แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

มก 10:17-21…
17ขณะที่พระองค์กำลังทรงพระดำเนินอยู่ระหว่างทาง ชายคนหนึ่งรีบเข้ามาคุกเข่าลง ทูลถามว่า “พระอาจารย์ผู้ทรงความดี ข้าพเจ้าต้องทำอะไรเพื่อจะได้ชีวิตนิรันดร” 18พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ทำไมเรียกเราว่าผู้ทรงความดี ไม่มีใครทรงความดีนอกจากพระเจ้าเท่านั้น 19ท่านรู้จักบทบัญญัติแล้ว คือ อย่าฆ่าคน อย่าล่วงประเวณี อย่าลักขโมย อย่าเป็นพยานเท็จ อย่าฉ้อโกง จงนับถือบิดามารดา”

20ชายผู้นั้นทูลว่า “พระอาจารย์ ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติเหล่านี้ทุกข้อมาตั้งแต่เป็นเด็กแล้ว” 21พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเขาด้วยพระทัยเอ็นดู ตรัสกับเขาว่า “ท่านยังขาดสิ่งหนึ่ง จงไปขายทุกสิ่งที่มี มอบเงินให้คนยากจน และท่านจะมีขุมทรัพย์ในสวรรค์ แล้วจงติดตามเรามาเถิด” 22เมื่อได้ฟังพระวาจานี้ ชายผู้นั้นหน้าสลดลงเพราะเขามีทรัพย์สมบัติจำนวนมาก จึงจากไปด้วยความทุกข์
23พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรโดยรอบ แล้วตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “ยากจริงหนอที่คนมั่งมีจะเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า” 24บรรดาศิษย์แปลกใจกับพระวาจานี้ พระเยซูเจ้าจึงตรัสอีกว่า “ลูกเอ๋ย ยากจริงหนอที่จะเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า 25อูฐจะลอดรูเข็มยังง่ายกว่าคนมั่งมีเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า” 26บรรดาศิษย์ยิ่งประหลาดใจมากขึ้น พูดกันว่า “ดังนี้ ใครจะรอดพ้นได้” 27พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรบรรดาศิษย์แล้วตรัสว่า “สำหรับมนุษย์เป็นไปไม่ได้ แต่สำหรับพระเจ้าเป็นเช่นนั้นได้ เพราะพระองค์ทรงทำได้ทุกสิ่ง”


อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• วันนี้เราเริ่มเทศกาลธรรมดา สัปดาห์ที่แปด หลังจากปัสกาจบแล้ว เรากลับเข้าสู่เวลาแห่งการเติบโตจากปัสกาขอพระคริสตเจ้า พระวรสารที่เราเริ่มอ่านต่อ คือ พระวรสารนักบุญมาระโก ซึ่งเป็นพระวรสารเพื่อการประกาศข่าวดีเกี่ยวกับพระคริสตเจ้า เป็นการเรียกร้องให้ติดตามพระคริสตเจ้า เรื่องราวพระวรสารวันนี้เป็นเรื่องการเรียกเศรษฐีหนุ่ม... เขาปรารถนาจะติดตามพระคริสตเจ้า


o พระเยซูเจ้าทรงกำลังทรงพระดำเนินอยู่ระหว่างทาง พระวรสารยังเน้นอยู่ที่การเดินทางของพระเยซูเจ้ากับบรรดาศิษย์ เรื่องนี้ช่วยให้เห็นว่ามีชายหนุ่มร้อนรนคนหนึ่งวิ่งเข้ามาและแสดงความ ปรารถนาจะติดตามพระองค์ เขาต้องการเป็นศิษย์ของพระองค์เช่นอัครสาวกคนอื่น ๆ ด้วย สังเกตจากคำทักทายของเขา “พระอาจารย์ผู้ทรงความดี” (Didaskale agathe/ didaskalos) แต่ในที่สุดเราพบว่าเขาไม่สามารถติดตามพระองค์

