แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

ยน 15:9-11…
9พระบิดาของเราทรงรักเราอย่างไร
เราก็รักท่านทั้งหลายอย่างนั้น
จงดำรงอยู่ในความรักของเราเถิด
10ถ้าท่านปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา
ท่านก็จะดำรงอยู่ในความรักของเรา
เหมือนกับที่เราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระบิดาของเรา
และดำรงอยู่ในความรักของพระองค์
11เราบอกเรื่องเหล่านี้แก่ท่านทั้งหลายแล้ว
เพื่อให้ความยินดีของเราอยู่กับท่าน
และความยินดีของท่านจะสมบูรณ์


อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• “ท่านทั้งหลายจงดำรงอยู่ในเรา....” คำสำคัญ “ดำรงอยู่ใน” เมื่อพ่อนำเสนอพระวรสารตอนนี้ แล้วก็มีคำถามต่อมาจริงๆ มีพี่น้องถามพ่อว่า “ดำรงอยู่ในหมายความว่าอย่างไร” การสวดภาวนา การไปวัด การจำศีล สวดสายประคำ เรียกว่า เป็นการ “ดำรงอยู่ในพระเจ้านั้นพอไหม” แล้วก็มีคำถามเช่นนี้ครับ... คำถามนี้เป็นโอกาสดีครับที่จะทำให้พ่อได้เขียนบทเทศน์ต่อไป เพราะยอห์นบทที่ 15 กล่าวถึง กิ่งองุ่นที่ต้องติดกับลำต้น ต้องเป็นกิ่งแท้ ต้องไม่ใช้กิ่งกาฝาก พ่อกล่าวถึงเมื่อวานนี้แล้ว... สำคัญที่เราต้องมีชีวิตพระเจ้าในชีวิตของเรา เราต้องมีพลังของพระเจ้าไหลเวียนอยู่ในชีวิตของเรา... เป็นคำที่พ่อใช้บ่อยคือ “มีชีวิตพระในชีวิตเรา”

• ครับ มีคำถามพ่อจริงๆว่า มีกิจศรัทธาต่างๆพอไหมที่จะกล่าวได้ว่า มีพระเจ้าในชีวิตเรา... ไม่แปลกครับ... พ่อเคยมีประสบการณ์เสมอที่มีลูกพระที่น่ารักที่เป็นห่วงชีวิตคริสตชนของตน เพราะเราต้องไปวัดไปฉลองวันพระเจ้า

o มีคนถามพ่อว่า “พ่อค่ะ จะต้องเดินทางไปต่างประเทศ ไปกับครอบครัว หรือไปเรือสำราญกับครอบครัว หรือไปพักผ่อนกับครอบครัว และต้องผ่านวันอาทิตย์ ไม่อยากขาดวัดวันอาทิตย์.... ไม่อยากขาดมิสซา เพราะไปมาตลอด... พ่อจะทำอย่างไร จะบาปไหม ไม่อยากไปเลยเพราะต้องขาดวัด” พ่อตอบทันทีครับ

o “ไปเลยลูก ไปเลย ไม่ต้องห่วงพระเจ้าในวันอาทิตย์นั้นๆที่ลูกจะไม่อยู่ ไปกับครอบครัว ไปมีความสุขกับครอบครัว หรือไปทำงานที่จำเป็นเพื่อครอบครัว และบังเอิญต้องเป็นวันอาทิตย์... ไปเถอะครับ พ่อเชื่อว่า ถ้าพระเจ้าพระบิดาอยู่ที่นี่ ได้ยินลูกขอร้อง ขอไปเที่ยววันอาทิตย์กับครอบครัว... พ่อเชื่อว่า พระเจ้าพระบิดาจะตรัสแบบพ่อว่า “ไปเถอะลูก พ่อดีใจ และรู้นะ เราไปกับลูกด้วย”...

o พี่น้องที่รัก ไปเถอะครับ ถ้าจำเป็นไปกับครอบครัว นานๆมีโอกาสที ไม่ต้องกังวลใดๆทั้งสิ้นไปเถอะ... เป็นคริสตชนแบบผู้ใหญ่ครับ.. เข้าใจความรักของพระเจ้า มีชีวิตของพระเจ้าในชีวิตเรา “ดำรงอยู่ในพระองค์และพระองค์อยู่ในเรา แม้ในยามที่เราอาจไปวัดไม่ได้” ถ้าเราไปได้ เราก็ไปเสมอเพื่อทำหน้าที่ลูกที่ดีของพระเจ้า และพี่น้องที่ดีกับทุกคนจริงๆ

