พระวาจามีความหมายครอบคลุมสิ่งสร้างทั้งหมด


8.    เมื่อคำนึงถึงความหมายหลักของวลี “พระวาจาของพระเจ้า” ซึ่งหมายถึงพระวจนาตถ์นิรันดรของพระเจ้า และพระวจนาตถ์นี้ได้ทรงรับธรรมชาติมนุษย์มาเป็นพระผู้กอบกู้และเป็นคนกลางระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์  และเมื่อฟังพระวาจานี้ การเปิดเผยในพระคัมภีร์ก็นำพวกเราให้ยอมรับว่าพระวาจา (หรือพระวจนาตถ์) นี้เป็นพื้นฐานของทุกสิ่ง อารัมภบทของพระวรสารนักบุญยอห์นยืนยันเกี่ยวกับพระวจนาตถ์ (Logos) ของพระเจ้าว่า “พระเจ้าทรงสร้างทุกสิ่งอาศัยพระวจนาตถ์ ไม่มีสักสิ่งเดียวที่พระเจ้าไม่ทรงสร้างโดยทางพระวจนาตถ์” (ยน 1:3) จดหมายถึงชาวโคโลสียังกล่าวถึงพระคริสตเจ้าด้วยว่าพระองค์ทรงเป็น “บุตรคนแรกในบรรดาสิ่งสร้างทั้งปวง” (1:15) และ “สรรพสิ่งทั้งในสวรรค์และบนแผ่นดิน..ถูกเนรมิตขึ้นโดยพระองค์และเพื่อพระองค์” (1:16) ผู้เขียนจดหมายถึงชาวฮีบรูยังบอกเราอีกว่า “เพราะความเชื่อเราจึงเข้าใจว่าพระวาจาของพระเจ้าเนรมิตสร้างโลก ดังนั้น สิ่งที่มนุษย์มองเห็นได้จึงเกิดขึ้นจากสิ่งที่มนุษย์มองไม่เห็น” (11:3)
    ถ้อยคำนี้สำหรับเราจึงเป็นข่าวดีที่ให้อิสรภาพ พระคัมภีร์บอกเราว่าทุกสิ่งไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญหรือไร้เหตุผล แต่มาจากพระประสงค์ของพระเจ้า อยู่ในแผนการของพระองค์ ศูนย์กลางของแผนการนี้ก็คือ ทรงเชิญชวนให้เราเข้ามามีส่วนในชีวิตพระกับพระคริสตเจ้า. พระวจนาตถ์ทรงเนรมิตสิ่งสร้าง ที่ยังคงรักษาร่องรอยของเหตุผลผู้เนรมิตสร้างที่จัดระเบียบและนำแนวทางไว้อย่างไม่ลบเลือน เพลงสดุดีต่างๆขับร้องความจริงน่ายินดีนี้ว่า “พระวาจาขององค์พระผู้เป็นเจ้าสร้างท้องฟ้า ลมจากพระโอษฐ์สร้างดวงดาวที่ประดับประดาอยู่บนนั้น” (สดด 33:6) และยังกล่าวอีกว่า “พระองค์ตรัสสิ่งใด ก็เป็นไปตามนั้น ทรงบัญชาสิ่งใด สิ่งนั้นก็ปรากฏ” (สดด 33:9) สิ่งสร้างทั้งปวงแสดงธรรมล้ำลึกประการนี้ให้ปรากฏ “ท้องฟ้าประกาศพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า แผ่นฟ้าบอกเล่าผลงานจากพระหัตถ์ของพระองค์” (สดด 19:1) เพราะฉะนั้น พระคัมภีร์จึงเตือนเราให้มองดูสิ่งสร้างแล้วยอมรับพระผู้เนรมิตสร้าง (เทียบ ปชญ 13:5; รม 1:19-20) ธรรมประเพณีคำสอนของคริสตชนได้พิจารณาลึกซึ้งยิ่งขึ้น ถึงองค์ประกอบสำคัญของวงดนตรีประสานเสียงแห่งพระวาจานี้ ตัวอย่างเช่นนักบุญโบนาเวนตูรา ซึ่งเข้าใจเช่นเดียวกับธรรมประเพณีของบรรดาปิตาจารย์ชาวกรีกว่า ทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงเนรมิตสร้างขึ้นได้นั้นเกี่ยวข้องกับพระวจนาตถ์  ก็กล่าวว่า “สิ่งสร้างทั้งหลายคือพระวาจาของพระเจ้า เพราะสิ่งสร้างเหล่านี้ประกาศถึงพระเจ้า”  ธรรมนูญ Dei Verbum กล่าวเรื่องนี้โดยสรุปว่า “พระเจ้าทรงเนรมิตสร้างและทรงค้ำชูสรรพสิ่งไว้ด้วยพระวจนาตถ์ (เทียบ ยน 1:3) โปรดให้สิ่งที่ทรงเนรมิตสร้างมานั้นเป็นพยานถึงพระองค์อยู่เสมอ”