แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

วันพฤหัสบดี สัปดาห์ที่ 30 เทศกาลธรรมดา

พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกา (ลก 13:31-35)                                    

เวลานั้น ชาวฟาริสีบางคนเข้ามาทูลพระเยซูเจ้าว่า “ท่านจงเดินทางออกไปจากที่นี่เถิด เพราะกษัตริย์      เฮโรดต้องการจะฆ่าท่าน” พระองค์ตรัสตอบว่า “จงไปบอกเจ้าสุนัขจิ้งจอกตัวนั้นว่าเราขับไล่ปีศาจและรักษาโรค วันที่สาม เราจะบรรลุถึงเป้าหมาย แต่วันนี้ พรุ่งนี้ และมะรืนนี้ เราจะต้องเดินทางต่อไป เพราะประกาศกจะตายนอกกรุงเยรูซาเล็มไม่ได้” “เยรูซาเล็มเอ๋ย เยรูซาเล็ม เจ้าฆ่าประกาศก เอาหินทุ่มผู้ที่พระเจ้าทรงส่งมาหาเจ้า กี่ครั้งกี่หนแล้วที่เราต้องการรวบรวมบุตรของเจ้าเหมือนดังแม่ไก่รวบรวมลูกไว้ใต้ปีก แต่เจ้าไม่ต้องการ บัดนี้ บ้านของท่านทั้งหลายจะต้องถูกทิ้งร้าง เราบอกท่านทั้งหลายว่า ท่านจะไม่เห็นเราอีกจนถึงเวลาที่ท่านจะกล่าวว่า ‘ขอถวายพระพรแด่ผู้ที่มาในพระนามองค์พระผู้เป็นเจ้า’”


ลก 13:31-35 บ่อยครั้งพระคริสตเจ้าทรงวิพากษ์วิจารณ์ชาวฟาริสีเพียงเพื่อแก้ไขความมืดบอดของพวกเขาให้ไปสู่ความอ่อนน้อมถ่อมตนและกิจเมตตาเท่านั้น อันที่จริงพระองค์ทรงรู้สึกดีต่อบางคนในกลุ่มนี้เสียด้วยซ้ำ ระหว่างทางไปยังกรุงเยรูซาเล็ม พระองค์ทรงคร่ำครวญถึงความพลาดพลั้งของชาวเมืองในการยอมรับบรรดาประกาศกและรับข่าวสารแห่งความรอดพ้นของพระองค์ พระองค์ทรงทราบว่าในตอนแรกกลุ่มชนผู้จาริกจะให้การต้อนรับพระองค์อย่างกระตือรือร้น แต่ในที่สุดพลังที่นำความตายมาสู่พระองค์ก็จะชนะอย่างแน่นอน

พระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นไปกรุงเยรูซาเล็ม

CCC ข้อ 557 “เวลาที่พระเยซูเจ้าจะต้องทรงจากโลกนี้ไปใกล้เข้ามาแล้ว พระองค์ทรงตั้งพระทัยแน่วแน่จะเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็ม” (ลก 9:51) การตัดสินพระทัยเช่นนี้แสดงว่าทรงพร้อมจะเสด็จขึ้นไปกรุงเยรูซาเล็มเพื่อสิ้นพระชนม์ที่นั่น พระองค์ทรงแจ้งเรื่องพระทรมานและการกลับคืนพระชนมชีพถึงสามครั้ง ขณะที่กำลังทรงพระดำเนินไปยังกรุงเยรูซาเล็ม พระองค์ตรัสว่า “ประกาศกจะตายนอกกรุงเยรูซาเล็มไม่ได้” (ลก 13:33)

พระเยซูเจ้าและอิสราเอล

CCC ข้อ 575 การกระทำและพระวาจาในหลายกรณีจึงเป็น “เครื่องหมายแห่งการต่อต้าน” สำหรับผู้นำทางศาสนาที่กรุงเยรูซาเล็ม ซึ่งพระวรสารของยอห์นเรียกบ่อยๆ ว่า “ชาวยิว” มากกว่าสำหรับสามัญชนประชากรของพระเจ้าโดยทั่วไป โดยแท้จริงแล้ว ความสัมพันธ์ของพระองค์กับชาวฟาริสีมิได้มีแต่ความขัดแย้งกันเสมอไปเท่านั้น ชาวฟาริสีบางคนทูลเตือนพระองค์ถึงอันตรายที่พระองค์กำลังจะต้องเผชิญ พระองค์ทรงกล่าวชมพวกเขาบางคน เช่นธรรมาจารย์ที่ มก 12:34 กล่าวถึง และหลายครั้งทรงรับเชิญไปเสวยพระกระยาหารที่บ้านของชาวฟาริสี พระองค์ทรงยืนยันคำสอนที่กลุ่มศาสนาพิเศษในประชากรของพระเจ้ากลุ่มนี้ยอมรับเป็นคำสอนของตน เช่นคำสอนเรื่องการกลับคืนชีพของผู้ตาย  รูปแบบต่างๆ เพื่อแสดงความเลื่อมใสศรัทธา (การให้ทานการอธิษฐานภาวนาและการจำศีลอดอาหาร) และธรรมเนียมเรียกพระเจ้าเป็นพระบิดาและกำหนดว่าความรักต่อพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์เป็นบทบัญญัติสำคัญที่สุด

พระเยซูเจ้าและพระวิหาร

CCC ข้อ 585 ถึงกระนั้น ก่อนที่จะทรงรับทรมาน พระเยซูเจ้าทรงทำนายไว้ว่าอาคารสง่างามนี้จะต้องถูกทำลาย จะไม่มีก้อนหินเหลือซ้อนกันอยู่เลย ณ ที่นี้ พระองค์ทรงแจ้งเครื่องหมายของช่วงเวลาสุดท้ายที่กำลังจะเริ่มขึ้นพร้อมกับปัสกาของพระองค์ แต่คำพยากรณ์นี้จะถูกพยานเท็จบิดเบือนความหมายนำไปใช้ปรักปรำพระองค์ในการพิจารณาคดีต่อหน้ามหาสมณะ และยังถูกใช้เป็นคำสบประมาทพระองค์ขณะที่ทรงถูกตรึงบนไม้กางเขนด้วย

(จากหนังสือ THE DIDACHE BIBLE with commentaries based on the Catechism of the Catholic Church, Ignatius Bible Edition)