแลชีวิตเราอยู่
ทุกสิ่งจะกลับกลายเป็นผลดีที่สุดในบั้นปลาย
ถ้าเป็นเช่นนี้แล้วเรายังต้อง
มีอะไรให้กังวลอีก? . . .
พระวจนะของพระเจ้าใน 2 ทิโมธี 3 : 1- 4
ได้บอกว่า. . .

ในวาระสุดท้ายนั้นจะเกิดเหตุการณ์กลียุค
และทุกข์เข็ญ เนื่องจากผู้คนจะเห็นแก่ตัว
เห็นแก่เงิน ชอบดูหมิ่น หัวรั้น โอ้อวด
และหยิ่งยโส ไม่ให้อภัยกัน ใส่ร้ายกัน
ไม่ยับยั้งชั่งใจ ดุร้าย เกลียดชังความดี
ทรยศและอื่นๆ . . .

เราต่างอยู่ในช่วงเวลาที่กำลังพูดถึงอยู่นี้
และเมื่อเราได้อ่านพระวจนะตอนนี้แล้ว
เราอาจนึกถึงใครบางคนขึ้นมาในใจทันที
ในทุกวันนี้ เป็นการง่ายเหลือเกิน
ที่เราจะรู้สึกเป็นทุกข์เดือดร้อน
ไปกับหลายเรื่องหลายราว
โดยเฉพาะกับกลุ่มที่กล่าวถึงไปแล้วนั้น
แต่พระเจ้าได้สอนไม่ให้เราเป็นทุกข์เดือดร้อน
ไปกับคนที่กระทำชั่ว แต่ให้ไว้วางใจพระเจ้า
และมุ่งกระทำสิ่งที่ดีต่อไป . . .

ชีวิตเราคงยุ่งยากวุ่นวายน่าดู
หากเราไม่จดจ่ออยู่กับสิ่งที่ถูกต้อง
เรามักจะมีแนวโน้มที่จะไปจดจ่ออยู่กับปัญหา
ที่อยู่เฉพาะหน้า เรื่องร้ายๆ หรือเรื่องราวเก่าๆ
แต่ความจริงแล้ว สิ่งที่เราควรทำนั้นคือ
จดจ่ออยู่กับการที่น้ำพระทัยของพระเจ้า
จะสำเร็จในชีวิตเรา . . .
พระเยซูทรงมีปัญหาเหมือนกัน ในสมัยพระองค์
แต่พระองค์ทรงจดจ่ออยู่กับการเชื่อฟังพระเจ้า
และการช่วยเหลือผู้อื่น .. .
แล้วพระเจ้าจะทรงจัดการกับทุกๆ อย่าง
ในเวลาอันเหมาะสมเอง ...

แม้บางครั้งหรือส่วนมาก ดูเหมือนว่า
คนที่ทำผิดกลับได้ดีกว่าคนที่ทำดีเสียอีก
ทำให้เรารู้สึกท้อแท้และสับสนบ้าง
แต่พระเจ้าทรงสัญญาแล้วว่า
ในที่สุด คนที่ถ่อมใจจะได้รับพระพร
อันยิ่งใหญ่จากพระเจ้า . . .
เรียนรู้ที่จะเลิกเสียเวลามานั่งท้อใจ
กับการตัดสินใจผิดๆ ของคนอื่นได้แล้ว
พร้อมหันมาเชื่อว่า โลกนี้
โลกที่พระเจ้าอยู่กับเรานี้
ยังมีสิ่งที่ดีอยู่มากกว่าสิ่งที่เลว
และตั้งใจมองหา
พูดถึงแต่สิ่งที่ดีเหล่านั้นแทน . . .