บทที่ 5 : ริษยา (ENVY)
    พยศชั่ว “ริษยา” มีรากเหง้าที่เกิดขึ้นมาจากความเกลียดชัง, การดูหมิ่นสบประมาท, การใส่ร้าย, ความยินดีในโชคร้าย และ ฐานะที่ตกต่ำของผู้อื่น ความเกลียดทุกรูปแบบ, การต่อสู้กัน, การทะเลาะวิวาทช่วงชิง, การโต้เถียงวิวาท, การประหัตประหาร, การลอบกัด, ความหึงหวงอิจฉา, การดูถูกเหยียดหยาม, การไม่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้แก่กันและกัน, การผูกพยาบาท และ ความมุ่งร้ายจะเกิดขึ้นจากพยศชั่วนี้เพราะว่าสิ่งเหล่านี้ดูเหมือนจะทำให้คุณธรรมของเราและการมีสัมมาคารวะของเราลดน้อยถอยลง เรามีความริษยาต่อสิ่งของของผู้อื่น หรือ ต่อสภาพที่ดีหรือการได้รับรางวัลของผู้อื่น

   แม้เราจะมีพยศชั่วนี้เพียงเล็กน้อย มันก็ไม่เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าและขัดแย้งกับพระหรรษทานของพระองค์เป็นอย่างมาก    มันเป็นการเนรคุณต่อพระเจ้าอย่างมากทีเดียว
    พยศชั่ว “ริษยา” นั้นเกิดตามมาจากความทะนงตัว    เราจะมีความปรารถนาที่จะเหนือกว่าผู้อื่นที่เราริษยา ดังนั้นเราจึงเสียใจสภาพที่ดีของผู้อื่นและเรารู้สึกว่าเราด้อยกว่าเขาผู้นั้น; เราจะมีความชื่นชมยินดีเมื่อเขาผู้นั้นประสบความตกต่ำ    เราจะมองว่าเขาชั่วร้ายไม่ว่าเขาจะพูดหรือทำอะไร  และ ชอบจับตาดูจุดบกพร่องของเขาที่อาจแสดงออกมาตลอดเวลา
    พยศชั่ว “ริษยา” นั้นทำลายกิจการกุศลในหัวใจของเราและกันเราให้ห่างจากความสำเร็จสมบูรณ์ และทำให้เรามีความเกลียดชังต่อพระเจ้า    มันทำให้เราเป็นคนไม่มีความกตัญญูกตเวที  ดังนั้นเราจึงไม่รู้สึกขอบคุณในผลประโยชน์ใดๆ ที่เราได้รับ แต่กลับไม่เห็นคุณค่าของผลประโยชน์นั้นๆ เลย

การตอบโต้พยศชั่ว “ริษยา”
    ไม่มีอะไรยากที่จะรักษาไปกว่าความริษยาแล้ว เพราะไม่มีอะไรทำให้จิตวิญญาณเสียหาย และความคิดเดือดร้อนและเจ็บระทมได้มากขนาดนี้        พยศชั่ว “ริษยา” กัดกร่อนหัวใจของเราเหมือนกับหนอนที่ชอนไชผลไม้จนเสียหาย    การตอบโต้พยศชั่วนี้ต้องอาศัยการสวดภาวนาด้วยศรัทธาที่แรงกล้า, การหมั่นปฏิบัติความนอบน้อมถ่อมตน และการไตร่ตรองถึงความร้ายแรงจากบาปนี้, ความยากลำบากของการรักษาและปีศาจที่ออกมาจากพยศชั่วนี้    การดำเนินชีวิตของนักบุญนั้นจะให้แรงบันดาลใจแก่เราได้เป็นอย่างมาก
    คุณธรรมที่ต่อต้านพยศชั่ว “ริษยา” คือ เมตตาธรรม หรือ ความรักฉันพี่น้อง    ความรักฉันพี่น้องนั้นทำให้เรา เอาใจเขามาใส่ใจเรา    มันจะทำให้เราตั้งใจที่จะประพฤติและยอมเจ็บปวดเพื่อผู้อื่น, จูงใจให้เราเห็นใจความล้มเหลวของผู้อื่น, ร่วมเสียใจและหวังที่จะช่วยเหลือเขา    มันจะทำให้เรามีความยินดีด้วยความจริงใจในความสำเร็จของผู้อื่น และระงับอารมณ์ที่จะเกลียดชัง เคียดแค้น หรือ คิดร้ายที่เกิดขึ้นมาได้
    พยศชั่ว “ริษยา” เป็นเครื่องมือของปีศาจในทางโลกที่มองหาความล่มจมของจิตวิญญาณเพราะว่าพวกมันริษยาคุณงามความดีของมนุษย์และต้องการที่จะล้างแค้นต่อพระเจ้าโดยการทำลายมนุษย์  ถ้าเราไม่ต้องการที่จะตกเป็นเครื่องมือของปีศาจแล้ว เราต้องมุ่งมั่นในการสร้างสันติและความรักให้เป็นกฎพื้นฐานของความสัมพันธ์ของเราต่อผู้อื่น    เราทุกคนต่างเป็นพี่น้องกันในสายพระเนตรของพระเจ้า    และโดยอาศัยศีลล้างบาปเราทุกคนได้กลายเป็นสมาชิกในรหัสธรรมล้ำลึกของพระกายเดียวกันของพระคริสตเจ้า    ด้วยเหตุนี้เมื่อเราทำให้ผู้อื่นเจ็บช้ำน้ำใจ เราก็ทำบาปต่อองค์พระคริสตเจ้าและตัวเราเองด้วย    เราต้องมองเห็นพระคริสตเจ้าในตัวทุกคน    ถ้าเราพูดจาดีๆ กับผู้อื่นเสมอๆ ป้องกันเขาและช่วยเหลือเขาด้วยกิจเมตตาธรรม    เราทุกคนเป็นกายเดียวกันที่แสวงหาจุดมุ่งหมายปลายทางเดียวกัน คือ ชีวิตนิรันดรในสวรรค์    ดังนั้น เราทุกคนต้องเป็นเสมือนจิตวิญญาณเดียวกัน คือ จิตวิญญาณในพระคริสต์ – พระจิตเจ้าผู้เป็นกุศลกิจ