แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

2fa8b4778cdef02315d40d5d42a2ef78พระบัญญัติประการแรก
     จงนมัสการพระเจ้าผู้เดียวของเจ้า ดังที่ได้กล่าวแล้วในพระบัญญัตินั้นเราต้องเข้าใจ 2 อย่าง พระบัญญัตินั้นแนะนำให้เราทำอะไรและห้ามทำอะไร พระบัญญัติแรกนั้นให้เรารู้ว่าพระเจ้าต้องการให้มนุษย์นมัสการพระองค์ คือรักพระองค์ด้วยสิ้นสุดจิตใจและเหนือสรรพสิ่ง ดังนั้น อันดับแรกพระองค์ต้องการให้เราพยายามสุดกำลังที่จะรู้จักพระองค์อย่างถูกต้อง เพราะถ้าไม่รู้จักจะรักและนมัสการพระองค์ไม่ได้ จากนี้เห็นได้ชัดว่าคนที่พูดว่าฉันพยายามเป็นคนดีแต่ไม่ยอมถือศาสนาอะไรหรือไม่ยอมเกี่ยวข้องกับพระเจ้าเลย คนแบบนี้เท่ากับได้สารภาพแล้วว่าตนเองเป็นคนที่ไม่ดีเพราะไม่ยอมทำแม้แต่หน้าที่แรกของมนุษย์ สิ่งที่พระเจ้าต้องการให้มนุษย์ทำเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ในพระบัญญัติประการแรกนี้พระเจ้าแสดงให้เห็นว่าพระองค์ต้องการให้มนุษย์สนใจในการรู้จักพระมากที่สุดมากกว่าสิ่งของในโลก และพยายามรู้จักพระองค์โดยอาศัยสรรพสิ่งที่อยู่แวดล้อมเราในโลก เราต้องมีความเคารพนับถือพระเจ้าและรักพระองค์ สิ่งเหล่านี้มาจากความรู้เท่านั้น ดังนั้นทุกคนต้องศึกษาตามความสามารถเกี่ยวกับพระเจ้าและศาสนา สำหรับคนที่เป็นคริสตชนแล้วแน่ใจได้ว่าความรู้เกี่ยวกับพระเจ้าในศาสนาของตนเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ไม่ผิดพลาดเพราะมาจากพระเจ้าเอง หน้าที่ที่จะต้องศึกษาเกี่ยวกับพระเจ้าง่ายกว่าก็คือการศึกษาคำสอนของพระ ศาสนจักร นอกนั้นพยายามมีใจที่จะฟังเสียงพระองค์ ผู้ซึ่งบ่อยครั้งทรงพูดในใจของมนุษย์และให้มนุษย์รู้จักพระองค์ด้วยวิธีเหนือธรรมชาติ เห็นได้ชัดว่าหน้าที่เรียนคำสอนและศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับพระเจ้าโดยทุกวิถีทางนั้น เป็นหน้าที่แรกของมนุษย์ สำคัญกว่าเรียนหนังสือและรู้จักวิชาอื่นๆ ในคำสอนเล่มแรกได้อธิบายแล้วว่าพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์มาเพื่อรู้จักรักและปรนนิบัติพระองค์ จึงจะได้บรรลุถึงบรมสุขกับพระองค์ในอาณาจักรพระเจ้า ดังนั้นพระบัญญัติแรกนี้ต้องการช่วยให้มนุษย์ไปสู่เป้าหมายแห่งชีวิตของตน โดยให้รู้จักรักและปรนนิบัติพระองค์

