แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

พระเจ้า:พระผู้สร้างที่น่ารักของเรา
Optimized 43ในบทข้าพเจ้าเชื่อ(the Creed) เรายืนยันความเชื่อในพระเจ้าหนึ่งเดียว, พระบิดา, พระผู้ทรงสรรพานุภาพ, พระผู้สร้าง   พระคัมภีร์ไบเบิลเปิดเผยว่าลักษณะแท้จริงจริงๆของพระเจ้าคือ ความรัก  พระเจ้าทรงขอให้เราตอบแทนด้วยรัก อันเป็นวิถีทางไปสู่ความสุข

พระเจ้าทรงเปิดเผยสิ่งใด? CCC 105-107; 121-123; 134-138
    วิธีการสำคัญที่เป็นการฟังพระเจ้าคือ การอ่านและการไตร่ตรองพระคัมภีร์ไบเบิล  ชาวคาทอลิกเชื่อว่าข้อเขียนในพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่ เป็นการบอกเล่าของพระเจ้าเองด้วยถ้อยคำของมนุษย์  ดังต่อไปนี้
อาศัยถ้อยคำที่มีอยู่ทั้งหมดในพระคัมภีร์นั้น พระเจ้าตรัสเพียงพระวาจาเดียว โดยพระวจนะหนึ่งเดียวของพระองค์ภายในบุคคลที่พระองค์ทรงแสดงพระองค์เองอย่างสมบูรณ์
                                             -หนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก, 102

