แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

“Man of obedient” “บุรุษแห่งความนอบน้อมเชื่อฟัง” พี่น้องที่รัก พระเยซูเจ้าทรงเป็นบุรุษแห่งความนอบน้อมเชื่อฟังจริงๆ ดังนั้น พระองค์จะไม่ทำสิ่งใดที่ขัดกับพระประสงค์ของพระบิดาเจ้าเลย แต่ทว่า พระประสงค์ของพระบิดาเจ้า จะต้องสำเร็จไปในพระองค์

เมื่อวานนี้คำปราศรัยอำลาของพระเยซูเจ้าในพระวรสารนักบุญยอห์น ดูเหมือนเป็นพินัยกรรม หรือคำสั่งเสียต่อบรรดาศิษย์ แต่วันนี้ อีกภาพของความห่วงใยต่อบรรดาศิษย์ก็เกิดขึ้น คือการวอนขอพระบิดาเจ้าเพื่อบรรดาศิษย์ของพระองค์ พระองค์ทรงวอนขอพระสิริรุ่งโรจน์ แต่พี่น้องครับ พี่น้องต้องเข้าใจให้ลึกซึ้งตรงนี้ดีๆ นะครับ พระสิริรุ่งโรจน์ของพระเยซูเจ้า พระสิริรุ่งโรจน์ของพระแมสซิยาห์เยี่ยงพระองค์ พระสิริรุ่งโรจน์ที่บรรดาศิษย์เองบางทีก็ไม่เข้าใจ พระสิริรุ่งโรจน์ที่พระองค์ทรงตรัสและหมายถึง อาจจะตรงกันข้ามกับความคาดหวังของบรรดาศิษย์ เพราะพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์นั้น ไม่ใช่อะไรอื่น นอกจากการนอบน้อมเชื่อฟังต่อ “พระประสงค์ของพระบิดา” และพระประสงค์ของพระบิดานี้เอง คือการให้พระองค์ต้องรับทรมาน สิ้นพระชนม์ และกลับคืนชีพ

พี่น้องที่รัก นักบุญเปาโลในหนังสือกิจการอัครสาวกวันนี้ (กจ 20:17-27) เหมือนท่านกำลังทราบชะตากรรมของท่าน ที่ท่านจะต้องไปตายที่กรุงเยรูซาแลม และท่านก็กำลังแสดงความห่วงใยต่อธรรมมิกชนที่ท่านได้อภิบาลดูแล ซึ่งท่านได้แสดงออกว่า ท่านได้ทำทุกวิถีทางแล้ว ที่จะทำให้พวกเขาทราบพระประสงค์ของพระเจ้า และดำเนินชีวิตตามพระประสงค์นั้น ท่านทำทุกอย่างแม้ว่าจะต้องเสี่ยงภัยต่อการถูกเบียดเบียนและความตายก็ตาม บัดนี้ ท่านได้แสดงความรักความห่วงใยต่อทุกคนที่ท่านปรารถนาให้ความรอดพ้นของพระเจ้ามาสู่พวกเขา ด้วยแบบอย่างแห่งความรักและความอดทนในการเทศน์สอนและให้แบบอย่างที่ดี ซึ่งสุดท้าย ท่านก็จบที่คำว่า “พระประสงค์ของพระเจ้า” และนี่เป็นเรื่องเดียวกับพระเยซูเจ้าวันนี้ในพระวรสาร (ยน 17:1-11) “พระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า” และ “พระประสงค์ของพระเจ้า” ดูจะเป็นเรื่องเดียวกัน วันนี้ พระองค์ทรงภาวนาต่อพระบิดาเพื่อบรรดาศิษย์ เพื่อพวกเขาจะได้เข้าใจพระประสงค์ของพระเจ้า พระสิริรุ่งโรจน์ที่พระองค์กำลังจะเข้าไปรับ และพวกเขาจะต้องได้รับด้วย หากเขาเดินตามหนทางที่พระองค์ทรงเปิดเผย พระสิริรุ่งโรจน์นั้น คือ การทำให้พระประสงค์ของพระเจ้าสำเร็จไปนั่นเอง

พี่น้องที่รัก นี่คือความห่วงใยของพระเยซูเจ้า ที่ทรงแสดงออกถึงความห่วงใยต่อพวกเราทุกคน พระองค์ได้ผ่านโลกนี้ไปแล้ว ผ่านความทุกข์ยาก กลับคืนชีพแล้ว เสด็จสู่สวรรค์ แต่ยังทรงห่วงใยพวกเราที่ยังเดินทางอยู่ในโลกนี้ พี่น้องครับ... ลูกที่ดี วันนี้ ขอให้เราทูนต่อพระเยซูเจ้า ที่เหมือนกำลังห่วงใยเรา ทูนบอกพระองค์เถอะ บอกพระองค์ให้มั่นใจว่า เราจะไม่ทิ้งหนทางของพระองค์ เราจะไม่ทิ้งวิถีชีวิตที่พระองค์ทรงสอน เราจะมั่นคง เรียกว่า ให้พระองค์มีความสุข มั่นใจในวุฒิภาวะในการเป็นคริสตชนของเรา วันนี้ ทูนต่อพระองค์ด้วยชีวิตของเรานะครับว่า เราจะสัตย์ซื่อจนถึงที่สุด ทูนต่อพระองค์นะครับ ว่าเราเข้าใจ เราเข้าใจดีว่า เพื่อจะรับพระสิริรุ่งโรจน์กับพระองค์นั้น จำเป็นต้องผ่านความทุกข์ยากบนโลกนี้ แต่ เราจะมานะบากบั่นทุกทาง อาศัยความช่วยเหลือขององค์พระจิตเจ้า พละกำลังของพระเจ้าที่พระองค์จะทรงประทานให้ ชีวิตคริสตชนของเราจะรุ่งโรจน์ตั้งแต่อยู่ในโลกนี้แล้ว เพราะพระประสงค์ของพระเจ้า คือความชื่นชมยินดีในหัวใจและจิตวิญญาณของเรา และจะชักนำเราให้มีกำลังเข้มแข็ง มั่นคงในความเชื่อของเรา จนกว่าเราจะพบกับพระองค์ในพระอาณาจักรของพระองค์... พี่น้องครับ “ในโลกนี้ ท่านจะประสบความทุกข์ยาก แต่อย่าท้อใจ เราชนะโลกแล้ว” สู้ๆ นะครับ มั่นคงในความเชื่อ สัตย์ซื่อบนหนทางนี้ตลอดไปนะครับ ให้เราภาวนาและประคับประคองความเชื่อของกันและกัน

ขอพระเจ้าทรงอวยพระพรและประทานสันติสุข

(ขอขอบคุณ : Francis Xavier, ofm.)