• เมื่อมีคนถามพ่อว่า “ดำรงอยู่ในพระองค์ขนาดไหนจึงจะพอ ภาวนา มิสซา แก้บาป สวดสายประคำ ฯลฯ” พ่อมีคำตอบครับ... จากพระวรสารวันนี้เลย ตรงประเด็นที่สุด เจ๋งที่สุดแล้ว พระเยซูเจ้าตรัสแสนงดงาม พระวาจาที่ตรงไปตรงมาจริงๆ พระวาจาวันนี้เลย

o “พระบิดาของเราทรงรักเราอย่างไร เราก็รักท่านทั้งหลายอย่างนั้น

o จงดำรงอยู่ในความรักของเราเถิด ถ้าท่านปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา ท่านก็จะดำรงอยู่ในความรักของเรา เหมือนกับที่เราปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระบิดาของเรา และดำรงอยู่ในความรักของพระองค์”


• ดำรงอยู่ในพระเจ้า คือ “ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์” ไม่ต้องสงสัยอะไรอีกแล้ว การดำรงอยู่ในพระเจ้า ไม่ใช่พิธีกรรมเท่านั้น ไม่ใช่สายประคำ หรือกิจศรัทธาอื่นๆ ไม่มีอะไรสำคัญกว่า การ “ปฏิบัติพระบัญญัติของพระองค์” คือ “บัญญัติแห่งความรัก” 

o รักพระเจ้าสุดดวงใจ

o รักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเองจริงๆ 

o รัก รัก รัก มีแต่รักเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์เท่านั้น ที่ยืนยันว่าเรารักพระเจ้า และมีแต่รักพระเจ้าสุดดวงใจเท่านั้น...ที่ยืนยันว่าความรักของเราต่อเพื่อน พี่น้องนั้นเป็นความรักที่แท้จริงและเป็นความรักเมตตาอย่างมีเหตุผลมาก ที่สุด....

• การเดินทางไปพักผ่อนที่จำเป็นต้องขาดวัด... เรื่องเล็กเลย เพราะเป็นโอกาสรักครอบครัวมากกว่าปกติ รักมากเป็นพิเศษ แต่ไม่ใช่อ้างๆ และก็ไปโดยตั้งใจทิ้งวัดวันอาทิตย์ เพราะพ่อรู้ว่า คนที่ปรึกษาพ่อเขารักพระเจ้าเสมอจริงๆ เป็นคริสตชนที่ดีมากๆ เป็นผู้ใหญ่มากๆ ในความเชื่อ พ่อจึงกล้าเสริมกำลังเขาให้ไปได้เลย ไม่ต้องกังวลใดๆเลย ไปเถอะครับ...


• พี่น้องที่รัก ถึงเวลาที่เราต้องดำรงอยู่ในพระเจ้าอย่างเป็นผู้ใหญ่ในความเชื่อครับ....

o พระวาจา ศีลมาหสนิท และการภาวนา คือหัวใจของชีวิตภายในของเราที่ดำรงอยู่ในพะเจ้า... อาศัยการรักการอ่านศึกษาและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ปฏิบัติตามพระวาจา หรือพระบัญญัติ” เราดำรงอยู่ในพระองค์... กิจศรัทธาอื่นๆ ล้วนส่งเสริมชีวิตเรากับพระเจ้าครับ... การสวดสายประคำ การเดินรูป การภาวนาพระเมตตา หรืออะไรก็ตาม ล้วนแล้วแต่ต้องมุ่งไปเสริมกำลังความเชื่อศรัทธาในพระวาจาของพระเจ้าครับ... มุ่งไปเสริมความเชื่อในศีลมหาสนิท... อย่างนี้ใช่เลย กิจศรัทธาไม่ได้เป็นหลัก แต่ชีวิตพระเจ้าที่เปิดเผยแก่เราโดยพระวาจาและศีลมหาสนิทเป็นหลัก...จริงๆ ครับ