     ในโลกปัจจุบันนี้มนุษย์เราไม่สามารถมองเห็นเป้าหมายของชีวิตได้อย่างชัดเจน มีหลายคนคิดว่าคนใหญ่โตที่ประสบความสำเร็จในชีวิต คือคนที่มีชื่อเสียง เก่ง เป็นใหญ่ในการปกครองบ้านเมืองหรือเป็นนักวิทยาศาสตร์ นักประดิษฐ์ หรืออะไรต่างๆเช่นนี้ เราคริสตชนยอมรับว่าสิ่งเหล่านี้เป็นความสำเร็จที่มีความสำคัญเหมือนกัน แต่ตามเป้าหมายของชีวิตมนุษย์คนที่ได้รับความสำเร็จอย่างดีที่สุดคือผู้ที่รู้จักพระอย่างดีที่สุดและรักพระมากที่สุดต่างหาก นั้นคือเหตุที่พระศาสนจักรเสนอให้เคารพนับถือมนุษย์ผู้สำเร็จในชีวิตโดยแสดงความรักสูงสุดต่อพระเจ้าคือผู้ที่เป็นนักบุญ พระบัญญัติประการแรกนี้เหมือนกับพระบัญญัติประการอื่นๆ ถือตามได้ โดยอาศัยความช่วยเหลือจากพระเจ้า ซึ่งพระเจ้าประทานให้อย่างแน่นอนแก่คนที่แสวงหาโดยซื่อสัตย์ ซื่อตรง
     อันดับแรกตามบัญญัตินี้เราต้องรู้จักและเชื่อในพระองค์ รู้จักเชื่อแล้วก็จะรักเพราะพระเจ้าไม่เหมือนเรามนุษย์ พระเจ้าเป็นผู้ที่ดีที่สุด สวยที่สุด และมีความดีทุกประการ ดังนั้นยิ่งรู้จักยิ่งรัก (สำหรับมนุษย์บางคน การที่เราได้รู้จักคนใดคนหนึ่งอย่างดี ทำให้เรารักเขายากมากเพราะเขามีความดีน้อย หรือบางครั้งเขานิสัยไม่ดีมาก) ในเมื่อเรารู้จักพระเจ้าเที่ยงแท้แล้ว เราจะไม่นมัสการพระองค์ก็ไม่ได้หรือเราจะไปเคารพนับถือสิ่งของหรือผีปีศาจซึ่งเป็นศัตรูของพระเจ้าก็เป็นไปไม่ได้เช่นกัน เราควรจะเข้าใจได้แล้วว่าการที่ไม่เคารพนับถือพระเจ้าที่เรารู้จัก และการที่ไปนมัสการพระเท็จเทียมก็ผิดหนัก พระบัญญัติประการนี้ให้เรามนุษย์รู้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุด คือให้รู้จักและรักพระเจ้า เพื่อที่จะช่วยในเรื่องรู้จักและรักพระเจ้านั้นพระเจ้าเองก็มาเป็นมนุษย์ คือพระเยซูคริสตเจ้าได้บังเกิดเป็นมนุษย์
     ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดที่มนุษย์ไม่ยอมรับพระเยซูเจ้านั้น มาจากความเข้าใจว่า เนื่องด้วยพระเยซูเจ้าเป็นชาวอิสราเอล พระเยซูเจ้ามาสำหรับชาวอิสราเอลเท่านั้นและผู้ที่เข้าใจผิดก็คือชาวอิสราเอลนั้นเอง ซึ่งในสมัยแรกเริ่มของพระคริสตศาสนา ชาวอิสราเอลที่เข้าเป็นคริสต์ ได้เริ่มสอนว่า เพื่อที่อนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาป็นคริสต์ จำเป็นต้องให้พวกเขาเข้ามาเป็นสมาชิกของชาวอิสราเอล โดยต้องเข้าพิธีสุหนัต และนักบุญเปาโลอัครสาวกต้องสู้แนวคิดนี้เต็มกำลังเพื่อจะให้โลกทั้งโลกเข้าใจได้ว่า พระเยซูเจ้ามาสำหรับมนุษย์โลกไม่ใช่สำหรับชาวอิสราเอลเท่นั้น และเป็นอาณาจักรของพระเยซูเจ้าไม่มีการแบ่งแยกระหว่างชาติต่างๆ แต่มนุษย์ทุกคนสามารถกลับเป็นบุตรบุญธรรมของพระเจ้า มารปีศาจไม่ต้องการให้การแพร่ของพระอาณาจักรของพระเยซูเจ้าในโลกมนุษย์ ดังนั้นได้พยายามสนับสนุนแนวคิดและการแพร่หลายของลักษณะความคิดที่ว่า ถ้าชาติหนึ่งมีศาสนาของตน การยอมรับศาสนาของพระเยซูเจ้าเป็นการสละสิทธิ์ที่จะมีศาสนาของตนและเป็นการเสียเกียรติของชาติ ต้องเข้าใจว่าศาสนาก็เป็นศาสนาของพระเจ้าไม่ใช่ศาสนาของมนุษย์ และพระเจ้าเป็นผู้ประทานชีวิตแก่มนุษย์ ทุกชาติทุกภาษามีพระเจ้าเป็นพระบิดาเหมือนกัน

ที่มา: หนังสือความสว่างที่แท้จริง ซึ่งนำไปสู่ความรอด เล่ม 3