เดินตามดวงดาว
(มธ.2:1-12 )
camels3wisemen    โหราจารย์เหล่านั้นน่าจะเป็นนักดาราศาสตร์ด้วย พวกเขาติดตามศึกษาความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงของดวงดาวต่างๆ ทุกวัน แล้ววันหนึ่งเขาพบว่ามีดาวดวงหนึ่งที่แตกต่างไปจากดาวดวงอื่นๆ จึงพากันค้นคว้าเรื่องของดวงดาวนั้นจากตำราเก่าแก่ต่างๆ จนในที่สุดก็พบว่าดวงดาวนั้นเป็นสัญลักษณ์การเสด็จมาบังเกิดของพระเมสสิยาห์ ด้วยความที่อยากเข้าเฝ้าพระองค์ บรรดาโหราจารย์จึงตัดสินใจออกเดินทางตามดวงดาวประหลาดนั้นไป

    สมัยนั้นการเดินทางเต็มไปด้วยภัยอันตราย ในทะเลทรายที่ร้อนแห้งแล้ง กันดารทั้งอาหารและน้ำดื่ม บางครั้งต้องเผชิญกับโจรผู้ร้ายด้วย เพื่อนๆและครอบครัวพวกเขาคงจะพากันคัดค้าน และอาจคิดว่าบรรดาโหราจารย์นั้นเสียสติไปแล้ว แต่ไม่มีอะไรขัดขวางความร้อนรน อยากพบพระเมสสิยาห์ของพวกเขาได้ โหราจารย์เหล่านั้นพากันออกเดินทางตามดวงดาวไป ในที่สุด หลังจากการเดินทางติดตามดวงดาวประหลาดนั้นไปเป็นเวลายาวนานพวกเขาก็ได้พบพระเมสิยาห์ และบรรดาโหราจารย์มีความยินดียิ่งนัก พวกเขาถวายทองคำ กำยานและมดยอบ แด่พระกุมาร ของขวัญเหล่านี้มีความหมายต่อเราอย่างไรบ้าง คำตอบคือ โลกเห็นว่าทองคำมีค่าที่สุดสำหรับเรา สิ่งมีค่ามากกว่านั้นคือความรัก ส่วนกำยานเป็นเครื่องหอมใช้ประกอบพิธีสักการบูชา แต่หมายถึงการสวดภาวนาของเรา มดยอมเป็นสิ่งที่ใช้ในพิธีศพ ไม่เหมาะที่จะนำมาเป็นของขวัญ แต่สำหรับเราสิ่งนี้หมายถึงกางเขนของพระเยซู ซึ่งก็คือความทุกข์ยากต่างๆ สรุปคือที่เราจะมอบถวายแด่พระเยซูมีเพียง ความรัก การสวดภาวนา และกางเขน หรือความยากลำบากในชีวิตประจำวันเท่านั้นเอง เมื่อเราแสวงหาการทรงนำของดวงดาวคือพระจิตนั้น เราควรจะติดตามด้วยความซื่อสัตย์เหมือนบรรดาโหราจารย์ การเดินทางของชีวิตภายใต้การนำของดวงดาวคือพระจิตนั้นคงต้องเผชิญความยากลำบาก บางครั้งอาจมีเสียงว่ากล่าวคัดค้านด้วยความเข้าใจผิดจากครอบครัวและเพื่อนฝูง แต่การดำเนินไปภายใต้การนำของดวงดาวคือพระจิตนั้น เราจะมีความยินดียิ่งนัก เช่นเดียวกับบรรดาโหราจารย์
    เป็นเรื่องธรรมดาที่เรามักจะไม่ค่อยจะเข้าใจถึงความหมายความยากลำบากในขณะที่เรากำลังเผชิญกับมัน จนเมื่อความยากลำบากนั้นผ่านพ้นไป เมื่อเราย้อนไปดูสิ่งที่เกิดขึ้นเราจะเข้าใจดีขึ้นของความหมายของความยากลำบากที่เราต้องเผชิญว่า มันเป็นสิ่งที่ช่วยพัฒนาเรา ให้เราเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น และในขณะเดียวกันเราจะเข้าใจคำสอนของเปาโลที่ว่า “ท่านทั้งหลายไม่เคยเผชิญกับการทดลองใดๆที่เกินกำลังมนุษย์ พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อ พระองค์จะไม่ทรงอนุญาตให้ท่านถูกทดลองเกินกำลังของท่าน แต่เมื่อถูกทดลองพระองค์จะประทานความสามารถให้ท่านยืนหยัดมั่นคงและหาทางออกได้ ” (1คร.10:13)