แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

ฉลองนักบุญมัทธีอัส อัครสาวก
พี่น้องที่รัก คริสตชนแต่ละคนได้ชื่อว่าเป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้าทั้งนั้น เราแต่ละคนเดินตามพระเยซูเจ้า วันนี้ พระศาสนจักร ฉลองนักบุญมัทธีอัส อัครสาวก ท่านเป็นอัครสาวกองค์ที่ 12 ที่ถูกเลือกขึ้นมาแทนยูดาส พี่น้องที่รัก เลข 12 นี้ จำเป็นต้องครบ จำเป็นต้องเป็น 12 เพื่อสอดคล้องกับความหมายของประชากรใหม่ของพระเจ้า และไปล้อกันกับ 12 เผ่าของอิสราแอล ซึ่งหมายความว่า ผู้ที่พระเจ้าจะทรงช่วยให้รอดพ้นนั้น มาจากทุกเผ่า ทุกชาติ ทุกภาษา และความรอดพ้นที่พระเจ้าประทานนั้น จะแผ่ขยายไปทั่วแผ่นดิน

พี่น้องที่รัก พระวรสารวันนี้เป็นตอนที่เราได้ยินอย่าน้อยสองครั้งมาแล้วในช่วงเทศกาลปาสกานี้ “ท่านทั้งหลายจงรักกันและกัน อย่างที่เรารักท่าน” (อ่านพระวรสารวันนี้ ยน 15:9-17 ) แต่มาวันนี้ เมื่อนำมาอ่านร่วมกับหนังสือกิจการอัครสาวกในบทอ่านที่หนึ่ง ผมพบความหมายที่ลึกซึ้งและน่ารักมาก นั่นก็คือ การเลือกบรรดาอัครสาวกองค์ที่12 นี้เอง เปโตรได้ประกาศว่า จำเป็นเหลือเกินที่ “ในบรรดาคนทั้งหลายซึ่งอยู่กับเราตลอดเวลาที่พระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงดำเนินชีวิตอยู่กับเรา เริ่มตั้งแต่พิธีล้างของยอห์นจนถึงวันที่พระองค์เสด็จสู่สวรรค์นั้น จำเป็นที่คนหนึ่งจะต้องเป็นพยานร่วมกับเราถึงการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์” (เทียบบทอ่านที่หนึ่งวันนี้ กจ 1:15-17,20-26)

พี่น้องที่รัก ผมได้แบ่งปันข้อคิดจากพระวาจาของพระเจ้าตอนนี้ไปแล้ว 2 ครั้งในระหว่างเทศกาลปาสกานี้ แต่วันนี้ เมื่อต้องมาแบ่งปันอีกครั้ง น่าจะเป็นเรื่องเดิม แต่พอมาเจอหนังสือกิจการอัครสาวกตอนนี้ โอ้ พระเจ้า... ต้องบอก ชัด ชัดมากๆ ชัดยิ่งกว่าจัด จำเป็นจริงๆ... ว่า เราคริสตชน ผู้ที่ได้ชื่อว่า เป็นศิษย์ติดตามพระเยซูเจ้า เราต้องรักกันและกัน อย่างที่พระองค์ทรงรักเรา นั่นหมายความว่า จำเป็นเหลือเกิน ที่เราจำเป็นต้องมีประสบการณ์รักกับพระเยซูเจ้า พระองค์ทรงรักเราอย่างไร ทรงอดทนเราอย่างไร ทรงเข้าใจความรู้สึกของเราอย่างไร ทรงพร้อมที่จะให้อภัยเราอย่างไร พระองค์ทรงรักเราอย่างไร เรามีประสบการณ์กับพระองค์ใช่ไหม นั่นแหละ ผมขอจบสั้นๆ วันนี้เลยนะครับว่า นั่นแหละ เราต้องรักกันและกันอย่างนั้น ผู้ที่จะเป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้า จะเป็นพยานถึงพระองค์ได้ เราต้องรักกันและกันอย่างนั้นครับ ... จากนี้ พี่น้องลองนั่งมองกางเขน และรำพึงต่อไปเองนะครับ... ผมจะเก็บกางเขน เครื่องหมายแห่งรักของพระเยซูเจ้าไปตลอดการเดินทางของผมในวันเหล่านี้ด้วยครับ เพราะพันธกิจของคริสตชน คือรัก รักอย่างที่พระเยซูรักเรา และนั่นแหละเป็นข่าวดีที่สุด สำหรับโลก ที่ผมคิดว่ากำลังขาดความรัก จึงทำให้มีการช่อโกง เบียดเบียนกันมากเหลือเกิน เพราะความรักยังไม่พอ เราต้องรัก รัก รักมากๆ รักจนหมดตัวหมดใจ แบบพระโลหิตและน้ำที่ไหลรินจนหมดพระวรกายของพระเยซูบนไม้กางเขนนะครับ.

ขอพระเจ้าทรงอวยพระพรและประทานสันติสุข

(ขอขอบคุณ : Francis Xavier, ofm.)