o ชายคนหนึ่งรีบเข้ามาคุกเข่าลง การคุกเข่าลงแสดงออกซึ่งการให้ความเคารพ ภาษากรีก “prosdramon” หมายถึงการวิ่งเข้ามาหาและหมอบลงแทบเท้า

o “พระอาจารย์ผู้ทรงความดี” มาระโกเปิดเผยโดยทางอ้อมอาศัยการทักทายของชายหนุ่มคนนั้นว่าพระเยซูเจ้าทรง เป็นพระเจ้า “ทำไมเรียกเราว่าผู้ทรงความดี ไม่มีใครทรงความดีนอกจากพระเจ้าเท่านั้น” 

o ข้าพเจ้าต้องทำอะไรเพื่อจะได้ชีวิตนิรันดร คำถามที่ต้องการคำตอบสำหรับอวสานกาล ชีวิตนิรันดรอันเป็นผลมาจากการเจริญชีวิต และพระเยซูเจ้าเรียกร้องให้พิจารณาพื้นฐานสำคัญคือการถือบัญญัติที่ครบครัน

• พระเยซูเจ้ายืนยันว่า เพื่อได้ชีวิตนิรันดร นั้นต้องถือบัญญัติ..อย่างดี

o อย่าฆ่าคน อย่าล่วงประเวณี อย่าลักขโมย อย่าเป็นพยานเท็จ อย่าฉ้อโกง จงนับถือบิดามารดา (อพย 20:13-16 ฉทบ 5:17-20) 


• คำตอบของหนุ่มคนนั้น ต้องถือว่า น่ารปะทับใจจริงๆ “พระอาจารย์ ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติเหล่านี้ทุกข้อมาตั้งแต่เป็นเด็กแล้ว” 

o เป็นความจริงที่ชายหนุ่มคนนี้มีพื้นฐานตามบัญญัติของพระเจ้า 

o ถืออย่างเคร่งครัดมาตั้งแต่เด็ก และดูเหมือนน่าทึ่งจริงๆ กับความดีของเขาที่ถือบัญญัติ

o ดังนั้นพระเยซูเจ้าทรงตอบรับความครบครันของเขาในการถือบัญญัติ พระวรสารกล่าวว่า “พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเขาด้วยพระทัยเอ็นดู” และตรงนี้เองทำให้เราเห็นลักษณะความอ่อนโยนและสภาพมนุษย์ของพระองค์อีกครั้ง อาศัยสายพระเนตรของพระองค์ตามที่มาระโกเสนอ

o ในภาษาต้นฉบับ ไม่ใช่เพียงการทอดพระเนตรด้วยพระทัยเอ็นดู แต่ภาษาพระวรสารบอกกับเราว่า “พระองค์ทอดพระเนตรเขา ทรงรักเขา”... คำตอบคือ คนที่ถือบัญญัติอย่างดี พระเยซูรัก ทรงรักเขา และพ่อมันใจว่า ทุกคนที่ถือบัญญัติของพระเจ้าอย่างดี พระเยซูเจ้าทรงรักเสมอ อันนี้เราแน่ใจได้จากพระวรสารวันนี้ครับ


• พระเยซูเจ้าทรงท้าทาย และเชิญชวนให้เขาไปไกลกว่าที่เขาเป็นอยู่ คือ เขาดีมาก เขาถือบัญญัติดีมาก... ผลก็คือทรงรักเขาแน่นอน แต่พระองค์เรียกร้อง เชิญชวน เชื้อเชิญให้เขาก้าวตามพระองค์ไป นอกจากชายหนุ่มเศรษฐีคนนี้จะเป็นคนแสนดีน่ารักที่ถือบัญญัติทุกข้อมาตั้งแต่ เด็ก และพระองค์ทรงรักเขา... แต่ทรงเรียกเขาให้ติดตามพระองค์...