    คำว่า  The Bible ซึ่งความหมายตามตัวอักษรก็คือ “the book” หรือ “หนังสือ” เป็นสิ่งที่เข้าใจกันอย่างถูกต้องมากกว่านั้นในฐานะหนังสือชุดหนึ่ง  หนังสือชุดนี้ประกอบด้วยวรรณกรรมหลายประเภทเช่น บทกวี, ประวัติศาสตร์, นิทานปรัมปรา หรือเรื่องเล่าเกี่ยวกับศาสนา, เพลงสรรเสริญ และสุภาษิต  เราเชื่อว่าหนังสือทั้งหมดในพระคัมภีร์ไบเบิลได้รับการดลใจจากพระเจ้า นั่นหมายความว่า ผู้เขียนหนังสือทั้งหลายในพระคัมภีร์ไบเบิลบันทึกสิ่งที่พระเจ้าทรงประสงค์จะบอกเล่า
    คาทอลิกยอมรับหนังสือ 46 เล่มในพันธสัญญาเดิม  หนังสือเหล่านี้ที่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการประกอบด้วย รายการหนังสือที่ไม่เปลี่ยนแปลง(the Canon)ในพันธสัญญาเดิม ประเด็นต่อไปนี้สรุปรวมความจริงที่จำเป็นบางประการเกี่ยวกับพระเจ้าซึ่งหนังสือเหล่านี้เปิดเผย
มีพระเจ้าเพียงหนึ่งเดียว  CCC 199-204; 210-211
    เมื่อพระเจ้าทรงเลือกเปิดเผยพระองค์เองกับมนุษย์  พระองค์ทรงเริ่มกับอับราฮัมผู้ที่จะมีลูกหลานเป็นชาวอิสราเอล  พวกอิสราเอลจึงได้เรียกตัวเองว่า “ผู้ที่พระเจ้าทรงเลือก”   ประวัติศาสตร์ของพวกเขาเป็นพันธสัญญากับพระเจ้า เพราะพวกเขาอธิบายความหมายของคำเรียกนี้อย่างชัดเจนหลังจากไตร่ตรองพันธสัญญาที่จริงจังซึ่งพระเจ้าทรงกระทำกับพวกเขา  เพื่อตอบแทนพระพรยิ่งใหญ่และความซื่อสัตย์มั่นคงของพระเจ้า ชาวอิสราเอล(ประชากรชาวยิว)จึงต้องเชื่อฟังกฎของพระเจ้าดังที่ถูกสรุปไว้ในพระบัญญัติสิบประการ การตอบสนองที่สำคัญสุดของชาวอิสราเอลคือ ต้องเคารพบูชาพระยาเวห์ และให้การยืนยันว่าพระยาเวห์เป็นพระเจ้าแท้จริงหนึ่งเดียว, แหล่งกำเนิดของทุกสิ่งที่มีชีวิต, บุคคลผู้รักษาทุกสิ่งให้คงอยู่  พระเจ้าอื่นทั้งหมดไม่จริงด้วยเหตุนั้นจึงไร้อำนาจ
เราไม่สามารถรู้จักพระเจ้า CCC 212-217; 268-271
    พระเจ้าเป็นสิ่งลี้ลับ  พระเจ้าไม่รวมอยู่ในสิ่งสร้างโดยสิ้นเชิง  พระองค์ทรงอยู่เหนือสิ่งสร้างและเกินความเข้าใจของสรรพสิ่ง  พระเจ้าทรงเป็นจิตหนึ่งที่บริสุทธิ์(a pure Spirit) ผู้ทรงอยู่ชั่วนิรันดร์, เป็นหนึ่งเดียว, ไม่สิ้นสุด, ทั้งยังทรงพลังอย่างยิ่ง, ไม่เปลี่ยนแปลง, ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด, และเรียบง่ายที่สุด  แม้กระนั้นพระเจ้ายังประทับอยู่และร่วมกับสิ่งสร้างอย่างใกล้ชิด ตัวอย่างเช่น พระเจ้าทรงแต่งตั้งและค้ำจุนประชากรที่พระองค์ทรงเลือกสรร, ทรงทำตัวเป็นเพื่อนประกาศกผู้พูดในพระนามของพระองค์, และทรงสัญญาว่าจะประทานพระเมสสิยาห์
พระเจ้าทรงเป็นพระผู้สร้าง  CCC 279-308; 315-323; 337-349; 355-373; 380-384
    พระเจ้าทรงสร้างทุกสิ่งจากความว่างเปล่า หมายความว่า การสร้างเป็นไปอย่างอิสระ, ใจกว้าง, และทำอย่างชาญฉลาด พร้อมกับแบ่งปันความรุ่งโรจน์ของพระเจ้า  พระเจ้าทรงค้ำจุนและปกครองโลกด้วยปรีชาญาณของพระองค์   พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์เป็นฉายาของพระเจ้า, สามารถคิด, เลือกและรัก  ลักษณะมนุษย์ของเรารวมโลกฝ่ายจิตและฝ่ายร่างกายเข้าไว้ด้วยกัน  มนุษย์ที่ถูกสร้างมาเป็น “ชายและหญิง” ในความสัมพันธ์ฉันมิตรของพระเจ้ามีศักดิ์ศรีพื้นฐาน  พระเจ้าทรงสร้างทุกสิ่งเพื่อมนุษย์  แต่มนุษย์แต่ละคนก็ถูกสร้างมาเพื่อรับใช้และรักพระเจ้า  รวมทั้งเพื่อมอบสิ่งสร้างทั้งมวลกลับคืนสู่พระองค์
ความชั่วร้ายคงอยู่เพราะบาปของเรา  CCC 374-379; 386-390; 396-412; 415-421
    เนื่องจากพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอิสระไม่ได้เป็นเพียงหุ่นกระบอก  พวกเราจึงมีโอกาสที่จะยอมรับหรือปฏิเสธความรักของพระเจ้าตั้งแต่เริ่มต้น  บาปกำเนิดคือผลลัพธ์อันเป็นทุกข์ที่เกิดจากการเลือกปฏิเสธพระเจ้าของอาดัมและเอวา  บาปของพวกเขานำไปสู่ความแตกแยกระหว่างพระเจ้ากับมนุษยชาติ  หนังสือปฐมกาลบอกเราว่าความสัมพันธ์ที่ถูกทำให้แตกออกนี้ก่อให้เกิดความเห็นแตกต่างกันเกี่ยวกับสิ่งสำคัญๆ ซึ่งทำให้มนุษย์ไม่เป็นมิตรกับสิ่งสร้างอื่นๆ และความเหินห่างกันและกันของมนุษย์เรา  สภาพอันเกิดจากความผิดของมนุษย์นี้เราเรียกว่า “บาปกำเนิด”
พระเจ้าทรงเป็นผู้ที่รัก, ซื่อสัตย์ และถูกต้อง  CCC 214-221
    สาระสำคัญเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การช่วยให้รอดพ้นคือ พระเจ้าทรงมีความซื่อสัตย์ด้วยความรักต่อสิ่งสร้างที่ไม่ซื่อสัตย์ของพระองค์  ความรักของพระเจ้าปรากฏในการกระทำเช่นเดียวกับถ้อยคำ  การกระทำของพระเจ้าแสดงให้เห็นพระเจ้าผู้ทรงช่วยให้รอดพ้น หมายถึงบุคคลผู้ช่วยเหลือชาวอิสราเอลให้พ้นจากสภาพการถูกควบคุมเป็นทาสในอียิปต์, บุคคลผู้ค้ำจุนพวกเขาในทะเลทราย, บุคคลผู้ประทานดินแดนและกษัตริย์แก่พวกเขา, บุคคลผู้เลี้ยงดูพวกเขาให้มีชีวิตยามที่ถูกกักขัง, และบุคคลผู้นำพวกเขากลับสู่ดินแดนของพวกเขา
    ส่วนที่ดีพิเศษในเรื่องความห่วงใยซึ่งเต็มไปด้วยความรักของพระเจ้าคือ คำสัญญาที่จะส่งพระเมสสิยาห์ ผู้ทรงเป็นพระผู้ไถ่ซึ่งจะมาช่วยรื้อฟื้นความสัมพันธ์แท้จริงของมนุษย์กับพระเจ้า และเพื่อให้คำสัญญานี้สำเร็จสมบูรณ์  พระเจ้าได้ทรงส่งพระเยซูคริสต์ พระบุตรองค์เดียวของพระองค์ลงมาในโลก

ถ้าพระเจ้าทรงรู้ทั้งหมด เราจะมีความปรารถนาอิสระได้อย่างไร? CCC 311
    ความรู้ของพระเจ้าไม่ได้บังคับเราให้ทำสิ่งใด  พระเจ้าให้เสรีภาพแก่เราและเคารพเสรีภาพนั้น  แม้ว่ามันจะนำเราห่างไกลจากความรักของพระเจ้า

ถ้าพระเจ้าทรงความดีแล้วทำไมมีความชั่วร้าย? CCC 272-274; 309-314; 324
    พระเจ้าไม่ได้ทรงสร้างสิ่งชั่วร้าย  แต่ความชั่วร้ายคือ การขาดความถูกต้องทางศีลธรรม  แน่นอนพระเจ้าทรงยอมให้สิ่งชั่วร้าย  สิ่งชั่วร้ายจึงเข้าสู่สถานการณ์ทั่วไปได้เมื่อสิ่งสร้างที่มีความฉลาดและมีอิสระหันออกจากความรักของพระเจ้า  เรายังเชื่อว่าสิ่งชั่วร้ายบางอย่างในจักรวาลเกิดขึ้นจากบรรดาทูตสวรรค์ซึ่งตกลงมาในโลก(ซาตาน-devils) ที่ไม่เห็นด้วยกับพระผู้สร้างพวกเขา