ทำไมเราจึงต้องเรียนคำสอน (Catechesis)
คำสอน มาจากคำภาษากรีกว่า katechein ดั้งเดิมหมายถึง การสอนปากเปล่า ต่อมามีการรวบรวมคู่มือสอนศาสนาที่ใช้ชื่อว่า หนังสือคำสอน เป็นชื่อที่มีลักษณะเฉพาะที่ใช้เรียกคู่มือคำสอน ได้รับการจัดให้เป็นระบบในรูปแบบ ถาม-ตอบ
- ลักษณะสำคัญของคู่มือประเภทนี้ที่เรียกว่าหนังสือคำสอนนั้น มีหลักความเชื่อคริสตชนขั้นพื้นฐานที่เรียบเรียงแบบให้เข้าใจง่าย และจำได้ง่ายด้วย อันที่จริงนั้นจุดประสงค์ก็คือ การจัดเป็น ถาม-ตอบ ในแง่หนึ่ง หนังสือคำสอนนั้นมีไว้ให้คนเรียนรู้ข้อความเชื่อ ส่วนในอีกแง่หนึ่งก็ใช้เป็นคู่มือสอนคนอื่น นั่นก็คือ คู่มือการสอนคำสอน (catechesis)
- จนถึงศตวรรษที่ 15 มีการสอนหลักความเชื่อคริสตชน แบบคล้ายๆ กับดีดาเค แต่เพิ่มข้อมูลเพื่ออธิบายมากขึ้น นักบุญฟรังซิส เซเวียร์ ได้ใช้หนังสือคำสอนคล้ายๆ กันนี้ เมื่อไปถึงประเทศอินเดีย ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1542 ท่านได้เรียบเรียงขึ้นที่เมืองกัว อย่างไรก็ตาม ได้มีการประยุกต์มาจากหนังสือคำสอนของ ยวง เดบาร์รอส (ค.ศ. 1496-1570) นักประพันธ์ชื่อดังชาวโปรตุเกส ซึ่งเขียนหนังสือเรื่อง Decadas da Asia
- หนังสือคำสอนเป็นผลมาจากประชุมสภาสังคายนาของพระศาสนจักรทั้งในระดับภูมิภาคและระดับสากล ดังนั้นเราจึงมีหนังสือคำสอนที่เป็นผลมาจากการประชุมสภาสังคายนา ตอร์โตซา ในประเทศสเปน ปี ค.ศ. 1429 และจากการประชุมสังคายนาแห่งเตรนต์ (ค.ศ. 1566) ยังมีหนังสือคำสอนสำหรับสังฆมณฑล หรือประเทศต่างๆ เช่น “หนังสือคำสอนเพนนี” ของประเทศอังกฤษ และหนังสือคำสอนบัลติมอร์แห่งสหรัฐอเมริกา สำหรับพระศาสนจักรสากลนั้นมีหนังสือคำสอนโรมัน จากสภาสังคายนาแห่งเตรนต์
- เราจะเห็นว่าจุดประสงค์ของคำสอนนั้นคือ การสื่อให้สัตบุรุษได้รู้ถึงเนื้อหาสาระที่เป็นหลักสำคัญพื้นฐานของความเชื่อคาทอลิก และหลักศีลธรรมที่ชัดเจน สมบูรณ์ แต่กระชับ ในกรณีหนังสือคำสอนสำหรับพระศาสนจักรสากลนั้นใช้เป็นข้ออ้างอิงของหนังสือคำสอนระดับประเทศ และระดับสังฆมณฑล