o ถ้าจะติดตามพระองค์เช่นศิษย์คนอื่นๆ พระองค์ตรัส “ท่านยังขาดสิ่งหนึ่ง จงไปขายทุกสิ่งที่มี มอบเงินให้คนยากจน และท่านจะมีขุมทรัพย์ในสวรรค์ แล้วจงติดตามเรามาเถิด” 

o แน่นอนที่สุดการเป็นคนบริบูรณ์นั้นเรียกร้องให้ถือบัญญัติก็ถูกต้องแล้ว แต่การที่จะได้รับพระอาณาจักร ซึ่งหมายถึงการเข้ามาเป็นศิษย์ติดตามใกล้ชิดของพระองค์นั้นเรียกร้องการสละ ทุกสิ่ง 

o ซึ่งทำให้เราย้อนกลับไปที่ความคิดเดิมที่สำคัญคือ “เราบอกความจริงกับท่านว่า ผู้ใดไม่รับพระอาณาจักรของพระเจ้าอย่างเด็กเล็ก ๆ เขาจะไม่เข้าสู่พระอาณาจักรนั้นเลย” เงื่อนไขคือ ใจยากจน ซึ่งหมายความว่าพระเยซูเจ้าและการติดตามพระองค์นั้นเรียกร้องวางใจในพระองค์ อย่างครบครัน


• “ชายผู้นั้นหน้าสลดลงเพราะเขามีทรัพย์สมบัติมากมาย จึงจากไปด้วยความทุกข์” 

o พี่น้องที่รักเขาเป็นคนดี ดีมาก ถือบัญญัติดีมากๆ เขาเป็นคนครบครันดี และพระเยซูเจ้าก็เห็นเช่นนั้น 

o แต่ที่เขาต้องจากไป ติดตาม (เป็นศิษย์) พระองค์ไม่ได้ก็จริงๆ ที่ติดตามไม่ได้นั้น ไม่ใช่เพราะเขาไม่ดี แต่เพราะเขาไม่สามารถละจากความมั่นคงและมั่งคั่ง เขาอาจลืมไปว่า พระองค์เท่านั้นคือความมั่นคงของชีวิต

• พี่น้องไม่ต้องตกใจ... เขาร่ำรวย เขาไม่ใช่คนไม่ดีนะครับ เขาดีมากๆ เขาได้สวรรค์แน่นอน.. เพียงแต่เขาไม่ได้ติดตามเป็นศิษย์เหมือนอัครสาวกคนอื่นเพราะเขาไม่ได้ทิ้ง ทุกสิ่งติดตามเป็นศิษย์ พี่น้องไม่ต้องกังวล ไม้ต้องทิ้งทุกสิ่งติดตามพระองค์ไปก็ได้ ไปเป็นฆราวาสที่ดี ร่ำรวยได้เลยแต่ขอให้เป็นคนที่ถือบัญญัติพระเจ้าอย่างดี พระองค์รักแน่นอนครับ...


• หลายคนที่ร่ำรวย เคยบอกพ่อว่า กลัวไม่ได้สวรรค์...ไม่จริง ไม่จริง คนดีที่พระเยซูรัก ถือบัญญัติแบบเศรษฐีหนุ่มคนนี้...พระองค์ประทานสวรรค์แน่นอน... แต่พระวาจานี้เตือนพ่อเอง เตือนพระสงฆ์ เตือนนักบวช สามเณรทั้งหลาย พระสังฆราชด้วย... เราเป็นศิษย์ติดตามพิเศษ ต้องละทิ้งทุกสิ่ง ห้ามสะสมความร่ำรวย เพราะถ้าติดกับสมบัติ ไม่ควรติดตามเป็นศิษย์พระคริสตเจ้าแน่นอนครับ


• “พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรโดยรอบแล้วตรัสกับบรรดาศิษย์” สังเกตการทอดพระเนตรของพระองค์ว่าเป็นอย่างไร “ทอดพระเนตรโดยรอบ” แต่การตรัสของพระองค์นี้เน้นที่บรรดาศิษย์ของพระองค์


