DSCN0816

ความหวัง
ความเชื่อที่ว่า ความรักเท่านั้นที่ดำรงอยู่นิรันดร ทำให้ชาวคริสต์มีความหวัง พยานหลักฐานสำคัญคือ ความรักของพระบิดาเจ้า และการกลับคืนชีพของพระเยซู เรารู้ว่าชีวิตเราไม่สูญเปล่าแต่มีคุณค่ามีความหมาย และชีวิตนิรันดรเริ่มต้นในเรา เมื่อเรารู้จักรักอย่างพระเยซู ผู้ทรงมีพลังยิ่งใหญ่เหนือความตาย เพราะพระเจ้าทรงเป็นความรัก และพระเยซูทรงกลับคืนชีพ เราจึงเชื่อว่าในวันหนึ่งข้างหน้า พระเจ้าผู้ทรงสัตย์ซื่อจะทรงสร้างแผ่นดินโลกใหม่ (อิสยาห์ 65:17; วิวรณ์ 21:1)

เมื่อถึงเวลานั้นผลของความเชื่อ และความหวังที่เติบโตขึ้นจากการบ่มเลี้ยงด้วยแสงสว่างของพระจิตก็จะสุกงอม ความพยายามในการต่อสู้เพื่อความจริง ความเป็นธรรม อิสรภาพ และความรักในโลกนี้ คือการปูพื้นฐานความสัมพันธ์ฉันพี่น้องที่มีอยู่ในแผ่นดินนิรันดรของพระเจ้า พระเจ้าทรงอยู่กับเรา และทรงพยายามนำโลกนี้ไปสู่แผ่นดินอันดีครบบริบูรณ์ของพระองค์โดยผ่านทางความพยายามของเรา “ถ้าเรามีชีวิตอยู่ ก็มีชีวิตอยู่เพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า ถ้าเราตายก็ตายเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า” (โรม 14:8) ถ้าเราเชื่อในพระคริสต์ และรักซึ่งกันและกันด้วยความรักของพระเจ้า “แม้ตายไปแล้วก็จะมีชีวิต” (ยอห์น 11:25) พระเจ้า “มีพระประสงค์ให้ทุกคนได้รับความรอดพ้น และรู้ความจริงที่สมบูรณ์” (1 ทิโมธี 2:4) เราเองตลอดจนคนทุกคน ล้วนต้องการมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขกับพระเจ้าตลอดนิรันดร ตรงนี้เองที่เป็นความหวังของเรา และ “ความหวังนี้ไม่ทำให้เราผิดหวัง” (โรม 5:5) เพราะว่ารากฐานของความหวังนี้คือ ความสัตย์ซื่อของพระเจ้า การกลับคืนชีพของพระคริสต์ และฤทธิ์อำนาจของพระจิต ดังนั้นความมืดใดๆ ก็ไม่สามารถดับประกายของความหวังนี้ได้ ความหวังคือไฟอัศจรรย์ไม่ว่าความผิดพลาดมากมายแค่ไหนก็ไม่อาจดับไฟแห่งความหวังนี้ได้ เพราะพลังที่ทำให้เปลวไฟนั้นลุกไหม้อยู่ตลอดนิรันดรจนถึงวันสุดท้ายของแผ่นดินโลกได้ก็คือ พระจิตของพระเจ้า