o กิจศรัทธาต้องไม่เป็นหลักครับ แต่เป็นเครื่องเสริมกำลังความเชื่อในพระวาจาและในศีลมหาสนิทเสมอครับ... ทุกอย่างล้วนมีค่าเสมอเมื่อมีเป้าหมายและรากฐานอยู่ที่ “พระวาจาของพระเจ้าและศีลมหาสนิทในการบูชาขอบพระคุณโดยเฉพาะ”

o เปรียบเทียบ พระวาจา ศีลมหาสนิท... คือ อาหารจานหลัก เมนคอร์สครับ... ส่วนกิจศรัทธาอื่นๆทั้งส่วนตัวและส่วนรวมล้วนเป็นอาหารหวานที่สวยงาม... แต่เด็กๆชอบของหวานครับ ไม่ยอมรับประทานเมนคอร์สที่เตรียมไว้อย่างดี.. พ่อสมัยเป็นเด็ก ถ้าเริ่มมื้ออาหารที่ขนมละก็จาแม่ตีมือทันที.. (จริงๆบ้านพ่อสมัยพ่อเป็นเด็กไม่ค่อยเคยได้มีขนมหลานหลังอาหารเท่าไรหรอก ครับ) แต่ถ้าเริ่มผิด จะโดนดุเสมอว่า “กินแต่ขนมไม่รู้จักกินข้าว” พ่อก็จะโกรธครับ... ก็ชอบขนมนี่นา.. แต่จาแม่รู้ว่า ลูกต้องรับประทานข้าวและอาหารจานหลักครับ....

o ดังนั้น พ่อบอกตรงๆ คนที่รู้คุณค่าของเมนคอร์ส จานหลัก จะรู้ว่า อาหารหวานจบท้ายนั้น แสนดีและมีค่ามาก มันทำให้อาหารจานหลักที่สุดยอดจบลงด้วยอย่างดี แต่ แต่ แต่ มีเด็กๆจำนวนมาก วิ่งหาขนมหาน ไอสครีม หรือขนมหน้าตาสวยน่ารัก วิ่งวนรอบไม่ปล่อยเลย ก็เลยขาดโอกาสขาดอาหารหลักไป อาหารหลักที่จำเป็น.....

• พี่น้องที่รักครับ... อาหารหลักของเรา หล่อเลี้ยงชีวิตเรา ทำให้เราดำรงอยู่ในพระองค์ และพระองค์ดำรงอยู่ในเรา.. คือ “พระวาจาของพระเจ้า และพระกายและพระโลหิตของพระองค์” ตรงนี้มั่นใจได้เลยครับ.....และเชื่อพ่อได้เลย คนที่รักพระวาจาของพระเจ้า และรับพระกายย่อมมีพลังยิ่งใหญ่ที่จะ “ปฏิบัติ” ตามพระองค์ เหมือนที่พระองค์ปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระบิดาของพระองค์... ถ้าได้รับอาหารจานหลักแล้ว ขนมหวานไม่ทานบ้างก็ได้ครับ... ไม่เป็นไรเลย... และถ้ารับประทานอาหารหลักครบเสมอ แข็งแรงฝ่ายกายใจ บางมื้อจำเป็นต้องขาดไปบ้าง ไม่ตายครับ.. จำเป็นก็อดได้... ถ้าอดเพื่อรักมากขึ้น สบายมาก พ่อแม่อดได้หลายมื้อเพื่อให้ลูกได้มีกิน... ไม่มีปัญหาเลยครับ... ถ้าอดบ้างเพื่อแบ่งปันให้คนที่ขาดจริงๆ ด้วยรักเมตตา สบายมากครับ อิ่มใจ และอยู่ได้อย่างสบาย...


• พี่น้องเข้าใจภาษาเปรียบเทียบของพ่อนะครับ เป็นคริสตชนที่เป็นผู้ใหญ่จริงๆ ก็ง่ายสบายมากครับ การเป็นคริสตชนที่แท้จริง ไม่เครียดครับ ไม่กังวลครับ สบาย เป็นลูกพระสบายมากครับ... ขอให้มีความสุข เป็นผู้ใหญ่ในความเชื่อ และ “ดำรงอยู่ในพระองค์” โดย “ปฏิบัติตามบัญญัติแห่งความรักเมตตา” ดังเช่นพระองค์นะครับ พระเจ้าอวยพรครับ