• บรรดาศิษย์แปลกใจกับพระวาจานี้ ก็ควรที่จะแปลกใจอย่างแน่นอน เพราะพวกเขามักจะแปลกใจเสมอเมื่อพระวาจาของพระเยซูเจ้านั้นยากที่จะยอมรับ เช่นเรื่องรหัสธรรมปัสกาของพระองค์ และในที่นี้สิ่งที่พระองค์ตรัสนั้นมาระโกเน้นแบบเกินความจริง เพื่อให้น้ำหนักกับภาษาตอนนี้


• “แล้วใครจะรอดได้...พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรบรรดาศิษย์แล้วตรัส” ให้เราดูข้อที่ 24 อีกครั้ง “ลูกเอ๋ยยากจริงหนอ...” 

o คำที่เป็นเนื้อหาส่วนที่สำคัญที่สุด เป็นกุญแจดอกสำคัญเพื่อเข้าใจพระวาจานี้ ภาษากรีกเน้นคำว่า “tekna” (ลูกเอ๋ย) พระเยซูเจ้าทรงทอดพระเนตรพวกเขาและคำเรียกนั้นแสดงให้เห็นว่าสำหรับพวกศิษย์ ของพระองค์นั้น 

o พวกเขาจะสามารถรับพระอาณาจักรสวรรค์ได้แน่นอนถ้าพวกเขารับพระองค์เช่นเด็ก เล็กๆ และดูเหมือนพระองค์จะยอมรับว่าพวกเขารับพระองค์เช่นนั้น อย่างน้อยก็ปรากฏในคำเรียกของพระองค์เอง

• คำสอนวันนี้
o สำหรับพี่น้องสัตบุรุษที่รัก ฆราวาสคริสตชน พี่น้องคนดีของพระเจ้า ลูกๆ คนดีของพระเจ้าครับ พี่น้องไม่ต้องห่วงนะครับ... เข้าสวรรค์ได้สบายเลยครับ แน่นอนเชื่อพ่อได้เลยครับ... คนรวยมากๆ ดีครับ รวยเถอะครับ ทำมาหากินให้ร่ำรวย (เพียงแต่อย่าโกงเด็ดขาด เท่านั้น สัตย์ซื่อ ทำงานดี ร่ำรวย นี่คือความดีครับ) เข้าสวรรค์ได้ครับ และพระองค์ก็รักทุกคนที่ถือบัญญัติอย่าง

o คำสอนวันนี้สำหรับพระสงฆ์ นักบวช พระสงฆ์ใหม่เป็นพิเศษ และสามเณรทั้งหลายครับ... พระองค์เรียกเราทุกคนให้เป็นศิษย์ติดตามพระองค์ เป็นกันแล้ว และพวกเราส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่คนรวย และเราก็ไม่ได้บวชเพื่อรวยนะครับ เราบวชเพื่อกล้าทิ้งทุกอย่างเพื่อติดตามพระองค์ กล้าทิ้งทุกอย่างเพื่อเป็นของพระคริสตเจ้า และรับใช้พระศาสนจักรแบบหมดหัวใจ พ่อเชื่อว่า เราต้องกล้าไม่เพียงละทิ้งทุกสิ่งครับ แต่ก่อนอื่นเราต้องเหมือนเศรษฐีหนุ่มคนนั้นด้วย คือ ถือบัญญัติของพระเจ้าอย่างดี และถืออย่างดีตั้งแต่เด็กเลยนะครับ และพระองค์จะรักเรา และจะเรียกเรา เลือกเราให้ติดตามพระองค์จริงๆ


• ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านเสมอไปครับ... ขอให้เราเป็นคริสตชนที่ดีที่สุด และเป็นนักบวชพระสงฆ์ที่ดีที่สุดเสมอไปนะครับ